เปลว สีเงิน
ทักษิณนี่…..
ไม่ได้เป็นแค่หมากในกระดาน “เกมการเมือง” เท่านั้น
เท่าที่จับทิศทาง
ถูกวางในตำแหน่งหมากในกระดาน “เปลี่ยนเกมการประเทศ” ถึงขนาดนั้นเลย
ที่เรียกทักษิณว่า “นักโทษเทวดา” นั่น…ไม่ผิดหรอก!
ดังนั้น ในความเป็นมนุษย์อย่างเราๆ อย่าไปเดาเส้นทางเทวดาซะให้ยาก
เพราะเทวดา ยามไปไหน เหาะเหินเดินดั้นเมฆไป ส่วนมนุษย์มุดท่อ เดินถนนปนกะหมา จะทันได้อย่างไร ได้แต่เดาไปเปะปะ
อย่างที่ตื่นเต้นกันตอนนี้ ว่า…..
เห็นทีทักษิณ “อดออกคุก” กลับไปนอน “จันทร์ส่องหล้า” หลังได้รับการ “พักโทษ” ตอนกลางกุมภา.นี้ซะแล้ว
เพราะตำรวจ “อายัดตัวไว้ต่อ” ที่เรือนจำ ตั้งแต่วันที่เดินทางกลับเข้ามาเมื่อ ๒๒ สิงหา.๖๖
เป็นผู้ต้องหาในความผิดตามมาตรา ๑๑๒ ด้วยไปพูดคำไม่สมควรที่เกาหลีใต้ ปี ๕๘ นั้น
ผมว่า ประเด็นนี้ คนรักทักษิณ ไม่ต้องหวั่นไหวใจวิตก
คนชังทักษิณ ก็ไม่ต้องสมน้ำหน้า-สะใจ
เพราะเรื่องนี้ เป็นเรื่องของเทวดา ว่าด้วยทัณฑ์ทิพย์ เราชาวมนุษย์ แค่ตามดู “บทบาท-ลีลา” ตำรวจ-อัยการ-ราชทัณฑ์ เขาไป
ว่าบทที่เขาเล่น “ขึ้นต้น” กับ “ลงท้าย” มันใช่หนัง “เรื่องเดียวกัน” หรือไม่?
ถึงตอนนั้น ใครจะดีใจ จนกรี๊ดสลบ
หรือใครจะสวมผ้าใบกับใจถึงๆ ไปเอ็กเซอร์ไซส์ ก็ค่อยว่ากันไป ตามเหตุปัจจัยหนุนนำ
จำได้ว่า ตั้งแต่ ๑๙ กันยา.๔๙ ที่นายกฯทักษิณกลายเป็นสัมภเวสี ไปยูเอนแล้วกลับประเทศไม่ได้ เพราะถูก “บิ๊กบัง” ยึดอำนาจ
จนถึง ๒๒ สิงหา.๖๖ ที่นั่งเครื่องบินส่วนตัวมาลงบน.๖ ดอนเมือง แล้วเข้าสถานที่รับรองในคุกพอเป็นพิธีไม่กี่ชั่วโมง
จากนั้นเหาะกลางดึก ท่ามกลางคนกรมคุกเฝ้าแหน
ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ ชั้น ๑๔ ณโรงพยาบาลตำรวจ
จากวันนั้น ถึงวันนี้ ก็ ๑๗ ปีเต็มๆ!
เพิ่งเห็นบทบาทอัยการชนิด “เคลียร์ชัด-จัดเต็ม” ต่อนายทักษิณ กับคดีที่ค้าง ก็เมื่อวาน (๖ กพ.๖๗) นี้เอง
“จัดเต็ม” จนอดระแวงไม่ได้ว่า “หน้าฉากที่จริงจัง มาจากเบื้องหลังที่ซ่อนเร้น” หรือไม่?
