เฟกนิวส์จากรัฐบาล – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

วานนี้ (๕ กุมภาพันธ์) กระทรวงพาณิชย์ เปิด ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (เงินเฟ้อ) ประจำเดือนมกราคม ๒๕๖๗ เท่ากับ ๑๐๖.๙๘

เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม ๒๕๖๖ มีอัตราลดลง ๑.๑๑%

ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๔

และต่ำสุดในรอบ ๓๕ เดือน

เงินเฟ้อเป็นผลมาจากราคาสินค้าหมวด ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง ๑.๑๓% ตามการลดลงของราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซล แก๊สโซฮอล์ และค่ากระแสไฟฟ้า เสื้อผ้าบุรุษและสตรี สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด เช่น ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำยาล้างจานราคาลดลง

ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ลดลง ๑.๐๖% ตามการลดลงของของราคาสินค้าในกลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ด ไก่และสัตว์น้ำ เช่น เนื้อสุกร ไก่สด ปลาทู กุ้งขาว ปลากะพง ผักสด เช่น มะเขือ มะนาว แตงกวา และผลไม้ เช่น ส้มเขียวหวาน ลองกอง มะม่วง เนื่องจากปริมาณผลผลิตเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก

กระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่าเป็นผลจากมาตรการแทรกแซงราคาพลังงาน และค่าไฟฟ้าของรัฐบาล

แต่ก็มีแนวโน้มที่จะพลิกขยายตัวเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ ๒ ของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่มาตรการพยุงราคาพลังงานและไฟฟ้าจะสิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้อของไทยกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนธันวาคม ๒๕๖๖ พบว่า อัตราเงินเฟ้อของไทยลดลง ๐.๘๓% ซึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อต่ำ

อยู่ระดับต่ำอันดับ ๓ จาก ๑๓๙ เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข

และยังคงต่ำที่สุดในอาเซียนจาก ๗ ประเทศที่ประกาศตัวเลข คือ สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย

ครับ…นี่คือสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์แถลง

เงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำและไม่ผันผวน จะเป็นผลดีต่อระบบเศรษฐกิจเพราะจะเอื้อต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว

โอกาสเห็นต้มยำกุ้งภาคสอง แทบเป็นไปไม่ได้

หลักๆ แล้วหากมีปัญหาเงินเฟ้อ สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ….

๑.เก็บภาษีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มเงินคงคลัง

๒.ใช้จ่ายให้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นการผลิต

๓.กู้ยืมเงินน้อยลง เพื่อลดภาระงบประมาณ

๔. ชะลอการปล่อยสินเชื่อ เพื่อลดหนี้ของประชาชน

แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลเศรษฐาไม่อยากทำอะไรสักอย่าง นอกจากคาบเอาบางส่วนของการแถลงของกระทรวงพาณิชย์ไปกระพือว่า เศรษฐกิจกำลังแย่แล้ว

ต้มยำกุ้งมาแน่ๆ

ระยำครับ!

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ “ภูมิธรรม เวชยชัย” นี่ตัวดีเลย

“พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์” ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) แถลงเสียดิบดี แต่เจ้ากระทรวง เอาไปขยายความเสียผิดเพี้ยน

คงต้องการให้เข้าเงื่อนไขออก พ.ร.บ.กู้เงิน ๕ แสนล้าน เอาไปแจกประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาทเต็มประดา

“…เงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมกราคม ๒๕๖๗ ปรับตัวลดลง ๑.๑๑% ซึ่งลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ ๔ สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังอยู่ในช่วงวิกฤต โดยสถานการณ์ยังคงอยู่เดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งถือได้ว่าประเทศยังมีวิกฤตอยู่หลายเรื่อง

สิ่งที่น่ากังวลคือ วิกฤตทางการเงิน ซึ่งเคยเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งเมื่อปี ๒๕๔๐ ส่งผลกระทบต่อการเงินทั้งระบบ และเท่าที่ดู นักการเงินก็เป็นห่วงเรื่องนี้ โดยจะเห็นได้จากกรณีการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนเกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้

