เปลว สีเงิน
เมื่อคืน พระเจ้า “ส่งแฟกซ์” มาถึงผม
ให้บอก “พี่ตี๋หัวตั้ง” ว่า….
ประตู “ล้มเจ้า” บานแรก ล้มทับสมุน “ก้าวไกล” แบนแต๊ดแต๋ไปซะแล้ว
ปฎิรูปแบบปฎิวัติ คือต้อง “ขุดรากถอนโคน” ตามแนวทางศาสดา “ผู้นำวิญญานใต้กระโปรงเด็ก” นั่นน่ะ
ถ้า “ถือดี-ดันทุรัง” ไปต่อ…
เบาสุดก็ “คุก” ตามกฎหมายในระบบนิติบัญญัติ
หนักสุดก็”กิโยติน”ตามกฎประชาภักดิ์ในระบบนิติราษฎร์
“ศาลรัฐธรรมนูญ” บอก มาตรา ๑๑๒ น่ะ
แก้ได้…ไม่ได้ห้าม
แต่ถ้าจะแก้ ต้องทำในกระบวนการทางนิติธรรม “โดยชอบ”
ทั้งตี๋ ทั้งศาสดาตาตี่ ทั้งพรรคก้าวไกล และทั้งบางจาน ระดับคณบดีนิติศาสตร์ ท่าพระจันทร์
(ทำเป็น) ซื่อ..ไร้เดียงสา ไม่เข้าใจว่า “โดยชอบ” นั้น กรอบมันอยู่ตรงไหน และแค่ไหน จึงจะเรียกว่า “โดยชอบ”
ตะมุตะมิ “น่ารักจัง”
ดร.มุนินทร์ กับ ดร.ปิยบุตรนี่ ศาสดากฎหมายมธ.ด้วยกัน
ฟัง “ทัศนวิพากษ์” ของเขา หลังศาลมีคำวินิจฉัย มีกริยาการเหมือน “โรจน์-ลักษณา” บอก ผายสองมือ ยักไหล่ แสยะปากพูด
แนวทางไปสู่เป้าหมายของขบวนการสามนิ้วก้าวไกล ที่ต้องทำต่อจากนี้
สิ่งที่ต้องล้มก่อน ไม่ใช่กฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒
หากแต่เป็น “ศาลรัฐธรรมนูญ”!?
เขาบอก ศาลรัฐธรรมนูญล้ำแดนอำนาจฝ่ายบริหาร, ฝ่ายนิติบัญญัติ (และขัดขาขบวนการล้มเจ้า) มากไปแล้ว
ดร.ปิยบุตร นอกจากออกคลิป-ออกสื่อตามหน้าจอแล้ว ยังโพสต์เฟซ “ชนศาลฯ” กันตรงๆ
………………………
Piyabutr Saengkanokkul – ปิยบุตร แสงกนกกุล
[ข้อเสนอทางกฎหมายที่พอเป็นไปได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน]
รัฐธรรมนูญ คือ ระบบความสัมพันธ์ทางอำนาจขององค์กรต่างๆ ในรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ ประมุขของรัฐ รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ศาล
การต่อสู้กับศาลรัฐธรรมนูญที่ใช้อำนาจล้ำแดนองค์กรอื่นๆ ต้องให้องค์กรที่ถูกล้ำแดนใช้อำนาจโต้กลับไป
เช่นใช้อำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ แก้ไข พ.ร.ป. แก้ไข พ.ร.บ. ต่างๆ
เมื่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเช่นนี้ ผู้แทนราษฎร พรรคการเมือง ยังพอหลงเหลืออำนาจทำอะไรได้บ้างในเวลานี้
1. แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ตีกรอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้รวมถึงการใช้อำนาจของรัฐสภาและการเสนอร่างกฎหมาย
2. แก้รัฐธรรมนูญ กำหนดห้ามมิให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าแทรกแซง สกัดขัดขวาง กระบวนการนิติบัญญัติ เว้นแต่กรณีการตรวจสอบว่าร่างพ.ร.บ.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายหลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบและยังไม่ทูลเกล้าฯ
3. แก้รัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ตีกรอบและจำกัดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
4. แก้ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
5. แก้รัฐธรรมนูญ เปลี่ยนองค์ประกอบและที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
6. แก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และกำหนดให้องค์กรอื่นทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญแทน
7. หากอ่านจากคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่า ศาลสั่ง ดังนี้
หนึ่ง สั่งการให้พรรคก้าวไกลและพิธา เลิกแสดงความเห็น เพื่อให้มีการยกเลิก 112
สอง ไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ
ซึ่งคำนี้น่าจะอนุมานจากคำวินิจฉัยนี้ได้ว่า ห้ามแก้ใน 3 ประเด็นที่ศาลบอกว่าเป็นการล้มล้างฯ
ได้แก่ ห้ามย้ายหมวด, ห้ามกำหนดเหตุยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ, ห้ามกำหนดให้ยอมความได้ และห้ามกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
ดังนั้น ศาลไม่ได้มีคำบังคับสั่งห้ามแก้ 112 โดยเด็ดขาด ยังคงเสนอแก้ 112 ในประเด็นอื่นได้
เช่น ลดโทษจำคุก ยกเลิกโทษขั้นต่ำ จำคุก 3 ปี แยกฐานความผิดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย ออกจากกัน กำหนดให้นายกรัฐมนตรี หรือ คณะกรรมการพิเศษ ทำหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษคดี 112 เป็นต้น
แน่นอน อาจกล่าวกันว่าไม่มีทางสำเร็จ จะไปหาเสียงข้างมากจากไหน จะผ่านด่าน สว หรือไม่
และสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญ ก็จะขวางอีก
แต่อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทย ที่ฝากเอาให้ผู้แทนราษฎรใช้แทน ก็มีพลังและสามารถแสดงบทบาทตอบโต้ศาลรัฐธรรมนูญได้
การนิ่งเฉย ไม่ทำอะไรกับศาลรัฐธรรมนูญเลย
ก็จะทำให้การเมืองไทยวนลูป และปล่อยให้พวกเขา “ขีดวง” อำนาจของประชาชนและผู้แทนราษฎรให้น้อยลงหดแคบไปเรื่อยๆ
…………………….
