‘ลาวามอส’ ที่ก้าวไกล – ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

นี่แหละครับ “สังคมแห่งความขัดแย้ง”

พร้อมที่จะบวกกันทุกกรณี

เรื่องหญิงคุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ ใครๆ ก็อดพูดถึงไม่ได้ เพราะมีหลากหลายมิติรวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน

มีทั้งเห็นด้วย และสนับสนุน

ไม่เห็นด้วย และต่อต้าน

ที่สำคัญคือใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล

เรื่องคุณหญิงหมอพรทิพย์ มี ๒ ประเด็นให้พูดถึงในคราวเดียวกัน

ประเด็นแรกคือ ถูกไล่จากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ขณะเดินทางไปเที่ยวที่ ประเทศไอซ์แลนด์

ประเด็นที่สอง คุณหญิงหมอพรทิพย์ โพสต์ภาพนอนอยู่บนทุ่ง “ลาวามอสไอซ์แลนด์”

สองประเด็นนี้เกิดขึ้นไล่ๆ กัน เป็นเงื่อนไขให้แต่ละฝ่ายใช้โจมตีกัน

ประเด็นทุ่งลาวามอส ใช้โจมตี คุณหญิงหมอพรทิพย์ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับประเด็น ถูกคุกคามจากร้านอาหารในไอซ์แลนด์

ประเด็นหลักของเรื่องก็ประมาณนี้

แน่นอนการที่ คุณหญิงหมอพรทิพย์ ไปนอนอยู่บนทุ่ง “ลาวามอสไอซ์แลนด์” ถือว่าผิด และไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ก็คล้ายๆ นักท่องเที่ยวจีนจับปลาสวยงามใส่ถุงพลาสติกที่เกาะช้าง

อาจเป็นการทำไปโดยไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย

แต่ผลมันก็คือ ผิดกฎหมาย

ก็ไม่ทราบได้ว่า กาารย่ำลงไปใน ทุ่งลาวามอสไอซ์แลนด์ นั่นผิดกฎหมายไอซ์แลนด์หรือไม่ แต่ในแง่การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว มันคือสิ่งไม่ควรทำ

หากแยกแยะได้ว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำ ความผิดพลาดในลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้น

แต่ฟังจาก อดีตท่านทูตริศโรจน์ เฟื่องระบิล แล้วมันไปอีกทาง

“….ในความเป็นจริง “ลาวามอส” ตรงพื้นที่ที่คุณหมอเข้าไปถ่ายรูปนั้น เป็น “จุดขาย” ของ Iceland ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

บริษัทโฆษณาสินค้าแบรนด์ระดับโลก Celeb ดาราของ Iceland อย่าง Byork หรือแม้แต่ ดารา นักร้อง รวมถึงเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ด้อมส้ม เองก็เคยเข้าไปถ่ายตรงจุดเดียวกับคุณหมอพรทิพย์ มาแล้ว ดังมีรูปที่ปรากฏใน FB / IG / TikTok เต็มไปหมด

สรุปง่ายๆ คือ การที่นักวิชาการและสื่อเอาจุดนี้มาตีแบบ “เล่นใหญ่ผิดปกติ” ก็คือเพื่อ “กลบเกลื่อน ปกป้อง และเบนประเด็น” ช่วยคนๆ นึงที่มีพฤติกรรมหยาบถ่อยละเมิดสิทธิของคนอื่น และมีเจตนาทำร้ายร่างกายคนอื่นให้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต…”

ขณะที่เฟซบุ๊กของ น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ที่ร่วมทริปนี้ด้วย กลับมีการโพสต์ภาพที่มีป้ายบอกว่า “ห้ามเดินเหยียบบนมอส”

ครับ…ฟังหลายๆ ด้าน ก็พอจะได้ข้อเท็จจริงระดับหนึ่ง

และมีความจริงประการหนึ่งว่ามีการโหมโจมตี คุณหญิงหมอพรทิพย์อย่างหนักหน่วงในโซเชียลด้อมส้ม และกลุ่มหนีคดีม.๑๑๒ ที่ปั่นมาจากต่างประเทศ

เช่นเดียวกัน ประเด็น คุณหญิงหมอพรทิพย์ ถูกคุกคาม โดยผู้ฝักใฝ่ทางการเมืองที่ยืนคนละฟากกัน หากมีจิตสำนึกรู้ว่า อะไควรอะไรไม่ควร ประเด็นดรามาซึ่งก็ไม่รู้ว่าผิดกฎหมายไอซ์แลนด์หรือไม่เช่นกัน ก็จะไม่เกิดขึ้นมาเช่นกัน

เท่าที่ติดตามข่าวสาร มีคนพูดถึงเรื่องนี้กันมาก มีแง่คิดที่หลากหลาย แต่เสียงที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนที่ข่มขู่คุณหญิงหมอพรทิพย์นั้นดังกว่าเสียงอ้อมแอ้มจากฟากฝั่งที่สร้างภาพว่ายึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน

