20 ธันวาคม 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการทบทวนอัตราค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 ว่า ตามที่ท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้นำเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำปี 2567 มาทบทวนใหม่นั้น
และในวันนี้ปลัดกระทรวงแรงงานในฐานะประธานบอร์ดค่าจ้างได้มีการหารือกับไตรภาคี ประกอบด้วย ผู้แทนฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายรัฐบาล ซึ่งการหารือครั้งนี้คงต้องไปศึกษารายละเอียดมากยิ่งขึ้น ตามที่ผมได้ให้ข้อสังเกตไปว่าไม่ควรใช้ฐานคำนวณในปี 2563 และปี 2564 เข้ามาเป็นตัวหารเฉลี่ยสำหรับการเจริญเติบโตของจีดีพี อัตราเงินเฟ้อ
เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ช่วงนั้นภาพรวมของเศรษฐกิจได้รับผลกระทบ ประกอบกับอัตราการเจริญเติบโตของจีดีพีแทบจะไม่มี ในส่วนนี้จึงได้มีการนำมาหารือกันใหม่ในไตรภาคี
ซึ่งผมได้ให้นโยบายไปกับปลัดกระทรวงแรงงานว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่าการพิจารณาค่าจ้างจะลงไปในแต่ละสาขาอาชีพเพื่อให้มีค่าแรงที่สูงขึ้น ซึ่งจะนำส่วนนี้ไปพิจารณาไม่ใช่พิจารณาขึ้นยกจังหวัด เนื่องจากบางจังหวัดในบางอุตสาหกรรมมีการเจริญเติบโตดี แต่ในบางประเภทอุตสาหกรรมหรือในภาคบริการบางประเภทไม่มีการเจริญเติบโต
เพราะฉะนั้นการที่เราจะประกาศค่าแรงทั้งระบบก็จะไม่เป็นการยุติธรรมสำหรับผู้ประกอบการ แต่ถ้าให้ยุติธรรมที่สุดเราจะเลือกโดยเฉพาะอุตสาหกรรมทั่วไปจะประกาศเป็นรายสาขาอาชีพว่าสาขาอาชีพไหนควรจะมีค่าแรงเท่าไหร่ ขั้นต่ำอยู่ที่ตรงไหน
นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ผมไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปแทรกแซงหรือชี้นำไตรภาคี แต่จะให้นโยบายกับข้าราชการกระทรวงแรงงานว่าการที่จะนำหัวข้อปัจจัยใดๆ เข้ามาพิจารณานั้นในอดีตเป็นอย่างไรคงเอาไว้
แต่ขอให้ลงในรายละเอียดถึงระดับอำเภอ ลงถึงรายละเอียดสาขาอาชีพต่างๆ ด้วย ซึ่งตรงนั้นค่าแรงขั้นต่ำคงขยับขึ้น ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของไตรภาคีว่าจะมีข้อสรุปอย่างไร ถ้าสรุปไม่ได้คงต้องยืดเวลาออกไป แต่ถ้าสรุปได้ในวันนี้ผมจะนำเข้าคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ในสัปดาห์หน้า