ผมถึงได้บอกว่าตรงนี้สำคัญ

ถ้ามันเกิดขึ้น แล้ววิกฤตล้มครืนแบบต้มยำกุ้ง จะเกิดผลเสียหายอย่างรุนแรงต่อประเทศ เพราะฉะนั้นผมอยากให้ทุกคนที่ต่อต้านการกระทำใดๆ ของรัฐบาล ให้คำนึงถึงจุดนี้ด้วย

มีนักเศรษฐศาสตร์หรือนักการเงินระบุว่าถ้าไม่ทำอะไรตอนนี้ โอกาสจะเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งจะตามมา เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องกลับไปดูว่าเป็นจริงหรือไม่ เชื่อหรือไม่ และถ้าหากยังคัดค้านอยู่ ก็ไม่ว่าอะไรกัน แต่หากเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายขึ้น สิ่งที่คัดค้านไว้ ก็อยากให้รับผิดชอบด้วย…”

เหลือเชื่อครับ รัฐมนตรีคลังสร้างเฟกนิวส์เสียเอง

“ผอ.สนค.” เขาแถลงชัดเจนนะครับ

“…มีแนวโน้มที่จะพลิกขยายตัวเป็นบวกได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ ๒ ของปีนี้ เนื่องจากเป็นช่วงที่มาตรการพยุงราคาพลังงานและไฟฟ้าจะสิ้นสุด…”

แล้วมันจะฉิบหายกลายเป็นต้มยำกุ้งได้ไง

อย่าลืม เงินเฟ้อ ส่วนหนึ่งเกิดจากฝีมือรัฐบาลเองที่ไปแทรกแซงราคาพลังงาน

ถ้าอยากให้ฉิบหายจริง แซกแทรงทั้งปีเลยสิครับ

เอาให้หนักกว่าเดิม

เศรษฐกิจปัจจุบันมันไม่มีปัจจัยที่ซับซ้อน และเลวร้าย จนนำไปสู่วิกฤตต้มยำกุ้งเหมือนปี ๒๕๔๐ เลยแม้แต่น้อย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รัฐบาลเลือกเอาตัวเลขเศรษฐกิจที่ดูแย่ มาขยายความให้ประชาชนเข้าใจว่าเศรษฐกิจของประเทศกำลังเข้าสู่วิกฤต

แต่เป็นการบิดเบือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อสนองตอบนโยบายที่ใช้หาเสียงเท่านั้น

พรรคเพื่อไทยคงคิดว่า แจกเงินหมื่น สามารถโกยฐานคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้าได้มากกว่าเดิม

บริหารประเทศแบบสิ้นคิด

ไม่ทราบใช้อวัยวะส่วนไหนคิด ถึงได้พยายามปั่นกระแสให้เศรษฐกิจไทยเข้าสู่วิกฤต

อีกทีนะครับ…เห็นยังพูดซ้ำอยู่ เรื่องคนที่คัดค้านนโยบายของรัฐบาล

เขาไม่ได้สร้างเฟกนิวส์ขึ้นมาค้าน

แบงก์ชาติ สภาพัฒน์ ป.ป.ช. กฤษฎีกา เขามีตัวเลข มีข้อกฎหมาย เตือนรัฐบาลว่าหากจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ต้องทำให้ถูกต้อง

ไม่มีใครค้านแบบส่งเดช

มีแต่รัฐบาลกระเหี้ยนกระหือรือจะแจกโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

แทนที่จะร้องหาความรับผิดชอบจากคนอื่น รัฐบาลต้องเริ่มต้นทำงานด้วยความรับผิดชอบต่อส่วนรวมให้ได้เสียก่อน

อย่าให้หายนะแบบโครงการรับจำนำข้าว

ที่พรรคเพื่อไทยไม่เคยขอโทษประชาชนแม้แต่คำเดียว

Written By
More from pp
ผ่อนคลายก่อนลุย! #สันต์สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน “แสงแห่งกันและกัน”.. นี่..เป็นคอนเซปต์ “งานประกาศรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 32 ประจำปี 2556” ของสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ นัยว่า...
Read More
0 replies on “เฟกนิวส์จากรัฐบาล – ผักกาดหอม”