เศรษฐา “คนปากฆ่าตัว” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“จุดไฟ” เรื่องแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาทถ้วนหน้า คนอายุ ๑๖ ปีขึ้นไปไว้กองหนึ่ง
ไฟยังไม่ทันดับ….
มีแต่ลามลุก ส่งควันโขมงคลุมเมือง
แต่นายกฯเศรษฐามันมือ “จุดขึ้นใหม่” อีกกองแล้ว!

เรื่องแรงงานขั้นต่ำและเงินเดือนข้าราชการรวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ

พูดเรื่อง “เงิน” ออกไปเท่านั้นแหละ….
บรรดาข้าราชการและชนชาวแรงงาน เข้าตำรา “ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปทึกทัก” กันขนานใหญ่

จากนายกฯ ให้สำนักงบประมาณ, กระทรวงแรงงาน
“ไปศึกษาเรื่องปรับค่าแรงขั้นต่ำและการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ขนาดไหน อย่างไร?”

แต่ข่าวที่พรึ่บออกไป เป็นทางเดียวกันว่า…..
“รัฐบาลจะปรับค่าแรงและขึ้นเงินเดือนข้าราชการ”!

ซึ่งมันก็ไม่ผิด
แต่มันยังไม่ใช่ เป็นแค่ “ให้ศึกษาความเป็นไปได้” เท่านั้น

แต่ตอนนี้ ทึกทัก “เป็นจริง” กันไปหมดแล้ว ว่า…..
“ต้นปีรัฐบาลจะปรับอัตราเงินเดือนข้าราชการและขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ”!
ก็…วินาศซีครับ…ท่านนายกฯ!

วิชาการขาย-การตลาด ว่าด้วยเทคนิกการปั่นยอด “ซื้อ-ขาย คอนโดฯ” กระตุ้นให้ลูกค้าแห่มาจอง ด้วยเกรงว่า ถ้าช้าเขาจะปรับราคาขึ้น แบบนี้ พอได้

แต่กับตลาดสินค้าเครื่อง “อุปโภค-บริโภค” ที่ชีวิตประจำวันของชาวบ้านต้องซื้อ ต้องกิน ต้องใช้
พอได้ยินข่าว “ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ-ขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ” เท่านั้นแหละ
ขึ้นจริง-ไม่จริง, ขึ้นตอนไหน-เมื่อไหร่ ไม่รู้แหละ

ตลาดค้า-ตลาดขาย พากันฉวยโอกาสขยับตัว “ขึ้นราคาสินค้า” ไปรอก่อนแล้ว!
พอขึ้นจริง ก็ขยับราคาตามไปกระทืบอีกกระทอก
สรุป “เงินเดือน-ค่าแรง” ขึ้นหนเดียว
แต่สินค้าเครื่องอุปโภค-บริโภค “ขึ้นสองหน!

ถ้าทั้งเงินเดือน ทั้งค่าแรงยังขึ้นไม่ได้ ที่หวังว่า ราคาสินค้าที่ขึ้นไปรอดักหน้า มันจะลดลง

พ่อค้าหน้าโง่…มี
แต่คนที่โง่กว่าพ่อค้าก็ยังมี คือคนที่คิดว่าเขาจะลดนั่นแหละ!

พูดแล้วนึกถึงสมัยยิ่งลักษณ์หาเสียง เธอตะโกนว่า…ลดรายจ่าย แล้วกระชากรายได้พ่อแม่พี่น้องขึ้นมา
ตอนนี้ นายกฯเศรษฐาทำแล้ว

แต่ไม่ใช่ลดรายจ่าย หากแต่กำลังใช้เรื่องขึ้นเงินเดือนข้าราชการ “กระชากรายจ่าย” พ่อแม่พี่น้องขึ้นไป!

เศรษฐานี่ ให้ร้องเรียกลูกค้าเข้าร้านตามตลาดสด ผมว่าตรงสเปก เพราะ “ปากไว” ดี
แต่การให้มาเป็น “นายกฯ” นี่ ไม่ใช่ว่าเศรษฐาไม่เก่ง
หากแต่งานในตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่สเปกของเศรษฐาเค้า!

