ผักกาดหอม
วานนี้ (๒๐ มีนาคม) กะว่าจะตามข่าว “พี่โก้ เมืองเพชร” ทั้งวัน
เพราะชอบควายเผือก เป็นการส่วนตัว
“พี่โก้ เมืองเพชร” ไม่ใช่ควายเผือกธรรมดานะครับ หนักตั้งตันครึ่ง ก็เลยตั้งใจว่าจะเกาะติดสถานการณ์ ตอนเข้าพบนายกฯ เศรษฐา ที่ทำเนียบรัฐบาล อยากรู้ว่ารัฐบาลจะให้ความสำคัญแค่ไหน
เห็นถ่ายภาพคู่กับนายกฯ บอกตรงๆ อุ่นใจ ดูดีมีสง่าราศีอย่างมาก
แต่นึกถึง “ฉ่ำ จำรัสเนตร” ผู้แทนฯ นครศรีธรรมราช ๕ สมัย ก่อนปีกึ่งพุทธกาล ขี่ควายเข้าสภาฯ ถูกหาว่าเป็นคนบ้า แต่ลึกๆ คือซ่อนความทุกข์ยากลำบากของชาวนา
และชาวนาก็ทุกข์ยากมาจวบจนวันนี้
แม้ “พี่โก้” ไม่ได้เข้าทำเนียบเพื่อสื่อถึงความแร้นแค้นของชาวนา เพราะ “พี่โก้” มาในฐานะเซเลบ ต้องการสื่อว่าถึงเวลาต้องอนุรักษ์ควายไทย ก่อนที่จะไม่เหลือพันธุ์
เสียงเรียกร้องของ “พี่โก้” จึงดังไปทั่วประเทศ
ขนาดนายกฯ เศรษฐายังตะลึง ไม่เคยรู้ว่ามีควายที่สวยขนาดนี้มาก่อน
ถือว่า “พี่โก้” ทำงานได้สำเร็จตามเป้า
สมาคมพัฒนาพันธุ์ควายไทย ขอรัฐบาลผลักดันเป็น soft power ด้วย
จัดไปครับ!
ของดีหายากแบบนี้ มันต้องไประดับโลกให้ได้
๑๓-๑๔ เมษายนนี้ “พี่โก้” จะไปโชว์ตัวเล่นน้ำสงกรานต์ กับนักท่องเที่ยวถนนข้าวสาร แต่ก็หวั่นๆ ให้ดูอารมณ์ “พี่โก้” ด้วย
หากเจอคนเยอะ เสียงดังเกินกว่าที่ “พี่โก้” จะรับได้ เกรงว่าพี่แกจะอารมณ์เสีย
ก็ต้องระวังกันด้วย
แต่…หงุดหงิดจริงๆ ตามข่าว “พี่โก้” อยู่ดีๆ พี่ๆ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แย่งซีนไปซะงั้น
เกือบๆ เที่ยงวัน “บิ๊กต่อ” กับ “บิ๊กโจ๊ก” แถลงข่าว จับไม้จับมือ กอดคอ กอดเอว นัยว่าสงบศึกนายพลสีกากี
นักข่าวหัวเห็ดรายงานว่าระหว่างการแถลงข่าว “บิ๊กโจ๊ก” สีหน้าเคร่งเครียด
“บิ๊กต่อ” เป็นคนยึดไมค์
สรุปคือ คดีเว็บพนันออนไลน์ ส่งให้ ป.ป.ช.รับไปดำเนินการ
จุดนี้น่าจะตรงใจ “บิ๊กโจ๊ก” เพราะเรียกร้องมาตลอด อยากให้คดีพ้นจากความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่คำพูด “บิ๊กต่อ” ฟังแล้ว อดคิดไม่ได้ ทำไมถึงยอมส่งคดีให้ ป.ป.ช. ทั้งๆ ที่จุดยืนก่อนนี้ ผบ.ตร.เล่นบท “จ่าเฉย” มาตลอด
“…ตอนนี้ผมเหลืออายุราชการอีก ๑๙๔ วัน จึงอยากทำทุกวันให้ดี ตั้งแต่ดำรงตำแหน่ง ไม่เคยมีความขัดแย้งกับใคร อยู่กันแบบพี่น้องสร้าง Home ไม่ใช่ House
ไม่จำเป็นต้องมากอดกันเพื่อสร้างภาพ ขาดจากพี่ไปแล้วความจริงใจ หาจากคนอื่นๆ ไม่มีใครเกินร้อยเท่าพี่และไม่มีใครเตือน ก่อนจะออกหนังสือก็ต้องคุยก่อน…”
ดูเหมือน “บิ๊กต่อ” ยอมเสียสละ เพื่อให้จบความขัดแย้ง
และกู้ภาพสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ฝั่ง “บิ๊กโจ๊ก” ดูมั่นอกมั่นใจ
“…แนวคิดเดียวคือทำงานเพื่อประชาชน และเมื่อเช้าผบ.ตร.นำเรียนกับท่านนายกฯ ว่าจะส่งสำนวนให้กับทางป.ป.ช.ทั้งหมด และหมายจับหมายเรียกทั้งหมด เป็นเรื่องของ ป.ป.ช. เป็นกระบวนการของกฎหมาย เรื่องเดิม เรื่องเก่าไม่คุย ต้องเดินหน้าทำงานให้ประชาชน และต้องทำงานช่วย ผบ.ตร.ขับเคลื่อนอย่างเดียว ที่นัดแถลงเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า จากวันนี้จะไม่มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้นและเดินหน้าเรื่องความสามัคคี…”
“…ต้องเสียสละเรื่องราวในอดีต ลูกน้องผมมีคดีก็ต้องไปแก้เอา…”
ใช่ครับก่อนแถลงข่าวทั้งคู่เข้าพบนายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังนายกฯ พบ “พี่โก้”
เห็นว่าวิน-วินกันหมดยกเว้น “บิ๊กโจ๊ก”
เกมมาพลิกทีหลังตามไม่ทัน
เพราะหลัง “บิ๊กต่อ” กับ “บิ๊กโจ๊ก” แถลงข่าว นายกฯ มีคำสั่งให้ทั้งคู่ เข้าไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ๖๐ วัน
ข่าวออกมาว่าเด้งทั้งคู่
ตั้ง “บิ๊กต่าย” พลตำรวจเอกกิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. รักษาการ ผบ.ตร.
