ผักกาดหอม
ตามประสาคนขี้สงสัย
ลองไปค้นข่าวเก่าๆ ดูว่า มีนักการเมืองคนไหนที่ “พี่ศรี” ไม่เคยร้องบ้าง เผื่อเอามาต่อ จิกซอว์ เรื่องราวของ “พี่ศรี” ให้แจ่มชัดขึ้น
“ลุงตู่” เคยโดนไปเต็มๆ
ตุลาคม ๒๕๖๔ “พี่ศรี” ร้อง กกต. ให้ตรวจสอบและวินิจฉัย กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ขณะนั้น เรียกรัฐมนตรีสังกัดพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งล้วนเป็นกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐด้วย รวม ๖ คน เข้าพบหารือ
“พี่ศรี” บอกว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายหรือครอบงำหรือชี้นำพรรคการเมือง
ให้ยุบพรรคพลังประชารัฐด้วย!
สุดท้ายโบ๋เบ๋
จากนั้นมีเหตุการณ์ต่อเนื่อง
๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ “พี่ศรี” ร้องกับ กกต. ให้สอบสวนพรรคพลังประชารัฐ จากการลงมติขับ สส. ๒๑ คน นำโดย “ธรรมนัส พรหมเผ่า” ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค
“พี่ศรี” บอกว่ามีประเด็นที่สร้างความน่าสงสัย ๔ ข้อ ดังนี้
๑.การที่สมาชิกหรือ สส. เรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ จะถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงจนต้องให้ออกจากสมาชิกพรรคนั้น ชอบหรือไม่
๒.การที่มี ๑๗ กรรมการบริหารพรรคและ สส. ๖๑ คน รวมทั้งสิ้น ๗๘ คน ประชุมกันแล้วมีมติให้สมาชิกพรรคออกจากสมาชิกภาพ โดยมิได้มี สส.ทั้งหมดของพรรคเข้าร่วมประชุมจนครบ จะถือว่าชอบหรือไม่
๓.ข้ออ้างในการมีมติเห็นชอบให้ สส. ๒๑ คน พ้นจากสมาชิกภาพของพรรคนั้น โดยอ้างข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ ๕๔ (๕) ว่าเป็นเหตุร้ายแรงอื่นนั้น โดยที่พรรคพลังประชารัฐไม่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวน สอบสวนสมาชิกทั้ง ๒๑ คน เพื่อหาข้อสรุปก่อนที่จะเสนอให้ที่ประชุมร่วมของพรรคพิจารณาเสียก่อนนั้น ชอบหรือไม่
๔.สส.แบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกให้ออกนั้นต้องพ้นสภาพ สส.ไปเลยหรือไม่ เนื่องจากมิได้เกิดเหมือนกรณีการขอยุบพรรคหรือการถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค เพราะถ้าย้ายพรรคไปแล้วก็จะไปแซงบัญชีของพรรคอื่น หรือไปอยู่พรรคใหม่ที่ไม่เคยส่งเลือกตั้ง ก็จะไปเป็นบัญชีรายชื่อของพรรคนั้นๆ โดยไม่เคยถูกเลือกมาเลยไม่ว่าจะแบบไหน ซึ่งน่าจะหมดสภาพ สส.ไปเลย และบัญชีรายชื่อของพลังประชารัฐลำดับถัดไปน่าจะได้ขึ้นมาแทนที่หรือไม่ อย่างไร
ท้ายคำร้อง “พี่ศรี” เล่นหนัก
“…หากพบเป็นการฝ่าฝืนย่อมอาจเข้าข่ายกระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ๒๕๖๐ ม.๙๒ (๒) ซึ่งเป็นเหตุให้ กกต.อาจเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือสั่งยุบพรรคที่ฝ่าฝืนนั้นได้…”
เอาถึงยุบพรรค!
