“ชูวิทย์” แนะ “พิธา” ยอมถอย เรื่อง ม.112 ดีกว่า เพราะเป็นการสร้างความแตกแยก และเป็นเงื่อนไขให้ไม่ได้เป็นนายกฯ

14 กรกฎาคม 2566 – นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ โพสต์เฟซบุ๊ก ข้อความว่า

ถอยดีกว่า
.
วันนี้การโหวตเลือกนายกฯ ได้เห็นแล้วว่าไม่ผิดจากที่ผมพูดไว้
.
แผนสกัดพิธา “มีก้าวไกล ไม่มี ส.ว.”
.
ไม่มีอะไรแปลกใจ แม้ว่าพิธายังยืนยันหลังผลการโหวตแพ้ว่าการต่อสู้ยังไม่จบ “ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้”
.
โหวตครั้งที่ 2 หากมีโอกาส ผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิม
.
ก้าวไกลจึงต้องถึงทางเลือกว่า “ยอมถอย เรื่อง ม.112 ดีกว่า” เพราะเป็นการสร้างความแตกแยก และเป็นเงื่อนไขให้พิธาไม่ได้เป็นนายกฯ
.
การขึ้นเป็นรัฐบาล ไม่จำเป็นที่ต้องยึดเรื่องปฏิรูปสถาบันเป็นหลัก มีเรื่องสารพันให้ทำอีกมากมาย
.
ผมมั่นใจว่าใน 14 ล้านเสียง ไม่ได้ต้องการเรื่องปฏิรูปสถาบันมาเป็นเรื่องแรกๆ เสียด้วยซ้ำ
.
ก้าวไกลได้คะแนนเสียงจาก “มีลุง ไม่มีเรา” ปฏิรูปกองทัพ ยุบ กอ.รมน. กฎอัยการศึก ล้มเผด็จการ รวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่ทำให้ประเทศไทยติดหล่มมาถึง 9 ปี
.
นี่ต่างหากที่ก้าวไกลต้องปฏิรูป
.
วันนี้ยังมีโอกาสที่ก้าวไกลจะถอย หากไม่ดื้อ และยึดติดกับคะแนนเสียงมวลชนบางส่วน
.
ทุกอย่างมีขึ้นและมีลง คะแนนเสียงไม่ได้อยู่กับก้าวไกลตลอดไป
.
มันไม่ใช่ “การถ่มน้ำลายรดฟ้า” แต่เป็นการถูกผลักไปเป็นฝ่ายค้าน ทั้งที่มีโอกาสเป็นรัฐบาล
.
ทำงานเพื่อประชาชนไม่ใช่แค่ 14 ล้านเสียง แต่ต้องทำให้คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเลือกก้าวไกลหรือไม่ต่างหาก
.
บทพิสูจน์ของก้าวไกลก่อนจะสายเกินไป เรียนรู้การลำดับว่าอะไรที่สำคัญกับชาติบ้านเมืองก่อน
.
ไม่มีใครทำได้ทุกอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยังไม่ถึงเวลาต้องทำ
.
ม.112 ไม่ใช่เรื่องเดียวที่ก้าวไกลสัญญาไว้กับประชาชน
.
ประเทศไทยยังมีอีกสารพัดเรื่องให้ทำหากเป็นรัฐบาล ผมรับประกัน
.
ม.112 เรื่องเดียวจะทำให้พิธาไม่ได้ทำเรื่องใหญ่เรื่องอื่นเลย
.
พิธาย้ำเสมอว่า “เป็นผู้นำต้องมีสติ ไม่มุทะลุ รู้จักว่าเวลาไหนควรรุก เวลาไหนควรถอย”
.
การดึงดันแก้ไข ม.112 แม้รู้ว่าปลายทางไม่มีทางผ่าน นอกจากตอบสนองความต้องการของมวลชนกลุ่มหนึ่ง
.
แล้วจะดันทุรังทำไปทำไม ทั้งที่สามารถบอกประชาชนได้ว่า
.
“ก้าวไกลเป็นรัฐบาลผสม ไม่ใช่รัฐบาลพรรคเดียว ไม่มีพรรคร่วมใดเห็นด้วยกับการแก้ไข ม.112 เลยแม้แต่พรรคเดียว”
.
หากต้องการเอา ม.112 มาเป็นเรื่องหลัก ขอให้ครั้งหน้าประชาชนเลือกพรรคก้าวไกลเกินครึ่งไปเลย
.
ผมพูดจากประสบการณ์การเมือง และหาทางประนีประนอมเพื่อให้ก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล
.
ไม่ใช่เอาแต่ใจตัวเอง หรือฐานมวลชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
.
ข้อแนะนำของผม คือ
.
ยอมถอยดีกว่า
.
หากก้าวไกลแสดงให้เห็นว่ายอมถอย ม.112 แล้ว อำนาจเก่ายังไม่ถอย ก็ถึงคราวต้องรุกกลับ

Written By
More from pp
5 ประโยชน์ของ CCTV ในการรักษาความปลอดภัย ร่วมกับความเร็วและเสถียรของเน็ตบ้าน True Gigatex Fiber
ในยุคปัจจุบันเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเนื้อหาที่เราได้รับมาในชีวิตประจำวันก็เพิ่มมากขึ้น สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วการที่ต้องดูแลและควบคุมทุกอย่างในบ้านทำให้ชีวิตซับซ้อนขึ้นไปอีก
Read More
0 replies on ““ชูวิทย์” แนะ “พิธา” ยอมถอย เรื่อง ม.112 ดีกว่า เพราะเป็นการสร้างความแตกแยก และเป็นเงื่อนไขให้ไม่ได้เป็นนายกฯ”