วงการตำรวจไทย มันช่างลึกลับซับซ้อน และซ่อนเงื่อนจริงๆ
ก็เพราะแตะตรงไหน ตรงนั้นน้ำหนองไหล จึงไม่สามารถแก้ปัญหาอย่างตรงไปตรงมาได้ ความพิลึกพิลั่นจึงบังเกิด
ข่าวนี้ดันก้น นายกฯ เศรษฐา เป็นทั่นผู้นำที่มีความเด็ดขาดขึ้นมาทันที
กองเชียร์บอกว่าจบ
แต่กองแช่ง เล็งไปเล็งมา เพิ่งจะเริ่มต้นชัดๆ
นายกฯ บอกว่า ๖๐ วันที่ว่านี้ “เป็นการชั่วคราวและไม่ได้เป็นการลงโทษ เงินเดือน และทุกอย่างยังเหมือนเดิม”
ก็แสดงว่าทั้งคู่สามารถรีเทิร์นได้!
แต่…อยู่บนเงื่อนไข กรรมการสอบจะสอบเสร็จเมื่อไหร่
นายกฯ พูดไว้ชัดครับ
“…ทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายในทางที่ดีขึ้น ซึ่งภายใน ๖๐ วัน หากคณะกรรมการทั้ง ๓ ท่านตรวจสอบมาแล้ว หรืออาจต้องใช้เวลามากกว่านั้น แต่ถ้าพิสูจน์ได้ว่า กระบวนการยุติธรรมสามารถเดินไปได้ โดยที่ไม่ต้องมีการก้าวก่าย หรือแทรกแซง ก็อาจจะพิจารณาโอนย้ายกลับมา ขอเวลาให้คณะกรรมการทำงาน ย้ำว่าคณะกรรมการจะมีการพิจารณาในทุกเรื่อง และทุกคดีที่มีการกล่าวโทษกัน…”
พูดแบบนี้ตามหน้าเสื่อ “บิ๊กโจ๊ก” เสียเปรียบครับ
เพราะ “บิ๊กโจ๊ก” มีคดี
ส่วน “บิ๊กต่อ” ไม่มีคดี
ฉะนั้น “บิ๊กต่อ” มีแนวโน้มได้กลับใน ๖๐ วัน
แต่สำหรับ “บิ๊กโจ๊ก” ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะได้กลับ
แมวเก้าชีวิตอย่าง “บิ๊กโจ๊ก” อาจถึงชีวิตที่สิบแล้ว
เมื่อไหร่ที่สำนวนคดีเว็บพนันออนไลน์ทั้งหมด โยนถึงมือ ป.ป.ช. เมื่อนั้นความบันเทิงจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
เพราะฝั่ง ป.ป.ช. เห็นว่าตีนพลิก ต้องทายาหม่องกันเป็นแถว
เดิมทีคดีนี้ไม่ได้โฟกัสไปที่ ป.ป.ช.มากนัก สปอตไลต์จึงไม่ได้ฉายไปที่นั่นมากเท่าไหร่
ใครจะไปวิ่ง ไปนอน ไปเดินเล่นใน ป.ป.ช. จึงไม่เป็นที่จับจ้อง
แต่หลังจากวันนี้ คนใน ป.ป.ช.บางกลุ่มระวังตัวไว้ให้ดี จากเชือดคนอื่นอาจจะถูกเชือดเสียเอง หากทำหน้าที่ไม่ตรงไปตรงมา
ครับ…เรื่องนี้หนังยาว
เกิน ๖๐ วันแน่นอน
