ผักกาดหอม
นัยว่าต้องการแสดงสปิริต
วานนี้ (๓๑ ตุลาคม) ก่อนผีฮาโลวีนจะออกอาละวาด “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อีกตำแหน่ง แอ่นอก พร้อมรับผิดชอบหากจับตัว “เสี่ยแป้ง” กลับเข้าคุกไม่ได้
แต่น่าเสียดายไม่ได้แจ้งว่าจะรับผิดชอบอย่างไร นอกจากบอกว่า จะเร่งปรับปรุงแก้ไขระเบียบของราชทัณฑ์ ให้รัดกุมขึ้น
อุดช่องโหว่ไม่ให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจในทางที่ไม่เหมาะสมหรือเอื้อประโยชน์ได้
ทีแรกนึกว่าจะลาออก อย่างประเทศที่เจริญทางจริยธรรมเขาทำกัน
แต่ก็ไม่ใช่!
กรณี “เสี่ยแป้ง” ว่าไปแล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรสักเท่าไหร่ เพราะผู้ร่วมขบวนการเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อยที่หิวเงินไม่กี่คน กระทำการโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
สอบสวนไม่กี่วันก็รู้ตัวหมดแล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง
ถ้ากรณีนี้มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกรมราชทัณฑ์รู้เห็น นี่จึงจะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่มาก
เพราะต้องมีลักษณะเป็นขบวนการอย่างแน่นอน วิธีแก้ปัญหาคงจะย้ายคนโน้นไปไว้ตรงนี้ คนนี้ไปไว้ตรงโน้นไม่ได้
มันต้องรื้อทั้งกรมราชทัณฑ์
เรื่องภายในของกรมราชทัณฑ์ ไม่ค่อยเป็นที่รับรู้ของประชาชนสักเท่าไหร่
ได้รับรู้ทีก็ต่อเมื่อมีเรื่องฉาวโฉ่
กรณี “เสี่ยแป้ง” ได้เห็นการล้อมคอก แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย
ก็ต้องชื่นชม “สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์” ที่สั่งการไปยังผู้บัญชาการเรือนจำทั่วทุกแห่งในประเทศไทย กรณีการนำผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำหรือออกไปปฏิบัติสาธารณประโยชน์
ขอให้ผู้คุมราชทัณฑ์มองถึงความมั่นคงปลอดภัยเป็นอันดับแรก
และจะต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมด้วย
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้เหตุผลน่ารับฟังครับ เพราะหน้าที่หลักคือต้องควบคุมดูแลผู้ต้องขังไม่ให้หนีและไม่ให้ก่อปัญหา
ส่วนเรื่องการสอบ “เสี่ยแป้ง” ท่านให้ไกด์ไลน์ไว้เลย ต้องพิจารณาระเบียบของราชทัณฑ์ ว่ามันมีความบกพร่องก่อนเกิดเหตุการณ์การหลบหนีของผู้ต้องขังหรือไม่
เช่น ตั้งแต่วันแรกที่ “เสี่ยแป้ง” เข้าโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราชเป็นอย่างไร
การอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำ มีความถูกต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนหรือไม่
การเลื่อนนัดหมายของแพทย์ว่าเจ้าหน้าที่ได้รับทราบการเลื่อนนัดนั้น ก่อนที่จะคุมตัว “เสี่ยแป้ง” ออกไปโรงพยาบาลหรือไม่
เรื่องที่ผู้คุมได้ขยายโซ่ตรวนของผู้ต้องขังจึงเกิดการหลวมนั้น จริงหรือไม่
ต้องดำเนินการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินผู้คุมว่ามีการรับผลประโยชน์ มีการรับเงิน เอื้อประโยชน์ในส่วนใดหรือไม่
และต้องตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้ที่เคยเข้าเยี่ยม “เสี่ยแป้ง” ด้วย
แบบนี้จะรอดหรือครับ
อีกไม่กี่วันก็น่าจะจับได้ครบยกแก๊ง
รวมทั้ง “เสี่ยแป้ง” ด้วย
ไม่ซับซ้อนครับ จบง่ายเพราะประสิทธิภาพการทำงานของกรมราชทัณฑ์
ก็มาถึงประเด็นสำคัญ
ตามข่าวที่ปรากฏบอกว่า “เชาวลิต ทองด้วง” หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” เป็นนักโทษคดีสำคัญ มีประวัติก่อคดีร้ายแรง ๑๒ คดี
เห็นแล้วขนลุก มีทั้ง คดีทำร้ายร่างกาย
คดียาเสพติด
คดีอาวุธปืน
คดีความรุนแรง
คดีสมคบค้ายาเสพติด
คดีฟอกเงิน
คดีร่วมฆ่าอดีตรองนายก อบจ.นครศรีธรรมราช
คดีพยายามฆ่าตำรวจทางหลวง
คดียิงต่อสู้ชุดสืบสวนภาค ๘ ปล้นชิงผู้ต้องหาคดียาเสพติด เป็นคดีที่ ปปง.อายัดทรัพย์สิน ๑๕๐ ล้านบาท เห็นว่าหยอดกระปุกไว้เป็นทุนเตรียมลงสมัคร อบจ.พัทลุง
รอดออกมาก่อคดีซ้ำแล้วซ้ำอีกเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร ใครไม่งงบ้างยกมือขึ้น!
นี่ถ้ายังรอดจนกลายเป็น สมาชิก อบจ.พัทลุง ก็คงจะบันเทิงกันแน่นอน
ก็เอาใจช่วย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ลากคอ “เสี่ยแป้ง” กลับมานอนในคุก
และเอาใจช่วย พานักโทษชายอีกรายกลับคุกด้วย
ไม่ใช่ใครที่ไหน “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร” ครับ
เห็นวิธีการที่รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จัดการกับ “เสี่ยแป้ง” แล้ว อยากให้นำมาใช้กับ “เสี่ยแม้ว” ด้วย เพราะคนเขาสงสัยกันเยอะว่า คนของกรมราชทัณฑ์ มีนอกมีในอะไรด้วยหรือเปล่า
ทำไม “น.ช.ทักษิณ” ถึงไม่กลับเข้าคุกเสียที
นอนห้องวีไอพีชั้น ๑๔ โรงพยาบาลตำรวจนานเกินไปแล้ว
อยากให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ที่จัดการกับ “น.ช.ทักษิณ” ตั้งแต่แรกว่า มีใครโอนเงินผิดเข้าบัญชีเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้บ้างหรือเปล่า
จะได้ไล่จับฐานติดสินบนเจ้าพนักงานได้ถูก
เงินร้อนอย่าไปรับเชียวครับ
จะติดคุกเสียเอง
ก็ตามที่รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จะต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคมด้วย
ต้องดูว่าการอนุญาตให้ผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำ มีความถูกต้องเป็นไปตามระเบียบขั้นตอนหรือไม่
ชาวบ้านเขาสงสัยเรื่องนี้เยอะครับ
เพราะคนป่วยไม่ยอมแสดงหลักฐานว่าตัวเองป่วยจริง
ก็เดากันสิครับ
วันนี้รักษาราชการแทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ท่านก็โดนหางเลขด้วย
ฉะนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการยึดปรัชญาการทำงานของกรมราชทัณฑ์เอาไว้ให้แน่น
ต้องรับผิดชอบต่อสังคม
อย่าให้สังคมต้องทวงถามบ่อย