สันดานไม่น่าคบ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ทำเป็นเล่นไป….

มีเสียงยุจากฝั่ง “ด้อมส้ม” ว่า ๘ พรรคต้องจับมือกันตั้งรัฐบาล จนกว่าวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลง

ก็โน้น…แหละครับ พฤษภาคมปีหน้า

ข้อเสนอแบบนี้เขาเรียกว่า ประเทศฉิบหายไม่เห็นไร ขอให้ฝั่งตัวเองได้เป็นรัฐบาล

ทำแบบนี้วายป่วงแน่นอนครับ

เหวง โตจิราการ ด้อมแดง แปลงร่างเป็นด้อมส้ม คิดเขียนผ่านสื่อโซเชียล…

“ผมยังยืนยันเช่นเดิมให้แปดพรรค ๓๑๒ เสียง ปชช.กว่า ๒๗ ล้านเสียง หลอมรวมให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน หากสว.ไม่ยกมือให้ ก็ยังเป็นทองแผ่นเดียวกัน จนถึง ๑๑ พค. ๖๗ สว.มลายหายไป แปดพรรคก็ตั้งรัฐบาลได้ ไม่ต้องห่วงเรื่อง เศรษฐกิจ พวกกบฎสร้างความพินาศมากกว่าเก้าปี ทนอีกเก้าเดือนกว่าปชช.ทนได้ครับ”

ไม่รู้ใช้อวัยวะส่วนไหนคิด

ไปอ่านรัฐธรรมนูญหรือยัง?

รัฐบาลรักษาการทำอะไรได้บ้าง และทำอะไรที่สำคัญๆ ต่อการบริหารประเทศไม่ได้กี่อย่าง

ขืนลากยาวจนถึง ๑๑ พฤษภาคม ปีหน้า การบริหารงบประมาณปี ๒๕๖๗ เกิดสุญญากาศขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ

โครงการใหม่ๆ ที่จ่อคิวอยู่ ไม่ได้เกิด

โยกย้ายข้าราชการก็ทำไม่ได้

ประเทศไม่พังหรือ “เหวง”

มีสมองต้องคิดด้วยสิครับ “เหวง” อย่าใช้แค่คั่นหู

ปากก็มีไว้พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่มีไว้เพื่อผายลม

ครับ…ต้องเดินหน้าตั้งรัฐบาลให้ได้

นักการเมืองมันมีตัวเลือกเท่าที่เห็นนั่นแหละครับ จะถามหาเกรดพรีเมี่ยมตอนนี้เป็นไปไม่ได้ เลือกมาแบบไหนก็ได้แบบนั้น เป็นความรับผิดชอบของทุกคน

มีการตั้งข้อรังเกียจว่า คนนี้ไปคุยกับคนนั้นไม่ได้ ต้องรักเดียวใจเดียว ๘ พรรคต้องอยู่ด้วยกันตลอดกาล ไปดูเถอะครับคนพูดแบบนี้ มีเมียน้อยเป็นเข่ง

การทำหน้าที่จัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย เกิดแรงกระเพื่อมอย่างรุนแรง โดยเฉพาะจากพรรคก้าวไกล และด้อมส้มน้อยใหญ่

เพราะทุกพรรคที่คุยส่งสัญญาณเหมือนกันหมด

เสียงเป็นเอกฉันท์ ไม่เอาก้าวไกล

เพื่อไทยเดินเกมนี้ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง

เมื่อ ๘ พรรคมีมติให้เพื่อไทยคุยกับพรรคการเมืองอื่น เพื่อของเสียงสนับสนุน เพื่อไทยก็คุยไปแล้ว ผลออกมา ภูมิใจไทย ชาติพัฒนากล้า รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา พลังประชารัฐ ไม่มีใครอยากได้ก้าวไกลร่วมรัฐบาล

เพื่อไทยไม่ต้องพูดเอง ปล่อยให้ ๕ พรรค มีส.ส. ๑๕๙ เสียง พูดแทน

ย้อนกลับไปในการแถลงข่าววันที่ ๒๑ กรกฎาคม ที่ผ่านมาสิครับ มติ ๘ พรรค ตั้งรัฐบาล ๓ แนวทางมีอะไรบ้าง

วันนั้น “ชลน่าน ศรีแก้ว” พูดไว้ชัด หากแนวทางที่ ๑ และ ๒ คือหากขอเสียงจาก สว. และส.ส. ได้ไม่เพียงพอ ต้องใช้แนวทางที่ ๓

“ชลน่าน” ระบุว่า แนวทางที่ ๓ อาจจะไม่มีพรรคใดพรรคหนึ่งใน ๘ พรรค อยู่ในสมการนี้

มันก็ตีความได้หลายความหมาย

หมายถึง ไม่มีก้าวไกล ก็ได้

หมายถึงเพื่อไทย ก็ได้เช่นกัน เพราะเพื่อไทยจะย้ายจากขั้ว ๘ พรรค ไปรวมกับ ๕ พรรคขั้วรัฐบาลเดิม กลายเป็นรัฐบาล ๓๐๐ เสียง

จะกลายเป็นรัฐบาลผสม

ผสมระหว่างระบอบทักษิณ กับ กปปส.