เป็นต้นว่า “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคกก้าวไกล เมื่อเหตุการณ์พัฒนามาถึงระดับหนึ่งธาตุแท้ก็โผล่มาให้เห็น แทนที่จะย้ำหลักการไม่เห็นด้วยกับการข่มขู่คุกคามในทุกกรณี แต่กลับให้เหตุผลในเชิงเห็นใจอ้างว่ามีปัจจัยอื่นผลักดันอยู่เบื้องหลัง

“…เรื่องนี้มันสะท้อนความรู้สึกโกรธของประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีต่อบทบาทของ สว.ในการเลือกนายกฯ ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีประชาชนที่ไม่พอใจเพราะเขารู้สึกว่าเสียงของประชาชนผ่านการเลือกตั้งไม่มีความหมาย นี่ก็เป็นพื้นฐานที่เข้าใจได้ ซึ่งมันแยกเรื่องบทบาทของ สว.กับเรื่องนี้ไม่ออก เราจะต้องไม่พิจารณาแยกออกจากกัน แต่เราไม่อยากเห็นการเลือกปฏิบัติจากความคิดที่แตกต่างกันในทางการเมือง ทางออกคือต้องมีการแก้ไขกฎกติกาทางการเมืองเพื่อไม่ให้มีใครจะมาใช้อำนาจได้เหนือกว่าเสียงของประชาชนได้ นี่คือคงเป็นทางออก…”

“…เราไม่รู้ว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า แม้เราจะไม่ได้สนับสนุน แต่เราก็ต้องเข้าใจว่ามันมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้ถ้าเราไม่ปรารถนาที่จะเห็นความขัดแย้งทางการเมืองแบบนี้ ผมคิดว่าทางออกคือต้องออกแบบกฎกติกาที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเสียงของเขาได้รับความเคารพว่าเป็นประชาธิปไตยจริงๆ…”

ผูกโยงหลายเรื่องเข้าด้วยกันจนออกลูกมั่วมากไปหน่อย

ถาม “ชัยธวัช” กลับ วันหนึ่งหากมีคนข่มขู่จะฆ่าคนของพรรคก้าวไกล เพราะดันทุรังจะแก้ม.๑๑๒ ให้ได้ จะให้คำตอบลักษณะนี้หรือไม่

อย่าลืมนะครับความไม่พอใจต่อพรรคก้าวไกล ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ต่างจากระเบิดเวลาลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งพร้อมจะระเบิดทันที หากพรรคก้าวไกลมีอำนาจและลงมือลดบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ลงอย่างเป็นทางการ

เช่นการแก้ไขม.๑๑๒ ในสภา!

ผิดก็คือผิดครับ

จะไปอ้างเรื่องประชาชนไม่พอใจบทบาทสว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ดูว่าการขุ่มขู่คุกคามดูมีเหตุมีผล ก็ไม่ต่างอะไรกับการบิดเบือนข้อเท็จจริง

และนี่แหละครับเป็นสาเหตุว่าหลายครั้งการเคลื่อนไหวของ “ด้อมส้ม” ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล ทำก่อนที่จะคิด

ฟัง “ชัยธวัช” แล้ว ฟัง คุณหญิงหมอบ้าง

“…ตอนเกิดเหตุหมอไม่ได้ตกใจอะไร เพราะตอนนี้หมออายุ ๖๙ ปีแล้ว ผ่านอะไรแบบนี้มาเยอะ เราไม่เปิดประตูรับมัน มันก็ไม่เข้ามาทำร้ายเรา และคำสอนของพระที่เราจำเอาไว้เสมอ คือพัสดุถ้าส่งแล้วไม่มีคนรับก็จะกลับไปสู่คนส่ง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับหมอก็ถือว่าจบ…”

เป็นไงครับวุฒิภาวะที่แตกต่าง จะเห็นผลที่จะเกิดต่อเนื่องแตกต่างกัน

คำพูด “ชัยธวัช” ไม่ต่างจากการบอกให้ “ด้อมส้ม” ทำกต่อไป เพราะมีเหตุผลรองรับ

ส่วนคุณหญิงหมอ ให้ทุกอย่างจบ เพราะถือเป็นเรื่องแตกต่างทางความคิด

ก็นึกไม่ออกจริงๆ หากพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โฉมหน้าประเทศจะเป็นอย่างไร

ก้าวไกลจะเอาอยู่หรือเปล่า

Written By
More from pp
“สามารถ” ซัด กระบวนการเลือกตั้ง สว.ส่อลำบาก หลังใช้คนเลือกแค่หลักสิบคนก็ได้เป็น สว. เข้ามายับยั้งสภา สส.ที่ใช้เสียงประชาชนทั้งประเทศเลือกมา มองได้ครบ 200 แต่จะรับรองได้หรือไม่ เป็นอีกเรื่อง
26 มิถุนายน 2567 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งประชาชนไม่ได้ไปเลือก เพราะคนที่สมัคร สว.เขาไปเลือกกันเอง และ...
Read More
0 replies on “‘ลาวามอส’ ที่ก้าวไกล – ผักกาดหอม”