เพราะไม่เคยเห็นการแถลงครั้งไหนของอัยการ กระตือรือร้น ด้วยอยากแถลงแจงแจก อย่างนี้มาก่อน
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด “ประยุทธ เพชรคุณ” แถลงเป็นฉากๆ ว่า
นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ
ถูกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๒ เมื่อวันที่ ๑๖ กมภาพันธ์ ๒๕๕๙
“สำนักงานอัยการสูงสุด” ได้รับสำนวนจากกองกำกับการ ๓ กองบังคับการปราบปรามทางเทคโนโลยี
ข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่นแสดงความอาฆาตมาดร้ายและร่วมกันเข้าสู่คอมพิวเตอร์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ
เหตุเกิดเมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘ ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ และประเทศไทย ต่อเนื่องกัน
ซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๐
ซึ่ง “อัยการสูงสุด” มีอำนาจรับผิดชอบคดีและคำสั่งทางคดี “เห็นควรสั่งฟ้อง” เมื่อ ๑๙ กย.๕๙
คดีนี้ มีอายุความ ๑๕ ปี จะขาดอายุความ ๒๑ พค.๗๓ ดำเนินการ “ออกหมายจับ” ต่อศาลอาญา ตั้งแต่วันเกิดเหตุ
วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๖๖ นายทักษิณ เดินทางกลับเข้ามา พนักงานสอบสวน นำหมายจับไป “แจ้งอายัดตัว” กับกรมราชทัณฑ์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
และวันที่ ๑๗ ม.ค.๖๗ อัยการและตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาให้กับนายทักษิณ
นายทักษิณ “ให้การปฎิเสธ” และยื่นหนังสือ “ร้องขอความเป็นธรรม” ต่ออัยการสูงสุด
มีการบันทึกคำให้การของนายทักษิณและหนังสือร้องขอความเป็นธรรม
ขณะนี้อยู่ที่ “สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด” เพื่อส่งให้ “อัยการสูงสุด” พิจารณา เพื่อมีความเห็นทางคดีต่อไป
คดีนี้ ก็เคลียร์ชัดว่า….
ตำรวจปราบปรามทางเทคโนโลยีและอัยการทำสำนวนคดีเรียบร้อยตามขั้นตอน
ไม่ส่อว่า “ปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่” คดีเดินไปจนถึงขั้น “อัยการสูงสุด” สั่งฟ้องไปแล้ว
แจ้ง “อายัดตัวทักษิณ” ที่เรือนจำไว้แล้ว….
เรียกว่าออกคุกวันไหน รับตัวไปฟ้องคดีต่อศาลอาญาในความผิดตามมาตรา ๑๑๒ ทันที
เมื่อวาน (๖ กพ.) เช่นกัน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ “นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” แถลงเหมือนกัน เรื่องนักโทษเข้าเกณฑ์ได้รับการพักโทษ
ฟังที่ท่านขี่ม้ารอบเมืองแถลง จับความได้ว่า ในจำนวนนักโทษเข้าเกณฑ์ได้รับพักโทษ มีนายทักษิณรวมอยู่ด้วย!
ราว ๒๒ กุมภา.นี้ ทักษิณจะได้กลับไปนอนจันทร์ส่องหล้า ตามเงื่นไข คนอายุ ๗๐ ปีขึ้นไป เจ็บป่วย ทั้งรับโทษแล้ว ๑ ใน ๓ ของโทษ ๑ ปี!
แฟนานานุแฟน ส่วนหนึ่งดีใจ ชื่อทักษิณได้ออกคุก อีกส่วน ไม่แน่ใจ เพราะถูกอายัดตัวไว้ดำเนินคดีต่อ ตัวอาจนอนคุกโรงพยาบาลตำรวจต่อ
ผมว่าประเด็นนี้ จิ๊บจ๊อย ไม่ต้องห่วงหรอก
ขนาดติดคุก ติดแต่ชื่อ ตัวไม่ต้องนอนคุกเลยซักนาที แล้วนี่…แค่ขั้นตอนเป็น “ผู้ต้องหา” จะต้องนอนคุก มันไม่จั๊กจี้ไปหน่อยหรือ?
ป่านนี้ ตำรวจไม่แย่งกันทำ “ประกันตัว” ให้ จนหัวชนกันตายไปแล้วรึ?
อัยการจะส่งฟ้องศาลวันไหน ก็นัดไปพร้อมกันที่ศาลวันนั้น อย่างที่ทำกันเป็นปกติทุกวันนี้ มันก็จบเรื่อง
ฉะนั้น ประเด็น “ถูกอายัดตัว” กลัวจะไม่ได้กลับไปนอนบ้าน เลิกคิดไปได้เลย
ประเด็นที่สอง โฆษกอัยการสูงสุดแถลงว่า
ตอนนี้ ทักษิณทำหนังสือ “ร้องขอความเป็นธรรม” ต่ออัยการสูงสุด
เรื่องอยู่ในขั้นตอน “สำนักงานคดีกิจการอัยการสูงสุด” ส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณา เพื่อมีความเห็นทางคดี
ว่าที่ทักษิณร้องขอความเป็นธรรมนั้นฟังขึ้นหรือฟังไม่ขึ้น?
