อย่ามองไกลจนไม่เห็นชาติ – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ..⬇️

เปลว สีเงิน

ถ้าประเทศจะล่มจมละก็ ไม่ใช่จากใครที่ไหนหรอก?
จากพวกนักการเมืองนี่แหละ!
โดยเฉพาะพรรคที่หาเสียงตกเบ็ด คนอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป จะได้บำนาญคนละ ๓,๐๐๐ บาท/เดือน นั่นละ ตัวดีนัก!

ก่อนคุยเรื่องนี้…..
ขอทำความเข้าใจให้ตรงกับข้อเท็จจริงกันก่อน ไม่งั้นก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง เพราะมีสส.บางพรรค เอาข้อเท็จจริงไป “พูดบิดเบือน”

ปลุกปั่นให้ “คนเฒ่า-คนแก่” เข้าใจผิดว่ารัฐบาลจะตัดเบี้ยยังชีพพวกเขา

แล้วเขาก็จะอาศัยความเข้าใจผิดนั้น เป็นช่อง “ปลุกระดมมวลชน” ออกมาป่วนบ้าน-ป่วนเมือง สร้างสถานการณ์ผสมที่กูไม่ได้เป็นรัฐบาล

เรื่อง “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” นั้น ข้อเท็จจริง ตรงๆ ชัด ๆ คือ

ผู้สูงอายุ ๑๑ ล้านคน ที่ได้อยู่แล้วทุกเดือน
“ทุกคน” ก็ยังได้เหมือนเดิม-เท่าเดิม ๑๐๐%

ไม่มีลด ไม่มีตัด ไม่มียกเลิก อย่างที่สส.บางพรรคปลุกปั่น
เพราะรัฐบาลจัดสรรงบไว้ให้แล้ว ๘๙,๐๐๐ ล้านบาท

แถมงบปีหน้า ๒๕๖๗ “รัฐบาลลุงตู่” ก็จัดไว้ให้แล้วด้วย
เพิ่มเป็น ๑๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ด้วยซ้ำ เพราะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น

ฉะนั้น ใครมาเป่าหู ให้ออกไปชุมนุมประท้วง ก็อย่าให้เขาหลอกใช้ไปเป็นเครื่องมือสร้างสถานการณ์ เพื่อหวังผลทางการเมืองเชียว

ที่มีข่าวว่า “รัฐบาลจะปรับหลักเกณฑ์” การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะต้องมีการพิสูจน์ความจน นั้น ต้องเข้าใจ ว่า
รัฐบาลลุงตู่ เป็น “รัฐบาลรักษาการ”

ไม่มีสิทธิ์ไปตัด ไปลด ไปเพิ่ม ไปพิสูจน์ ไปขยับเขยื้อนหลักเกณฑ์อะไรที่เกี่ยวกับเบี้ยยังชีพขณะนี้

ต้องรอให้ “รัฐบาลใหม่” ที่กำลังจัดตั้งกันอยู่ตอนนี้เข้ามาจัดการเอง เพราะเป็นอำนาจ-หน้าที่ของรัฐบาลใหม่โดยตรง รัฐบาลรักษาการ “ทำไม่ได้”!

ทั้งในข้อเท็จจริง ลำพังรัฐบาลเอง จะไปกำหนดหลักเกณฑ์อย่างโน้น-อย่างนี้ไม่ได้

เพราะต้องให้ “คณะกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ” กำหนดเกณฑ์ ร่วมกับครม.,รัฐมนตรีคลัง ที่มีนายกฯ ประธาน ซึ่งก็ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการนี้ทำ

ต้องรอให้ “รัฐบาลชุดใหม่” เข้ามาทำ!

พอเข้าใจนะครับ….

สำหรับ ปี ๖๖-๖๗ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” ที่ยังได้เหมือนเดิม เป็นงบประมาณจัดทำตอน “รัฐบาลลุงตู่” มีอำนาจเต็ม จัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้น “ปีนี้-ปีหน้า” ไม่กังวลว่าจะไม่ได้ จะต้องมีการพิสูจน์ความรวย-ความจนนั้น ไม่มี-ไม่จริง ตามที่บางนักการเมืองพูดหวังทางปลุกปั่น

ทุกคนที่ได้อยู่แล้ว ยังได้เหมือนเดิม ไม่มีการพิสูจน์ความรวย-ความจน แต่อย่างใด

ส่วนจากปี ๒๕๖๘ ป็นต้นไป เป็นเรื่องของรัฐบาลใหม่เขาจะกำหนดเกณฑ์กัน

เห็นหาเสียงกันไว้ยังกะพิมพ์ธนบัตรกันได้เอง ว่าจะแจกถ้วนหน้า “คนอายุ ๖๐ ปี” ขึ้นไป คนละตั้ง ๓,๐๐๐ บาท/เดือน!?

