เปลว สีเงิน
“แป้ง นาโหนด”….
อาจเป็น “รัฐมนตรี” กระทรวงใด-กระทรวงหนึ่งในอนาคตก็ได้นะ ทำเป็นเล่นไป
เพราะชื่อ “แป้ง” มักได้ดีทางการเมือง ก็ไม่เห็นหรือ?
ฉะนั้น พวกสื่ออย่าเที่ยวจิกหัวเรียกสนุกปากไป ถึงตอนนั้น ต้องเรียกเขาว่า “ท่านแป้ง”
แล้วตัวเองจะต้องม้วนหาง!
ไม่ใช่อะไรหรอก เห็นแต่ละสำนักข่าวตั้งสมญานาม บางแห่งเรียก เสี่ยแป้งบ้าง พี่แป้งบ้าง
บางสำนักจิกหัว เป็นไอ้แป้งบ้าง เสือแป้งบ้าง บางสำนักก็ “แป้ง นาโหนด” เฉยๆ
เคราะห์ดี ยังไม่มีสำนักไหนเรียกเต็มยศว่า “ส.อบจ.สอบตกแป้ง” เหมือน “บางพวก-บางพรรค” ที่เรียกอดีตนักโทษเด็ดขาดชายว่า “ท่านนายกฯ ทักษิณ”
ผมดูประวัติ “แป้ง นาโหนด” อายุเพิ่ง ๓๗ เอง นอกจากอาชีพทั้งเทา-ทั้งดำ จนมีเงินเป็นร้อยๆ ล้านแล้ว
อีกอาชีพที่ขาวจั๊วะนอกจาก “แป้ง” แล้วก็อาชีพ “นักการเมืองท้องถิ่น” นั่นแหละ
เคยสมัครเป็น “สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดพัทลุง” (ส.อบจ.) เมื่อปี ๖๒ แต่สอบตก
แต่ยังมุ่งมั่นเป็น “นักการเมือง” ตั้งเข็มไต่เต้าจากระดับท้องถิ่นไปสู่ระดับประเทศ คือการ “สมัครสส.” ในอนาคต
บังเอิญถูกจับซะก่อน…..
ด้วยคดี “ปล้นผู้ต้องหา” จากตำรวจสืบสวน กองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค ๘ ขณะจับกุมคดียาเสพ
ศาลตัดสินจำคุก ๒๐ ปี ๖ เดือน!
ไม่ได้มีคดีนี้คดีเดียวนะ แป้ง นาโหนด ยังต้องคดีอีก ๑๐ กว่าคดี ทั้งค้ายา ฟอกเงิน ร่วมกันฆ่า อยู่ระหว่างการพิจารณาคดี
ตามประวัติบอกว่า แป้ง นาโหนด ฉากหน้า เป็นคนสุภาพ อ่อนน้อม ปากหวาน-ขานเพราะ ใจถึง-พึ่งได้ มือไม้อ่อน ชอบช่วยเหลือผู้อื่น
นี่แหละ “สเปกนักการเมือง” มาตรฐานคนไทย ๑๐๐%!
อันที่จริง ติดคุก ๒๐ ปี….
ด้วยคนระดับ “แป้ง นาโหนด” ๑๐ ปี ตั้งอก-ตั้งใจติด คงไม่ถึง ๒๐ ปี ก็น่าพ้นโทษ
เพราะมาตรฐาน “แป้ง นาโหนด” มากเงิน-มากบารมี มีทั้งตำรวจ, ทหาร, อัยการ เป็นสหาย
เมื่อเป็นนักโทษ “แกล้งป่วย” เดินผิวปากออกจากโรงพยาบาลไปได้สบายๆ
โดยคนราชทัณฑ์ คนตำรวจ คนโรงพยาบาล “ตาถั่วเขียว” กันหมด แบบนี้
อยู่ในคุกก็เหมือนอยู่วิมาน จะต้องหนีทำมั๊ย?