ถ้าฟังไม่ขึ้น ก็สั่งฟ้องตามเดิม ถ้าฟังขึ้น ก็อาจสั่งไม่ฟ้องได้ ฉะนั้น ยัง ๕๐/๕๐ อยู่
นั้นคือ ระหว่างพิจารณาคำร้องขอความเป็นธรรม บวกกับเป็นผู้ต้องหาได้รับประกันตัวจากพนักงานสอบสวน..ชัวร์
ก็ไม่มีเหตุอันใด……
ที่ทักษิณจะออกจากโรงพยาบาลแทนการออกจากคุกเหมือนนักโทษคนอื่นกลับไปนอนบ้านไม่ได้!?
ผมถึงว่า ในความเป็นนักโทษเทวดาของทักษิณ โทษของเขา จึงอยู่ระดับ “เทวทัณฑ์”
ฉะนั้น กับทักษิณ ไม่ว่าคดีใดๆ มันเป็นเรื่องนอกเหนือคาดหมาย สามัญมนุษย์จะเอาเกณฑ์ “คุกกรมราชทัณฑ์” มาปรับใช้กับเขาไม่ได้หรอก!
แต่ที่ควรต้องรู้ไว้อย่าง ว่าเทวดานั้น ต้องอยู่ใต้ “กฎมนุษย์” ข้อหนึ่ง ว่า
เมื่อไปสถิตย์อยู่ที่ใด ถ้าเจ้าบ้าน-เจ้าของสถานที่นั้นเขาไล่ เทวดาตนนั้น ก็อยู่ไม่ได้ ต้องไปอยู่ที่อื่นทันที
อย่างบ้านที่เราอยู่อาศัย ถ้าเทวดาเจ้าที่ อยู่แล้วไม่ให้คุณ เจ้าของบ้านออกปากไล่
เทวดาเจ้าที่ ต้องไปทันที นี่เป็นกฎบังคับใช้กับเทวดา!
ฉะนั้น เทวดาที่อยู่สังคมมนุษย์ ก็ต้องสังวรณ์ประเด็นนี้
ถ้าอยู่เหนือหัวชาวบ้านเขาร่ำไป แถมมีแต่ร้าย ไม่ให้คุณ
เขาพากันใส่รองเท้าผ้าใบกับใจถึงๆ ออกมาขับไล่กันมากๆ วันไหน เทวดาตกสวรรค์ชั้น ๑๔ เอาได้ง่ายๆ นะ
อย่าทำเป็นกระหยิ่มยิ้มลำพองไป
ด้วยหลงคิดว่าบ้านเมืองนี้ ชาวประชา “ทอดธุระ” กันไปหมดแล้ว บ้านเมืองอยู่ในกำมือข้าแล้ว
ใครขึ้นช้าง-ลงม้าก็ช่าง โกงเอาตังค์มาแบ่ง ทุกคนก็พร้อมเปลี่ยนจากแช่งเป็นชื่นชม!
“โอกาส” มีให้กับทุกคน
แต่จะดี-จะร้าย อยู่ที่ว่า คนนั้นใช้โอกาสที่ได้ไปทางไหน-แบบไหน?
เหมือนลม ไม่เคยพัดตามใบเรือ
มีแต่เรือเท่านั้น ต้องปรับใบเรือตามทิศทางลม
ผมยอมรับได้ และยินดี ที่ทักษิณจะพ้นโทษคุก
แต่วันที่ได้รับการพักโทษ นั้น……
ทักษิณจะออกประตูไหน ระหว่าง สภาพเทวดา เหาะข้ามหัวทุกสถาบันอำนาจอธิปไตยไทย
ออกทาง “ประตูสวรรค์ชั้น ๑๔”
กับสภาพนักโทษในเรือนจำ เดินออกทาง “ประตูคุก”
เลือกเอา “ประตูสวรรค์” กับ “ประตูเรือนจำ”
นี่คือ “ประตูเสี่ยงทาย”….
“ทักษิณ” จะเป็นเทวดาที่ประชาชนเกลียดชังและขับไล่
หรือจะเป็น “นักโทษผู้ยิ่งใหญ่” ที่ประชาชนยกนิ้วให้
ก็สุดแต่ “ใจท่านสั่งมา”!
เปลว สีเงิน
๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