แล้วจะเอาเงินที่ไหนกัน ขนาดคนละ ๖๐๐-๑,๐๐๐ บาทตอนนี้ ยังต้องใช้งบปีละเป็นแสนล้าน

ถ้า “แจกถ้วนหน้า” คนละ ๓,๐๐๐ บาท/เดือน ไม่เลือก “คนรวย-คนจน” ก็ต้องใช้อย่างต่ำ “๑ ล้านล้านบาท” ต่อปี!!!

ประเทศไทย นับแต่จะมีคนสูงอายุเพิ่มมากขึ้นทุกปี ในขณะที่ ประชากรร่วม ๗๐ ล้านคน
มีผู้ยื่นแบบเสียภาษีรายได้บุคคลประจำปี ไม่ถึง ๕ ล้านคน!

ประเทศ “รัฐสวัสดิการ” เขาเสียภาษีกันอัตรา ๓๐-๕๐% เสียภาษีท้องถิ่นอีกราวๆ ๑๒%

แต่ของไทยเรา ภาษีอยู่ในอัตรา ๒๐% ส่วนภาษีท้องที่
ระดับ ๐.๕-๑%

ภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่เรียก VAT บ้านอื่น-เมืองอื่นเขา เก็บกว่า ๒๐% ขึ้นไป แต่ของเรา ๗% ตายตัวมาร่วม ๓๐ ปีแล้ว

ตามปกติจะต้องพิจารณาทุกๆ ๒ ปี แต่นักการเมืองใช้ VATเป็น “การเมือง” เรื่องประจบชาวบ้าน
ขยับทีไร โวยวายกันเหมือนโลกแตก!

ทั้งที่แต่เดิม-เริ่มแรก ปี ๒๕๓๕ VAT กำหนดอยู่ ๑๐% มาลดเหลือ ๗% ตอนต้มยำกุ้ง ปี ๒๕๔๐

ถึงวันนี้ หาเสียงจะให้ค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มระดับ ๖๐๐ บาท/วัน เงินเดือนปริญญาตรี ๒๕,๐๐๐ บาท
แต่ VAT ไทย ก็ยังคงตีตั๋วราคา “ต้มยำกุ้ง”

ในขณะที่เงินเดือน/สวัสดิการสส.เรียกร้องเพิ่มให้ตัวเองจากระดับหมื่น ขึ้นเป็นแสนๆ ต่อเดือน แถมมีเบี้ยบำนาญอีกนะ!

ทีนี้ เข้าใจกันหรือยังล่ะ?
ถ้าอยากได้ ๓,๐๐๐ บาท/เดือน “ถ้วนหน้า” ไม่ว่าคนมีอันจะกินหรือคนไม่มีกิน…ได้หมดทุกคน

นั่น รอ “รัฐบาลหน้า” และถามเขาด้วย จะเอาเงินที่ไหนมาเป็นล้านล้านบาทต่อปีมาแจกเป็น “บำนาญถ้วนหน้า” คนอายุ ๖๐ ปีขึ้นไปทุกคน?

ต้องตระหนักกันไว้ด้วย ว่าโครงสร้างประเทศ โครงสร้างการคลังของไทย ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้เป็น “รัฐสวัสดิการ”

ถ้าต้องการกันอย่างนั้น
พวกเรา-ประชาชนทุกคน ต้องตอบตัวเองอย่างน้อย ๓ ข้อก่อน

๑.พร้อมพัฒนาศักยภาพตัวเอง ทั้งการศึกษา ทั้งการฝึกทักษะฝีมืออาชีพ เพื่อเข้าสู่ตลาดงานกันหรือไม่?

๒.พร้อมเสียภาษีรายได้ให้ส่วนกลางและท้องถิ่น รวมแล้ว ประมาณ ๕๐% ของรายได้ต่อปีกันหรือไม่?