ที่จริงยังมีคดีที่ “พี่ศรี “ร้องเอาผิดพรรคพลังประชารัฐอีกเพียบ ยื่นสอบปมรับเงินบริจาคนายทุนโยง “ผับจีน”
คดีนี้ก็เล่นถึงยุบพรรคเหมือนกัน
ครับ…เมื่อก่อนก็เฉยๆ ไม่ได้สงสัย
แต่วันนี้ มึนตึ้บ ทำไมต้องเป็น “พี่ศรี”
โดยเฉพาะกรณีขับ ๒๑ สส. ไปเกี่ยวอะไรด้วย
จะว่า “พี่ศรี” เป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐก็ไม่ใช่
ค้นต่อไปเจออีกข่าวที่น่าสนใจ ตัวตึงสามนิ้ว “เอกชัย หงส์กังวาน” วันนี้ยังอยู่ในคุก คดีนำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เคยโพสต์ในโซเชียลตั้งคำถามไปยัง “พี่ศรี” ว่า
“ทำไมศรีสุวรรณไม่แตะธรรมนัส”
“พี่ศรี” ก็ตอบทันควัน
“…ไม่ได้เลือกปฏิบัติแต่อย่างใด หรือมีนัยอะไรเป็นพิเศษ
แต่สาเหตุที่ยังไม่มีการยื่นตรวจสอบ เนื่องจากขณะนี้ไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ไม่มีหลักฐานประกอบที่ชัดแจ้ง มีแต่เพียงข้อมูลจากข่าวต่างประเทศเพียงเท่านั้น จึงยังไม่สามารถยื่นตรวจสอบได้
การยื่นตรวจสอบแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน
ก่อนจะยื่นตรวจสอบต้องมีข้อมูลที่แน่ชัด เพื่อเป็นการป้องกันตนเองไม่ให้โดนฟ้องกลับ ตกเป็นจำเลยได้ หากมีหลักฐานที่แน่ชัดแล้วนั้นจะยื่นตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัส โดยทันที…”
เป็นไงครับ หายสงสัยกันบ้างหรือเปล่า
“ธรรมนัส” ก็โล่งไป ไม่เจอแจ็กพอตจาก “พี่ศรี”
ที่จริงยังมีนักการเมืองอีกหลายคนที่รอดจากบทนักร้องของ “พี่ศรี” ด้วยเหตุผลและปัจจัยที่แตกต่างกันไป แต่ที่ยกตัวอย่างมานี้ เพื่อให้เห็นว่า ขนาด “ลุงตู่” ยังโดน
ฉะนั้น “พี่ศรี” กลัวใครที่ไหนล่ะครับ
ถูกของ “พี่ศรี” ครับ การยื่นตรวจสอบใครต้องทำการบ้านก่อน
ข้อมูลต้องแน่น
ไม่งั้นตกเป็นจำเลยได้!
และวันนี้ “พี่ศรี” ตกเป็นจำเลยคดีตบทรัพย์เป็นที่เรียบร้อย
ดูทรงแล้วน่าจะหนัก
“ธรรมนัส พรหมเผ่า” ประกาศชัดเจน
“…ขอให้หลับตานึกว่ากระทรวงเกษตรฯ เป็นผู้เสียหาย ผมในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชา และมีความสนิทสนมกับอธิบดีกรมการข้าวรวมถึงภรรยา เนื่องจากรู้จักกันมาก่อน
ทุกเรื่องที่ผู้่ใต้บังคับบัญชามีความทุกข์ก็จะมารายงาน
ตั้งแต่ต้นจนถึงปลายเรื่อง ผมรับรู้มาตลอด
แต่ส่วนตัวไม่อยากพูดมาก เกรงว่าจะไม่เกิดประโยชน์และจะเป็นการแทรกแซงกระบวนการ…”
สนิทกันแบบนี้ “พี่ศรี” คงรอดยาก!
ยิ่งเรื่องคลิปด้วยแล้ว คลำทางกันแทบไม่ถูก ไม่รู้ว่าใครมีคลิปอะไรกันแน่
แต่ที่แน่ๆ “ธรรมนัส” มีคลิปฉบับเต็ม
“…อยากให้สื่อมวลชนนำเสนอให้ถูกต้องเวลาไปเปิดคลิป ขอให้เปิดคลิปเต็ม ยืนยันว่าผมมีคลิปยาว เพราะผมรู้แต่แรกว่าเกิดอะไรขึ้น และรู้ว่าลูกน้องกำลังถูกรังแก…”
ไพ่เปิดมาขนาดนี้แล้ว จะสู้หรือจะหมอบ
ก็อยู่ที่ “พี่ศรี” กับ “เจ๋ง ดอกจิก” แล้วล่ะครับว่า กล้าที่จะลากไส้ คนที่อยู่ในขบวนการตบทรัพย์ โดยเฉพาะหัวหน้าขบวนการ หรือไม่
หรือจะเอาอย่าง “บุญทรง เตริยาภิรมย์”
“…กูพูดไม่ได้ ทางการเมือง บางเรื่อง ต้องตายไปกับเรา พูดไม่ได้…”
ถ้าแบบนี้ก็ติดคุกแทนนาย