ผมเข้าใจประเด็นที่จานพูดนะ
แต่คำถามพื้นๆ ซื่อๆ ตามประสาชาวบ้านที่ไม่อสัตย์ชาติ อยากได้คำตอบจากพวกจานส้ม คือ
๑.พวกสามนิ้วเป็นผีซอมบี้หรือไง เห็นมาตรา ๑๑๒ เป็นสายสิญจน์ จึงกลัวนัก-กลัวหนา ตั้งหน้าตั้งตาที่จะทำลาย?
๒.สถาบันพระมหากษัตริย์ คือ แกนความเป็นชาติไทยสืบต่อๆ มาตั้งแต่ โคตรเหง้าของพวกจานและผม ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ที่มีประเทศชาติ ดำรงความเป็นไทยสืบต่อกันมาได้จนใกล้พันปี ก็เพราะ “พระมหากษัตริย์”
พระองค์ไม่เคยทำอะไรให้ประชาชนเดือดร้อน มีแต่ทรงเดือดร้อนแทนประชาชน ทุกครั้งที่เกิดทุกข์เข็ญและทุกข์ภัย
แล้วพวกจานไปกัดกร่อนบ่อนเซาะ หวังล้มสถาบันเพื่ออะไร บอกซิ?
๓.จานบอก ที่คิดแก้ เพราะหวังดีต่อ “สถาบันพระมหากษัตริย์” ประชาภักดิ์ทั้งปวง ก็ขอบใจนะ
แต่ขอบอก ถ้าหวังดีจากใจจริงละก็ “เก็บความหวังดีของจิ้งจอกไว้เหอะ”
เพียงไม่ทำ ไม่ใช้เสรีภาพซ่อนเร้น เพื่อทำลาย “ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
หรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมายแก้ไข มาตรา ๑๑๒ ซ่อนเล่ห์ในเนื้อหาอย่างที่เสนอและใช้เป็นนโยบายพรรค
แค่นี้ เป็น “ความหวังดี” ที่น่ายินดี มากกว่า หวังดีด้วยวิธีการ “กัดกร่อนบ่อนเซาะ” อย่างที่ทำต่อเนื่องกันมาเป็นปีๆ
๔.พวกจาน นักกฎหมายระดับรองศาสตราจารย์ ระดับคณบดีนิติฯ แกล้งโง่หรือโง่จริงๆ….
ที่ไม่เข้าใจคำว่า “กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ” ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญบอก ว่าคืออะไร แบบไหน?
แต่ก็เข้าใจนะ คำว่า “โดยชอบ” มันสุดประมาณจะหากรอบกฎหมายสังคมวัตถุจำกัดความได้
แต่ถ้าใช้ “สำนึก” ในสังคมความเป็น “มนุษย์”
และใช้ควบคู่กับความรู้กฎหมาย มันจะแยกผิด, ชอบ, ชั่ว, ดี เรียกว่า “มโนธรรมสำนึก”
เป็น “สำนึกมนุษย์” ให้ซึมซับรับรู้ภายใต้กรอบของคำว่า “โดยชอบ” ได้ทางสำนึก
พวกจานเรียนรู้สูง สามัญสำนึกคงไม่ต่ำถึงระดับไม่รู้จักคำว่า “สัตว์มนุษย์” กับ “สัตว์เดรัจฉาน” ในความเป็น “สัตว์ที่เท่าเทียมกัน”
แต่กลับมี “ความเหลื่อมล้ำ” กัน ในสังคมความเป็นสัตว์?