เพราะเรื่องเลื่อนชั้นเป็น “นักโทษชั้นเยี่ยม” มันได้อยู่แล้วบวกกับได้รับ “พระราชทานอภัยโทษ-ลดโทษ” ในวันสำคัญทุกปีอีก
ติดไม่กี่ปี จาก “นช.แป้ง” ก็ได้ออกมาเป็นเทพบุตร “แป้ง นาโหนด” แล้ว
อายุ ๕๐ กว่าๆ…
“ชุบตัว” ด้วยการสมัครสส.โอกาสพาสชั้น จากไอ้แป้ง เสือแป้ง ไปเป็น “ท่านผู้ทรงเกียรติแป้ง” มีถึง ๘๐-๙๐%
สไตล์ “แป้ง นาโหนด” หันหน้าเข้าการเมือง รุ่งทุกคน!
ดูอย่างชูวิทย์และอีกหลายบิ๊กเนม-สมอลเนมในเวทีการเมืองตอนนี้ซิ
ประเภท “คนดีสุดขั้ว” ชาวบ้านไม่ชอบ
ต้องประเภท “ชั่วสุดหาง” ต้มเหล้า-เมาเบียร์ นัวเนียเซ็กซ์ ขี้ยา แมงดา กะหรี่ ทำอัปรีย์เมือง
แบบนี้ “คนไทยชอบ”
แย่งกันเลือกเข้าไปเป็น “ท่านผู้ทรงเกียรติ” พรึ่บพรั่บ!
เพราะสังคมไทย “ชื่นชมคนดังทางเลว”
ยิ่งทำให้เอี้ย-ตะกวด มากยิ่งขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งดัง สื่อแย่งกันประมูลตัวไปออกช่อง-ออกจอ ชาวบ้าน-ร้านตลาดชื่นชม ยกย่องเป็น “ฮีโร่” ในดวงใจ
ฉะนั้น “แป้ง นาโหนด” หายใจลึกๆ ยกการ์ดสูงๆ รักษาชีวิตเข้าไว้ “ติดคุกยังมีวันออก-หัวหงอกยังมียาย้อม” เชื่อผม
รักษาหน้าตำรวจเขาหน่อย ออกมา “มอบตัว” ซะ!
เพราะ “คลิป ๒-๓ คลิป” ที่แป้งออกมาสร้างวีรกรรม-อธรรมย่ำยี นั้น
บัดนี้ “อัยการแผ่นดิน” ร้อนอาสน์แล้ว……
“ท่านอัยการสูงสุด” สั่งอธิบดีอัยการภาค ๙ ส่งสำนวนคดีที่มี “อัยการ” ตามที่แป้งกล่าวหาว่า “มีส่วนร่วม” ในคดี เมื่อปี ๖๓ มาให้ “สำนักวิชาการ” วิเคราะห์
ว่า “สั่งฟ้องแป้งชอบหรือไม่” หรือควรมีเหตุให้ “เปลี่ยนคำสั่ง”?
สัปดาห์นี้ ก็จะทราบผล!