“ทำพัง” มากี่เรื่องแล้ว กับความเป็นคน “ปากไว” นี่น่ะ
เรื่องแจก ๕.๖ แสนล้าน นั่นเรื่องหนึ่ง “ผมศึกษามาหมดแล้ว ไม่มีปัญหา ทำได้เลย”

แล้วเป็นไง ตอนนี้ไม่มีใครห้ามแล้วนี่ มีแต่ยุ แต่กล้าซะที่ไหน
๑๐ พฤศจิกา.เห็นบอกจะแจงหมด แจงเรื่องแจก หรือแจงเรื่องจะติดคุกกันหมด ก็แจงให้ชัดๆ นะ

และนี่มาพูดเรื่องเงินเดือน เรื่องค่าแรง คลุมๆ เครือๆ แบบ “ตดหลอกหมา” แต่หารู้ไม่ว่า
เรื่อง “ขึ้นเงินเดือน” ข้าราชการนั้น…….

มันไวกว่าเบนซินและร้ายกว่าสส.คุกคามทางเพศ เพราะมันทำให้ ผัก หญ้า ข้าว ปลา อาหาร ขึ้นราคากันพรึบพรับ!

เป็น “นายกฯมือใหม่” ไม่เป็นปัญหา
แต่การที่จะมาเป็นนักบริหารในงานการเมือง แล้วไม่ศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองเรื่องการขึ้นเงินเดือนกับราคาสินค้า ว่ามันสัมพันธ์ในเชิงผกผันที่อ่อนไหวขนาดไหน?

นั่น…ผิดมหันต์ของเพื่อไทย (หรือของนักโทษเทวดาก็ไม่รู้นะ?)

และ “โชคร้าย” ของคุณเศรษฐาที่มาเป็นในตำแหน่งที่คุณเป็นไม่ได้ คือตำแหน่ง “ผู้นำบริหารประเทศ”!

มันเป็น ๑ ในบัญญัติ ๑๐ ประการ ที่ผู้นำบริหารไม่ควรแพร่งพรายล่วงหน้าอย่างยิ่งคือ
เรื่อง “ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ”!

เพราะการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ มันคือ การอนุญาตให้พ่อค้า-แม่ขาย “ขึ้นราคาสินค้า” โดยอัตโนมัติ

เอามาพูดโพล่งๆ แค่ว่า “ให้ศึกษาความเป็นไปได้” ก็พููดไม่ได้ รัฐบาลต้องสั่งเป็นการภายในและเป็นเรื่อง “ลับมาก” จะให้ข่าวแพร่งพรายหลุดออกไปถึงหูสื่อไม่ได้เลย

“ศึกษาหรือไม่ศึกษา” ไม่มีใครแยกแยะ-ใคร่ครวญหรอก
มีแต่ ฟังปุ๊บ สรุปปั๊บ “รัฐบาลจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ”!

เศรษฐา คุณเป็นนายกฯ เพื่อไทย
ไม่เคยฟังอดีตนายกฯ สมัครบอกหรือว่า เรื่องเงินเดือนข้าราชการ ห้ามเอามาพูดก่อน จนกว่าทำเสร็จหมดแล้ว พร้อมประกาศวันไหน ค่อยแถลงล่วงหน้าซัก ๑ วัน

สมมติ แถลงเช้า ๒๙ ตุลาคม มีผลปุ๊บ ๑ พฤศจิกายน แบบนี้ได้ เพราะพ่อค้าไม่ทันได้ฉวยโอกาส “ขึ้นราคา” ไปดักหน้ารอ!