ผมไม่รู้กฎหมาย หากแต่ผมใช้ “สำนึกมนุษย์” อ่านคำวินิจฉัยศาลฯ
ที่ศาลฯ ใช้นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ กติการะหว่างประเทศ ภูมิศาสตร์-ประวัติศาสตร์
เชื่อมโยงความเป็นชาติไทยกับพระมหากษัตริย์ให้เข้าใจว่า
“ไทยมีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
“สถาบันพระมหากษัตริย์” จึงสัมพันธ์กับ “ความมั่นคงของประเทศ” เพราะพระมหากษัตริย์กับไทยหรือชาติไทย “ดำรงอยู่คู่กันเป็นเนื้อเดียวกัน”
เป็น “ศูนย์รวมจิตใจคนในชาติ” ธำรงปึกแผ่นของคนในประเทศ
การกระทำความผิดต่อสถาบันฯ การทำเป็นขบวนการด้วยพฤติกรรมแบบนั้น จึงเป็นการกระทำผิดต่อความมั่นคงของประเทศ”
เนี่ย…ขนาดหมา เราจุ๊ๆ ปาก มันยังเข้าใจ
แล้วเราเป็นมนุษย์ คือ “ผู้มีใจฝึกแล้วประเสริฐ” ด้วยสำนึกมนุษย์ จะไม่เข้าใจเลยหรือ….
จึงต้องไปแตะ ไปล้ม ไปล้างพระมหากษัตริย์ ผ่านมาตรา ๑๑๒ กัดกร่อน-บ่อนทำลายกันต่อเนื่อง
ด้วยพฤติการณ์ ชุมนุม จัดกิจกรรม ปลุกระดมผ่านสื่อออนไลน์ เสนอร่างกฎหมายซ่อนเนื้อต่อสภาฯ และใช้เป็นนโยบายหาเสียง
ขนาดศาลฯ มีคำวินิจฉัยแหม็บๆ……
เมื่อวาน ยังมีการปล่อย “สัตว์เพศเมีย” ๒ ตัวหน้าเดิม ไปแสดงลีลาเย้ยคำวินิจฉัยศาล ให้เป็นการ “กวนตีน” ชาวบ้านที่กกต.!
เห็นมั้ย สำนึกกันที่ไหน ขยะสังคมพวกนี้ ถ้าไม่มีขบวนการและอาหารเม็ดหนุนหลัง จะซ่าและกร้านกระทำยิ่งกว่าหญิงรูดเสาแถวพัฒน์พงศ์หรือ?
องค์คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยให้พิธารอดคดีถือหุ้นสื่อ iTV กับองค์คณะที่วินิจฉัย ให้พิธา-ก้าวไกล ไม่รอด วานซืน เป็นองค์คณะเดียวกัน
แต่ดร.มุนินทร์บอก”คดีพิธารอด”ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้ถูกใจเป๊ะๆ
“เข้าใจ -ชื่นใจ” ศาลรัฐธรรมนุญเป็นเสาหลักได้ ในทุกประเด็นวินิจฉัย
แต่พอถึงคดี “พิธา-ก้าวไกล” ไม่รอด ดร.มุนินทร์ ขัดใจมาก ศาลรัฐธรรมนูญกลายเป็นพ่อทุกสถาบันที่ต้องหาทางกำจัดซะแล้ว
ทุกประเด็นวินิจฉัย นักเรียนทุนภูมิพล นักกฎหมายเคมบริดจ์ รับไม่ได้ ในคำวินิจฉัย
กระทั่งคำว่า “โดยชอบ” ระดับคณบดียังบอกว่า “ไม่เข้าใจ?”!
เอาละ คุยยาวไป ขอบอกนิด เมื่อวาน “คุณธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ไปกกต.เพื่อให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ขอให้พิจารณาสั่งยุบ “พรรคก้าวไกล” ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ๒๕๖๒ มาตรา ๙๒ วรรค ๑ แล้ว
และวันนี้ (๒ กพ.)ไปยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้เอาผิดด้านจริยธรรมพรรคก้าวไกลและ ๔๔ สส.ก้าวไกลที่เข้าชื่อแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ด้วยพฤติกรรมกัดกร่อนบ่อนเซาะด้วย
ประเด็นนี้ จะไปจบที่ “ศาลฎีกา” โทษหนักกว่า “ยุบพรรค”
ยุบพรรคตั้งใหม่ได้ ……
แต่ผิดจริยธรรมมีทั้งตัดสิทธิ์ลงเลือกตั้ง หรือไม่ก็ตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต!
พระเจ้า “ส่งแฟกซ์” มาอีกเมื่อกี้ว่า
ใครเชื่อ “ตี๋หัวตั้ง-ศาสดาตาตี่” ชาตินี้มีแต่ “ว่าว”!
เปลว สีเงิน
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