11 สิงหาคม 2566 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญต่อการยกระดับและพัฒนาเศรษฐกิจระดับฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินงาน คือการดำเนินงานผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ
นางสาวรัชดาฯ กล่าวว่า กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เป็นแหล่งทุนสำคัญของชุมชนที่ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้ประชาชนฐานราก โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 เห็นชอบโครงการ “โคล้านครอบครัว” ได้อนุมัติวงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนกู้ยืมให้แก่สมาชิกกองทุนหมู่บ้านฯ จำนวน 100,000 ครัวเรือน ครัวเรือนละ 50,000 บาท สำหรับจัดซื้อโค 2 ตัว โดยผู้กู้ต้องส่งเงินคืนภายใน 4 ปี
ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ทำให้ผู้กู้ไม่ต้องชำระดอกเบี้ยตลอดระยะเวลา 4 ปี รัฐบาลตั้งเป้าหมายโครงการ “โคล้านครอบครั” ภายในระยะเวลา 6 – 8 ปี จะสามารถผลิตโคได้มูลค่า 1 แสนล้านบาท คิดเป็น 0.5% ของ GDP ประเทศไทย และหากสามารถขยายโครงการในระยะต่อไป ด้วยวงเงินกู้ 50,000 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 6 – 8 ปี จะสามารถผลิตโคได้ร่วม 1 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 4.97% ของ GDP ประเทศไทย
ทั้งนี้ จากสถิติพบว่าคนไทยมีความต้องการบริโภคเนื้อโคเพิ่มขึ้นทุกปี โดยคนไทยบริโภคเนื้อเฉลี่ย 2.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเพิ่มตลาดภายในประเทศ เช่นเดียวกับตลาดโลกที่มีการนำเข้าโคเนื้อถึง 9.9 ล้านตันต่อปี และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 4.5% ต่อปี โดยประเทศไทยมีส่วนแบ่งตลาดการส่งออกเนื้อเพียง 63,000 ตัน หรือคิดเป็นเพียง 0.63%
“รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มุ่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศให้เข้มแข็ง ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินโครงการผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติประสบความสำเร็จในหลาย ๆ โครงการ และสำหรับโครงการโคล้านครอบครัว
นายกรัฐมนตรีย้ำขอเพียงประชาชนมีความตั้งใจ จะช่วยให้มีอาชีพทำงานอยู่กับครอบครัว สร้างรายได้ ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งนี้ หากได้รับการสนับสนุนสานต่อโครงการฯ อย่างเต็มที่ในระยะต่อไป จะเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประชาชน ท่านนายกฯ หวังให้โครงการเติบโตเดินไปข้างหน้า ประสบความสำเร็จ ขยายกลุ่มประชาชนเข้าร่วมโครงการให้มากยิ่ง ๆ ขึ้นไป” นางสาวรัชดาฯ กล่าว
