ผักกาดหอม
ขวางหูขวางตาไปเสียหมด!
นั่งไถโทรศัพท์ กะจะดูบรรยากาศแสงสีเสียงวันลอยกระทง ดันไปเจอพวกผ่าเหล่า ต่อต้านประเพณีลอยกระทงซะงั้น
แกนนำสามนิ้วช่วงนี้น่าจะว่างงาน ไม่ได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์มาหลายเดือน เพราะหลายคนติดขัดเงื่อนไขศาล ห้ามเคลื่อนไหวปลุกปั่น บางคนยังอยู่ในคุก ก็ต้องหาทางออก
ไม่งั้นลงแดงตาย!
ก็มาลงที่กระทง
เห็นแชร์กันในโซเชียล กระทงทุกชนิด ไม่รักษ์โลก
กระทงรักษ์โลกไม่มีจริง
ไม่อยากให้ประเทศไทยมีประเพณีลอยกระทงอีกต่อไป
ก็ชุดความคิดเดียวกับ ประเพณีไหว้ครูเป็นเรื่องชนชั้น เรื่องหมอบคลาน นั่นแหละครับ
มุมมองมีปัญหาเพราะมองมุมเดียว กลายเป็นการทำลายล้าง
หากรู้จักมองในมุมที่ต่างออกไปจากความคิดตัวเอง ซึ่งก็คือการมีประชาธิปไตยในตัวนั่นแหละครับ แทนที่จะต่อต้านหัวชนฝา ก็จะมองเห็นมุมใหม่ๆ
จากเรื่องที่คิดว่าไร้ประโยชน์สำหรับตัวเอง ก็จะมองเห็นมุมที่สามารถนำไปสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้แก่ชาติบ้านเมือง
ก็น่าเสียดายครับปีนี้ไม่ค่อยมีผู้หลักผู้ใหญ่ออกมาอวยพรวันลอยกระทงกันสักเท่าไหร่
แต่ยังมี “ลุงตู่” ครับ ที่ให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทง
อวยพรผ่านเฟซบุ๊ก “ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha”
“…เนื่องในโอกาสเทศกาลลอยกระทงของไทย เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัว และชาวไทยจะได้ร่วมกันสืบสานประเพณีสำคัญของประเทศ ที่ชาวต่างชาติให้ความนิยม อยากมีส่วนร่วมในเทศกาลนี้
ผมขอฝากความปรารถนาดีและความห่วงใย ขอให้พี่น้องประชาชนถือปฏิบัติตามข้อแนะนำของทางราชการ ทั้งมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม และด้านความปลอดภัยต่างๆ เช่น เรื่องท่าน้ำ ดอกไม้ไฟ โคมลอย การสัญจร ฯลฯ
ท้ายนี้ ขอให้ทุกคนมีความสุขสมหวังดังคำอธิษฐาน และร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีน้ำใจต่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเหมือนคนในครอบครัวด้วยครับ…”
เป็นไงครับ คนขวางโลกไม่มีทางคิดได้ว่า วัฒนธรรม คือต้นทุน มีมูลค่ามหาศาลทางเศรษฐกิจ สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศเหลือคณานับ
ฝรั่งหัวแดงอยากเห็นการลอยกระทง มากกว่าต้นคริสต์มาสติดไฟวับๆ โชว์ในห้างเป็นไหนๆ
ต้องรู้จักแยกแยะครับ
ปัญหากระทงโฟม กระทงมีตะปู ไม่ควรนำมาเป็นเหตุให้ยกเลิกประเพณีลอยกระทง
หากคิดว่าการรณรงค์ให้เลิกใช้กระทงที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมน้อยไป ชาวคณะสามนิ้วก็ควรช่วยกันรณรงค์ผ่านโซเชียล เพราะเป็นงานถนัดอยู่แล้ว
เผาบ้านเพื่อล่าหนูตัวเดียวมันคุ้มหรือ
หลายวันมานี้ ผู้คนพูดเรื่อง Soft Power กันเยอะ มีทั้งพูดแบบเข้าใจ และไม่เข้าใจ เหน็บแนมประชดประชันก็มี หรือไม่อะไรๆ ก็ Soft Power ไปหมด
แต่ประเพณีลอยกระทง คือ Soft Power มีมูลค่าที่ประเมินมิได้
เห็นด้วยที่กระทรวงวัฒนธรรมเตรียมเสนอประเพณีลอยกระทงให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
เพื่อเพิ่มน้ำหนักกระทรวงวัฒนธรรมจะนำเสนอยูเนสโกใน ๓ ประเด็น คือ
๑.มิติพิธีกรรมและประเพณี คือ การปฏิบัติอันดีงามของคนที่สืบทอดกันมาแต่สมัยโบราณ ในการนำดอกไม้ ธูปเทียนใส่ในกระทงลอยในแม่น้ำในช่วงเวลา ที่งดงามและเหมาะสม
