พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย บนเรือ Ocean Valor บริเวณอ่าวไทยใกล้จุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปางในพื้นที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มายังเรือหลวงอ่างทอง โดยมีพลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการค้นหาและปลดอาวุธอันตรายเรือหลวงสุโขทัย และนาวาเอก Hugh Winkel ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือสหรัฐฯ ประจำกรุงเทพมหานคร ให้การต้อนรับ และร่วมสังเกตุการณ์บนเรือ Ocean Valor ซึ่งเป็นเรือปฏิบัติการหลัก ในการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัย
โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ทักทายกำลังพลกองทัพเรือและกองทัพเรือสหรัฐ รวมถึงผู้บังคับการหน่วยดำน้ำกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ และสังเกตการณ์การปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่ขั้นเตรียมการก่อนลงปฏิบัติการจนถึงขั้นการลงไปปฏิบัติงานใต้น้ำ
ในเวลาต่อมา ผู้บังคับการหน่วยดำน้ำกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้นำผู้บัญชาการทหารเรือชมระบบติดต่อสื่อสารและแสดงภาพจากทีมชุดประดาน้ำ ภายในห้องควบคุม และเมื่อเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะได้เดินทางกลับมายังเรือหลวงอ่างทอง เพื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ถึงปฏิบัติการในครั้งนี้ โดยมีใจความสำคัญ “กองทัพเรือ ขอยืนยันว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ตรงไปตรงมา และเอามาประกอบสิ่งที่ต้องการแถลงให้คนไทยทั้งประเทศ ทราบว่าเรือหลวงสุโขทัย จมไปเพราะอะไร ซึ่งต้องชัดเจน เมื่อฟังแล้วต้องเข้าใจ คำถามทั้งหมดต้องได้รับการอธิบาย
ซึ่งจากการไปถ่ายรูปเรือหลวงสุโขทัยใต้น้ำ มีรอยปริบริเวณหัวเรือ ส่วนจะเกิดจากสาเหตุอะไรขอให้รอข้อมูล พร้อมยืนยันว่ารอยปริดังกล่าวไม่ได้ปริเนื่องจากสาเหตุการซ่อมบำรุง และต้องขอบคุณกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่ได้ให้การช่วยเหลือในการปฏิบัติการครั้งนี้ เพราะการประมูลกู้เรือหลวงสุโขทัยทั้ง 2 ครั้ง ไม่สำเร็จ เพราะบริษัทฯ ที่เสนอตัวมา มีเอกสารรับรองคุณสมบัติไม่ครบตามที่กองทัพเรือต้องการ ส่วนงบประมาณที่เตรียมไว้กู้เรือนั้น ในส่วนที่รัฐบาลสนับสนุนมา 90 ล้านบาท จะนำส่งคืน เพื่อให้รัฐบาลนำไปช่วยเหลือประชาชน ส่วนงบประมาณที่เตรียมไว้บางส่วน จะนำมาใช้ในการปฏิบัติการครั้งนี้
การเยี่ยมชมการปฏิบัติงานบนเรือ Ocean Valor ในวันนี้ ได้เห็นถึงความยากลำบากในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ขั้นการลำเลียงอุปกรณ์ดำน้ำมาจากฐานทัพเรือในฮาวาย มาลงเรือที่สิงคโปร์ และนำเรือมายังจุดดำน้ำแห่งนี้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ นับเป็นการแสดงออกถึงมิตรภาพอันยาวนานระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศ ที่มุ่งมั่นในการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ร่วมกัน ให้สำเร็จลุล่วงตามจุดประสงค์อย่างปลอดภัย
สำหรับการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ จะอยู่ในขั้นตอนการสำรวจตัวเรือและค้นหาผู้สูญหาย โดยจะทำการดำลงไปถ่ายภาพตัวเรือทั้งภายนอก และภายใน เพื่อใช้ในการสืบสวนสาเหตุการจมของเรือ รวมถึงสำรวจและค้นหาผู้สูญหาย โดยจะใช้ระยะเวลาในการปฏิบัติการประมาณ 5 วัน ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนการเก็บกู้ยุทโธปกรณ์ และปลดวัตถุอันตรายในอีก 14 วัน รวมถึงการเก็บกู้สิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจของกำลังพลกองทัพเรือต่อไป ซึ่งในวันนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้แจ้งว่าสิ่งแรกที่จะนำขึ้นมาจากเรือหลวงสุโขทัยชิ้นแรกคือ “ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย” โดยรวมระยะเวลาในการปฏิบัติการทั้งสิ้น 19 วัน ทั้งนี้กองทัพเรือจะแจังความคืบหน้าในการปฏิบัติให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
ที่มา กองทัพเรือ