แต่นี่ เศรษฐา เป็นนายกฯ มากี่เดือน ขี้เกียจนับ บอกได้เพียงว่า
นอกจากโขมงโฉงเฉง ไม่เป็นเนื้อ-เป็นหนังในเนื้องาน รัฐบาลใหม่ เพียงเกาะงานเก่าๆ ที่รัฐบาลลุงตู่ทำไว้ ตีกินไปวันๆ

นายกฯ เศรษฐา มี ๒ เรื่องที่เด่น

๑.ปากไว จนคนไทยที่ฉนวนกาซาจะตายกันหมด
๒.ผลาญเงินไว มาไม่ทันไร จะแจก ๕.๖ แสนล้าน,จะขึ้นเงินเดือนข้าราชการ,แค่ ๒ รายการนี้ งบประมาณปี ๖๘ ทั้งปี ไม่ต้องเอาไปทำอะไรเลย

ให้รัฐบาลเศรษฐาเอาไปแจก สนองนโยบายหาเสียง แจกคนละหมื่น,ขึ้นเงินเดือน,ปริญญาตรี สตาร์ท ๒๕,๐๐๐ ค่าแรงวันละ ๖๐๐ บาท และฯลฯ แค่นี้ ก็แทบหมดแล้ว

แล้วมีใคร “ตาทิพย์” เห็นบ้างว่า….
ตั้งแต่เป็นรัฐบาลมา เศรษฐามีผลงานสร้างรายได้เข้าประเทศที่จับต้องได้!?

มีแต่ลงทุนในโครงการ EEC จากที่รัฐบาลลุงตู่ทำ มีแต่รายได้ท่องเที่ยวจากที่รัฐบาลลุงตู่บุกเบิกไว้ให้ ตอนปลายโควิด

แต่เมื่อหันไปดูด้านการถลุงเงิน…โอ้โฮ!
จะตั้งสสร.แก้รัฐธรรมนูญ เบ็ดเสร็จไม่ต่ำกว่า ๓๐,๐๐๐ ล้าน

จะแจก “ดิจิทัล โทเคน” ๕.๖ แสนล้าน ต้องลงทุนอีกไม่รู้อีกกี่หมื่นล้าน ทำแอปใหม่ โครงข่าย และระบบใหม่ เพื่อดูดเอาข้อมูลคน ๕๖ คนมาเป็นสมบัติพรรค

และต้องสร้าง “งบผูกพัน” เพื่อสนองนโยบายหาเสียงอีก ๓-๔ ปี จากที่ต้องเอาเงินงบประมาณในอนาคตมาแจกก่อนตอนนี้

และยังจะขึ้นเงินเดือนข้าราชการทั้งหมด “ทุกระบบ” ของประเทศอีก ต้องใช้งบประมาณเพิ่มอีกปีละกี่หมื่น-กี่แสนล้าน สำนักงบประมาณ กำลังคำนวณ

ยังไม่พูดถึงเรื่อง “เหมาลำ” และ “เช่าโรงแรม ๕ ดาว” ที่อิสราเอลให้คนงานนับพันๆ คน พักนอนรอเที่ยวบินมารับ รายการนี้อีกเท่าไหร่ ยังปิดเงียบ

และคณะนายกฯ ยังจะต้อง “บินเหมาลำ” ทำสถิติ เดินทางไปเยือน ไปประชุมตามประเทศต่างๆ แข่งยิ่งลักษณ์อีก กว่าจะจบ “คอร์สนายกฯ” หุ่น จะกี่ร้อยล้าน ก็ยังบอกไม่ได้

แล้วไหนล่ะ….
รายรับของประเทศ ที่ไม่เกี่ยวกับ “ภาษีของกู” น่ะ?

ผมถึงบอกว่า “วินาศ” ไงล่ะ สินค้าส่งออกน่ะ ผลิตได้-ส่งได้ แต่ไหนล่ะ “คนซื้อ”?

เมื่อประเทศผู้ซื้อไม่มี ซึ่งเขาก็ย่ำแย่กันไปหมด ผลจากสงครามยูเครน-รัสเซีย และสงคราม “ยิว-ปาเลสไตน์”

แล้วเราผลิตได้ จะเอาไปขายใคร สินค้ามันก็ล้นสต๊อก เมื่อล้นสต๊อก ต่อให้แจกคนละ ๒๐,๐๐๐ บาท
แล้วหวังว่า เงินนั้นจะหมุน ๔-๕ รอบ ฉุดการผลิต-การบริโภคให้โต ๕% นั้น

ต่อมลูกหมากโต พอเป็นไปได้ แต่จะให้ GDP โต ๕% นั้น ไปกินนมแล้วอาบน้ำโรยแป้งรูสะดือนอนแต่หัวค่ำนะ เผื่อ “ฝันจะเป็นจริง”!