๒.มิติศิลปหัตถกรรมจากภูมิปัญญาการประดิษฐ์กระทงที่มีเอกลักษณ์ ของคนไทย เกิดการคิดค้นประดิษฐ์กระทงในรูปแบบต่างๆ ด้วยภูมิปัญญา งานดอกไม้ ใบตอง เครื่องหอม และเกิดงานสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ เช่น กระทงรักษาสิ่งแวดล้อมย่อยสลายง่าย
๓.การพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนตามแนวทางองค์การสหประชาชาติ หรือ SDG สิ่งที่ปรากฏเป็นรูปธรรม
ในด้านสังคมประเพณีลอยกระทง ทำให้มีการรวมตัวของผู้คน ร่วมแรงร่วมใจทำกิจกรรมตามความเชื่อและศาสนา ก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี
ด้านศาสนาเป็นการสร้างจิตสำนึกในการแทนคุณ บำเพ็ญกุศลทำความดีให้จิตใจเบิกบาน
แต่ยังต้องรอคณะรัฐมนตรีอนุมัติเสียก่อน
ไฟเขียวเมื่อไหร่จะเสนอไปยังยูเนสโก ภายในวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๗
นั่นก็เป็นความพยายามในการสร้างมูลค่าให้แก่ประเพณีลอยกระทง
ผู้ที่ได้ประโยชน์คือคนไทยทุกคน
กลับกัน หากยกเลิกประเพณีลอยกระทง ใครได้ประโยชน์
นึกไม่ออกครับ นอกจากพวกมีเป้าหมายทำลายชาติ ทำลายวัฒนธรรมของตัวเอง
ทำให้นึกถึงการปฏิวัติวัฒนธรรมของ สาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงปี ๒๕๐๙-๒๕๑๙ โดยเหมา เจ๋อตง มีเป้าหมายเพื่อปกป้องอุดมการณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีน
ฉะนั้นต้องขจัดองค์ประกอบที่เป็นทุนนิยม ประเพณีและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของจีน ออกจากวัฒนธรรมคอมมิวนิสต์
ปีนี้ ๒๕๖๖ ไม่น่าเชื่อว่ายังมีกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นคนรุ่นใหม่ ต้องการปฏิวัติวัฒนธรรม โละวัฒนธรรมเก่าๆ ของชาติ โดยอ้างว่าคร่ำครึ
ทำให้คนไม่เท่ากัน
แต่อีกด้านหนึ่งคนกลุ่มนี้ใช้แต่ของแบรนด์เนม
บางคนถือกระเป๋าใบละ ๒ แสนโชว์ในโซเชียล ขณะที่ปากบอกทุกคนต้องเท่าเทียม
ต้องไม่มีชนชั้น
ครับ…วันนี้เที่ยงๆ นายกฯ เศรษฐานำทีมคณะรัฐมนตรี มี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
ประเด็นการแถลงข่าว คาดว่าจะเป็นการนำเสนอแนวทางการทำงานร่วมกันของหน่วยงานต่างๆ และมาตรการของรัฐบาลในการเร่งแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้ประชาชน
ทำไมนายกฯ ต้องลงมาแถลงเอง?
เพราะรัฐบาลกำหนดให้การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบถือเป็นวาระแห่งชาติ
รัฐบาลให้เหตุผลว่า เนื่องจากเป็นหนึ่งในปัญหาสำคัญของประเทศ และประชาชนรายย่อยจำนวนมากที่กำลังเผชิญความเดือดร้อนจากสถานการณ์หนี้สินที่รุนแรง
แต่…ท่านนายกฯ ครับ ประเด็นที่สื่อสนใจอาจไม่ใช่ การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ
เป็น “ผู้กำกับใหม่” ที่นายกฯ เผลอพูดไปวันก่อนโน้นต่างหาก
พูดเรื่องหนี้นอกระบบก็อดโยงเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้
ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านรัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาติ แต่การแก้ไขดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ค่อยจะออกแรงสักเท่าไหร่
การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบแทบจะกลายเป็นเรื่องนามธรรม
ผิดกับแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลทุ่มทุกสรรพกำลังเพื่อให้นโยบายนี้ไปถึงทางตัน
สรุปแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
นอกจากโชว์ว่ากำลังแก้ปัญหาอยู่