ผมขอประจบแป้งไว้ล่วงหน้าก่อนเลย เชื่อพี่เถอะไอ้น้อง แนวคิด “เอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน” สู้กับอำนาจอธรรมรังแก เพื่อเรียกร้องคดีให้ยุติโดยธรรมนั้น
ขอสนับสนุนและยกนิ้วให้
แต่วิธีการคือ “การหลบหนี” แบบนี้ ไม่ถูกว่ะ
เป็นลูกผู้ชาย ไหนๆ จะสู้ “ตายเป็นตาย” แล้ว ก็ควรสู้ให้มันมีเหลี่ยม-มีคูหน่อย
การไม่ใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่นั้น ถูกแล้ว
แต่การหนีกฎหมาย “ไม่ถูก”
ก็ดูซี ขนาด “ทักษิณ” หนีไปร่วม ๒๐ ปี สุดท้าย..ก็ต้องร้องไห้ ยอมรับสารภาพทุกข้อหาว่า “ทำผิดจริง” ขอกลับบ้าน
ทักษิณเขา “มีพรรค-มีสมุน” เพื่อไทยเป็นรัฐบาล ละเว้นการปฎิบัติหน้าตามกฎหมายได้
จึงปล่อยให้เป็น “นักโทษเทวดา” นอนรอยัล สวีท ชั้น ๑๔ แทนห้องขังได้
แต่แป้ง “ไม่มีพรรค-ไม่มีสมุน” เป็นรัฐบาล
แป้งหนีไปได้ตอนนี้
ตอนหน้าก็ต้องซมซานกลับมา เพราะที่ไหน จะอบอุ่นเท่าบ้านเมืองไทยเราเป็นไม่มี
ฉะนั้น เชิดหน้าสู้……
เป็น “ฮีโร่แป้ง นาโหนด” เดินออกมามอบตัวกับทางการเขา รับโทษที่เหลือ “ไม่กี่ปี” หรอก
“พ้นโทษ-พ้นทัณฑ์” แล้ว ด้วยความเป็นฮีโร่ของแป้ง กลับตัว-กลับใจ ประพฤติตนในแนว “ทำดีให้ชาติ-ล้างคนอุบาทว์ให้เมือง” ในชีวิตที่เหลือ
“รัฐมนตรี” แน่ๆ แป้งเอ้ย!
ยังไงก็อย่าลืมคนชื่อ “เปลว” ที่แปลว่า “ป่าช้า” คนนี้ก็แล้วกัน ขี้หมู-ขี้หมา ตำแหน่ง “ที่ปรึกษา” รัฐมนตรี อย่าไปตั้งให้เมียซะหมดล่ะ
ขยักไว้ซักตำแหน่งให้ “เปลว” เป็นที่ปรึกษา “แป้ง”
แหม… “กิ่งทอง-ใบหยก” เลยนะเนี่ย!
ใครมีลูก-มีหลาน สั่งไว้เลย เรียนจบ อยากรับราชการ อย่าให้ไปสมัครสอบเป็นผู้พิพากษา นั่น “ปลายทาง” ยุติธรรม
ให้ไปสมัครเรียน-สมัครสอบเป็น “ตำรวจ-อัยการ”
เพราะตำรวจ-อัยการคือต้นทาง-กลางทางของกระบวนการยุติธรรม
คดีความนั้น ใครๆ ก็ชอบจบที่ “ต้นทาง-กลางทาง”
เพราะที่ “ปลายทาง” ตาชั่งมักตรง!
ด้วยระบบ “กล่าวหา” ของไทย ศาลท่านทำหน้าที่รับฟังคำและพยานหลักฐานที่ “ฝ่ายโจทก์-จำเลย” นำมาหักล้างกัน แล้วพิจารณาคดีนั้นไปตามบรรทัดฐานกฎหมาย
ฉะนั้น “ความยุติธรรม” จะตรง-จะคดอย่างไรหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับต้นทางคือ “ตำรวจ” ผู้ทำสำนวนคดี
และกลางทาง คือ “อัยการ” ผู้ตรวจสอบสำนวนคดี ซึ่งเป็นผู้มีสิทธิ์ใช้คำว่า
“คำสั่งนั้นเป็นที่สุด” แต่ผู้เดียวในประเทศไทย!
“แป้ง นาโหนด” ตอนนี้ อยู่ที่ไหน ไม่สำคัญเท่าที่ผมอยากจะบอกกับท่านผบ.ตร.ว่า
“สั่งให้ตำรวจชุดไล่ล่า” ถอนตัวกลับออกมาจากป่าคืนนคราเถอะ!
เพราะ ผมพิเคราะห์ “ตามคลิป” แล้ว แป้งถลกตูดไปนอนหน้านวล กินสเต๊ก บ้วนปากด้วยไวน์ อยู่ในบ้านที่ไหนซักแห่งหลายวันแล้ว
ไม่แถวมาเลย์ ก็ในเมืองไทยเรานี่แหละ ไม่ได้อยู่ในป่าหรอก!