ถ้าใครพูดเรื่องนี้เมื่อสิบปีที่แล้ว จะถูกหาว่าบ้า

แต่วันนี้ มันกำลังจะเกิดขึ้น

ครับ…การเมืองมาถึงจุดเปลี่ยน

คู่ขัดแย้งทางการเมืองกำลังจะเปลี่ยนจาก แดง ชน เหลือง เป็น แดง-เหลือง เปิดศึกกับ ส้ม

แต่ประเด็นความขัดแย้งถูกขุดให้ลึกลงไปกว่าเดิม

จากการต่อต้านคอร์รัปชั่น มากลายเป็นความขัดแย้งเรื่อง แก้ ม.๑๑๒

จากการตรวจสอบกันเองของนักการเมือง

มากลายเป็นการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

และการที่ก้าวไกล หักไม่ยอมงอ ให้ความสำคัญกับการแก้ม.๑๑๒ ตอบสนองความต้องการของมวลชนฮาร์ดคอร์ มากกว่าการเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาเดือดร้อนให้กับประชาชนทั่วไป ก็สะท้อนให้เห็นว่าความขัดแย้งรอบใหม่ที่อาจรุนแรงกว่าเดิมจะมาถึงในไม่ช้าไม่นานนี้

ก็คงเป็นวันที่ก้าวไกลมีประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายกรัฐมนตรี อยู่ในมือ

วานนี้ (๒๓ กรกฎาคม) “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พูดมาประโยคหนึ่ง

“…ตอนนี้คุณค่าที่สำคัญคือสัจจะ ไม่ใช่เสียสละ สัจจะที่ให้สัญญากับประชาชนไว้ตามที่เขาคาดหวัง หากเรารักษาสัจจะที่ให้ไว้กับประชาชนก็จะไม่มีใครต้องเสียสละ เพราะเป็นไปตามกฎกติกาที่มีอยู่ มาตามครรลองของการเมืองปกติ

แต่ถ้าบอกให้เสียสละเหมือนเอาคะแนน ๑๔ ล้านเสียงไปเทกระจาด และทำให้ประชาชนผิดหวัง ถึงตอนนั้นต้องยึดสัจจะและหลักการณ์ให้มั่น มากกว่ามาบอกว่าให้ใครเสียสละ…”

ไม่แน่ใจว่าตอนหาเสียงเลือกตั้ง ๘ พรรคให้สัญญากับประชาชนเหมือนกันหรือเปล่า

แต่ “พิธา” เหมาเอาว่า ๘ พรรค ให้สัจจะกับประชาชนเหมือนกัน

คงเป็นประเด็นไม่เอาลุง

ในมุมกลับ “พิธา” ลองกลับคิดดูว่า ตอนหาเสียงมีพรรคการเมืองไหน กระเหี้ยนกระหือรือจะแก้ม.๑๑๒ บ้าง

มีพรรคเดียวครับคือ พรรคก้าวไกล

ขนาด ๘ พรรคทำเอ็มโอยูกัน ยังห้ามใส่การแก้ม.๑๑๒ ลงไปด้วย เพราะเป็นเรื่องของก้าวไกลเท่านั้น พรรคอื่นเขาไม่อยากเกี่ยวข้องด้วย

แค่นี้ยังไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกอีกหรือ?

นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ “พิธา” ไม่ได้เป็นนายกฯ

มาถึงวันนี้การจัดตั้งรัฐบาลยังคงอยู่ในกรอบระบอบประชาธิปไตย ทุกพรรคมีโอกาสรวมเสียงส.ส.ให้ฝ่ายตัวเองเป็นเสียงข้างมาก

ฝรั่งต้นตำรับก็เคยเจอสถานการณ์แบบนี้บ่อย เช่นแถบสแกนดิเนเวีย ที่พรรคอันดับ ๑ เป็นฝ่ายค้าน เพราะพรรคอันดับ ๒ และ ๓ รวมเสียงได้มากกว่า

สุดท้ายแล้วประเทศไทยต้องมีรัฐบาลครับ ก้าวไกลก็ยังอยู่ในเส้นทางของการเป็นรัฐบาล แม้จะน้อยนิดก็ตาม

เมื่อได้รัฐบาลแล้วประชาชนก็มีหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล

โกงซ้ำโกงซ้อน ต้องเอาให้เข็ด จับติดคุกให้หมด

นี่อะไร…ปลุกม็อบขวาง ห้ามคนอื่นเป็นรัฐบาล ด้วยการบอกว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นพวกสืบทอดอำนาจ

สันดานแบบนี้ ถึงไม่มีใครคบ

Written By
More from pp
คนนินทา-หมาเห่า?- สันต์ สะตอแมน
สันต์ สะตอแมน ดีใจด้วยนะลิซ่า! คงยังไม่สายไปชิมิ ที่จะพูดคำนี้กับ “ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล” หรือ “ลิซ่า BlackPink” ที่ได้รับการยกย่อง-บันทึกให้เป็นศิลปินหญิงประวัติศาสตร์คนแรกของวงการ เค-ป็อป..
Read More
0 replies on “สันดานไม่น่าคบ-ผักกาดหอม”