๓.พร้อมปรับทัศนคติ จากคนหนักไม่เอา-เบาไม่สู้ เกี่ยงงาน รอแต่เงินแจก เอะอะเรียกร้องเอาจากรัฐ
ชื่นชม-นิยมแต่ “การเมืองโจร”

หันมาเรียกร้องตัวเอง ให้ฝึกฝน อดทน มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่เรียกร้องเอาจากรัฐ แต่ตัวเองไม่จ่ายภาษีให้รัฐเลย

เท่าที่ผมดู นักการเมืองยุคนี้ นอกจากไม่คิดถึงด้านโครงสร้างประเทศแล้ว

กลับหยิบปัญหา “ความจน-ความชรา” ของคนในชาติ มาหล่อเลี้ยงไว้ เพื่อใช้เป็น “อุปกรณ์การเมือง” ผลาญชาติ ในทางโกงเอามาแบ่งกัน ใน ๓ ช่องทาง

๑.แก้รัฐธรรมนูญ เปิดช่อง “ล้มสถาบัน” สู่ทางนำประเทศเป็นทาสตะวันตก

๒.มอมเมาประชาชนด้วยหลอกล่อผ่านนโยบาย “ใช้เงิน” เพื่อการแจกจายตั้งแต่เกิดยันตายในรูป “รัฐสวัสดิการ”

โดยไม่คำนึงและไม่บอกว่า….
จะบริหารประเทศให้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนกับตัวเลขที่แจกชาวบ้านจะได้จากทางไหน และจะทำให้ประชาชนพร้อมเสียภาษีได้อย่างใด?

๓.มุ่งทำให้สังคมชาติง่อยเปลี้ย เป็นประชาชนใน “กะลาเลือกตั้ง” ของพรรค โดยหวังผล ทำชาติ-ประชาชนอ่อนแอได้มากเท่าไหร่

อำนาจ “ยึดชาติ” ผ่านกลไกสภาของเขา ก็จะเข้มแข็งยั่งยืนมากขึ้นเท่านั้น!

ก็ฝากให้ช่วยกันคิด บ้านเมืองเป็นของเราทุกคน แต่ทุกวันนี้ มีพรรคการเมืองพยายาม “แยกประชาชน” ว่าเป็นของเขา

การ “แยกประชาชน” นั่นคือ ขั้นตอนหนึ่งในการ “แยกแผ่นดิน” เราต้องรู้ให้ทัน “โจรรุ่นใหม่” ที่มีเป้าหมาย

นอกจากเซ็กซ์เสรีแล้ว…..
ยังพยายามสร้างแนวคิดให้ไทยเป็น “ประเทศเสรี” ที่กะหรี่-ขี้เหล้า-ขี้ยา เป็นเทรนด์ “เสรีนิยมใหม่”

ได้เงินเดือนสภาแล้วนำไปต่อยอด เปิดผับ-เปิดบาร์-เปิดร้านเหล้า ผิดกฎหมายข้อไหน กูจะเอาไปแก้ให้เป็นถูกในสภา
เอากะมันซี สู้กับเดนหน้าด้าน สู้ไม่ไหว เพราะผมไม่ด้านพอ!

อีก ๓-๔ วัน ก็จะโหวตนายกฯ กันแล้ว
เพื่อไทยยังยืน “เศรษฐา” ม้วนเดียวจบ ๓๗๕ เสียง ชัวร์

ตอนนี้ ได้ “รวมไทยสร้างชาติ” มาอีกพรรค เป็น ๓๑๔ เสียงแล้ว

ก็ดีครับ “ปรองดอง-สมานฉันท์” กันได้ ประเทศไทยเจริญ

ก็ภาวนา…
๒๒ สิงหา.ขอให้ “เอดอ๋า” ได้เป็นนายกฯ เทอญ!

เปลว สีเงิน
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
สนามบอล-สนามการเมือง-เปลว สีเงิน
เปลว สีเงิน นี่ก็ “๓๐ ธันวา.” อีกปี พลเอกประยุทธ์ ทั้งสถานะรัฏฐาธิปัตย์ ทั้งสถานะเลือกตั้ง แป๊บๆ…. เป็นนายกฯมา ขึ้นปีที่...
Read More
0 replies on “อย่ามองไกลจนไม่เห็นชาติ – เปลว สีเงิน”