ดูหน้าตาบ่งบอก “กินอิ่ม-นอนเต็ม” เล็มขนจมูก ขลิบหนวด แต่งเครา ทั้งเสื้อผ้าไม่บ่งบอกคนนอนกลางดิน-กินใบไม้ อยู่ในป่าเลย
ผมไม่ทราบว่า “การข่าว” ของตำรวจดีขนาดไหน?
แต่บอกได้ว่า การส่งตำรวจลุยป่าล่าโจรลักษณะนี้ ไม่ต่าง “ขี่ช้างจับตั๊กแตน”
ยิ่งมีนักข่าวตามไปเป็นพรวน นี่มัน “กองถ่ายทำ” ละคร
ไม่ใช่การไป “ล่าโจร”
ถ้าแป้งมีตัวอยู่ในป่าจริง พบร่องรอยจริง ไล่ล่าไป แป้งกดโป้ง แล้วบังเอิญเปรี้ยงเข้าหน้าแงนักข่าวเข้าซักคน
ซวยเลย คุณตำหนวด!
ยุคนี้ เป็นยุค “ข้อมูล” การรบไม่มีข้อมูลฝ่ายตรงข้าม ไม่มีเบาะแส-ร่องรอยแน่นอน แล้วดุ่มๆ ไป
สมัย “พ่อขุนบางกลางท่าว” หรือ “พ่อขุนศรีอินทราทิตย์” ปฐมกษัตริย์แห่งยุค “สุโขทัย”
ด้วย “การข่าว” ทราบว่า “กุบ ไล ข่าน” จักรพรรดิ์มองโกล บุกยึดเมืองจีน มุ่งหน้ามาสุโขทัย ท่านจึงออกไปต้อนรับ
“สุโขทัย” ซึ่งเท่าหัวไม้ขีดในแผนที่กว้างใหญ่ตลอดเอเชียถึงยุโรป ที่แสดงถึงดินแดนใต้อาณาจักรมองโกล
“สุโขทัย” เป็น “หัวไม้ขีดเดียว”…….
ปรากฎในแผนที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์กลางทุ่งราบมองโกเลียว่า
“กุบ ไล ข่าน” ยกเว้นสุโขทัย มีไมตรีต่อกัน
ไม่เหยียบราบเป็นหน้ากลอง เหมือนทุกดินแดนที่นำทัพไป!
ผมเห็นแผ่นที่นั้นกะตา ซึ่งนั่น บ่งบอกเอกลักษณ์ไทย ๒ อย่าง คือ
๑.การทูตเป็นเยี่ยม และ
๒.การข่าวเป็นยอด
การรบนั้น “หลีกเลี่ยง” ได้ และสามารถแปรศาสตราเป็นแพรพรรณได้ ด้วย “การทูต” และ “การข่าว”
และการทั้ง ๒ นั้น จะบรรลุผล ต้องเข้าถึง “การที่ ๓” คือ
“การรู้เขา-รู้เรา”!
เอาหละ…แป้งเอ้ย
คุณ “จะดี-จะชั่ว” อย่างไรก็แล้วแต่ แต่ให้รู้ไว้อย่าง คลิปที่ออกมาแฉ ๒ คลิปนั้น
มีคุณูปการด้าน “ประจาน” กระบวนการ “๒ มาตรฐาน” การใช้กฎหมายของบ้านเมืองไทยทุกวันนี้ ดีมากกกก
แป้งได้ทำอย่างที่หลายๆ คนอัดอั้น อยากทำ แต่ไม่กล้า
บัดนี้ แป้งกล้า… แป้งทำแล้ว
ดี..ก็ดีให้สุด ดีนั้น จึงจะ “ดีสมบูรณ์”
ออกมา “มอบตัว” ซะ เราเป็นคน “ต้องเคารพกฎหมาย”
มีแต่ “เดรัจฉาน” เท่านั้น
ที่หลงตัว “เป็นเทวดา” ทำตัวเหนือกฎหมาย!
เปลว สีเงิน
๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