ปากสร้าง “วจีกรรม” ประณามปาเลสไตน์ “ปักคาใจ” เขาไว้ถึงวันนี้

แล้วนี่ “วจีกรรม-ปากไว” ทำให้ชาวบ้านจะต้องซื้อของแพงจากพูดหวังหาเสียงเรื่องขึ้นเดือน-ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอีก

เงินเดือนข้าราชการนั้น จะขึ้น…ก็ขึ้นไป ไม่มีใครว่า

แต่ผมหมายถึง……
พร้อมจะขึ้นวันไหนแล้วค่อยพูด ไม่ใช่พูดล่วงหน้าเป็นเดือนๆ แบบนี้ ข้าวของจะขึ้นราคาล่วงหน้ากันไปก่อน

เงินเดือนที่ขึ้น จะกลายเป็น “ขึ้นให้พ่อค้า” แถมชาวพาราที่ไม่ใช่ข้าราชการพลอยซวยไปด้วย!

พูดกันตรงๆนะ นายกฯ เศรษฐานี่ ไม่มีออร่าเอาซะเลย
เท่าที่ดูและฟัง ในเวทีระดับนานาชาติ เขาให้ราคาระดับ “นายกฯ หุ่นเชิดทักษิณ”!

เพราะถ้าไม่ใช่ จะไม่ปล่อยให้นักโทษทักษิณอยู่เหนือกฎหมายเช่นนี้ โดยรัฐบาลที่อ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตย จะต้องทำให้ทุกคน ต้อง “เท่าเทียมกันทางกฎหมาย”

จะไม่สร้างความเหลื่อมล้ำ โดยปล่อยให้นักโทษทักษิณนอนรอยัล สวีท ในขณะที่นักโทษคนอื่นๆ “นอนคุก”!

เศรษฐา จึงมีน้ำหนักในการยอมรับจากนานาชาติอยู่ในระดับ “หุ่นเชิดทักษิณ”

ต่างกับนายกฯ ประยุทธ์ ประณามกันว่า “เผด็จการ”
แต่ “เผด็จการประยุทธ์” กลับมีออร่า

นานาประเทศยอมรับและให้เกียรติ ให้ความสนิทสนมคบหา ชื่อเสียงอยู่ในระดับ “นายกฯอินเตอร์” คนหนึ่ง

เพราะอะไร?
เพราะเผด็จการอย่างนายกฯประยุทธ์ ทำให้นานาชาติเข้าใจได้ ว่าเผด็จการอย่างประยุทธ์…ใช่ ประชาธิปไตยแท้ ตรงข้ามกับ “ฝ่ายประชาธิปไตย” อุปโลกน์อย่างทักษิณและพวกหุ่นเชิด!

นี่ผมร่อนเศษดิน-เศษหินเพื่อให้เหลือทองคือ “เศรษฐา”
อย่าเข้าใจว่าตำหนิหรือเข่นฆ่านะ เพราะผมรู้

“เศรษฐา” ชอบโผงผาง ว่าจริงใจ จริงมั้ย..ท่าน?

เปลว สีเงิน
๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖

Written By
More from plew
๖ ตุลา. “แผ่นเสียงตกร่อง” – เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน ๑๔ ตุลา.และ ๖ ตุลา.นี่ ใช้หากินได้ทุกปี สุดแต่ ช่วงนั้น-ปีนั้น เกมการบ้าน-การเมืองมุ่งไปทางไหน นักโหนประวัติศาสตร์หาแดก-หลอกเด็ก ก็จะระบาย-แต่งแต้มปลุกเร้าไปทางนั้น
Read More
0 replies on “เศรษฐา “คนปากฆ่าตัว” – เปลว สีเงิน”