คลิกฟังบทความ…⬇️
เปลว สีเงิน
“เอลนีโญ” นี่…..
ไม่ทำวิปริตแค่ดินฟ้าอากาศ
การเมืองและผู้คนก็พลอยวิปริตถึงขั้น “อาเพศ” ไปด้วย!
อย่างเมื่อวาน (๙ กค.๖๖) แค่ “ระดับพรรค”
“ประชาธิปัตย์” ที่ได้ชื่อว่า “แม่ครัวหัวป่าก์ประชาธิปไตย”
เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่กัน ปรากฏว่า “เละเป็นโจ๊ก”
ต้องเลื่อนไปเลือก รอบ ๒ รอบ ๓!
แล้ว ๑๓ กค.ประชุมระดับรัฐสภา “เลือกตัวนายกฯ” จากพรรคที่มีนโยบาย “คิดคด-กบฎชาติ”
นั่นจะไม่ถึงขั้น “ซูเปอรโจ๊ก” รึนั่น?!
ก็แปลกดี… ปกติในการเลือก จะจ้องจับกันประเด็นว่า ใครจะได้เสียงโหวตจากที่ประชุมถึง ๓๗๖ ขึ้นเป็นนายกฯ?
แต่คราวนี้ “นรกแท้” หรือ “สวรรค์ทิพย์” ก็ไม่แน่ใจ
ส่งตูด “พิธา-ก้าวไกล” ขึ้นบันไดนายกฯ ดูท่า “ไร้คู่แข่ง”
เมื่อไร้คู่แข่ง ก็ไม่มีเรื่องต้อง “ต่อความยาว-สาวความยืด” อะไรกันอีก
แต่นี่ ไม่งั้น….
มันเหมือน “อาเพศ-อาถรรพณ์” เพราะทั้งบ้าน-ทั้งเมือง กลับมองข้ามหัวพิธา ไปต่อรองกันว่า
โหวตเลือกนายกฯคราวนี้ “จะกี่รอบ”?
คือเขาวางตำแหน่ง “พิธา” ว่ามีแต่โฆษณา-ราคาคุย
แต่คุณภาพโหลยโท่ย “ฟิตนอก-หลวมใน” สตาร์ทให้ตาย เครื่องก็ไม่ติด!
ชั่วโมงนี้ พูดกันตรงๆ ไม่มีใคร “ปากหวาน” เท่าคนพรรคเพื่อไทย
ในตัวมีกี่หัว ถอดให้พิธาคนเดียวเป็นนายกฯ!
เหลือไว้ “หัวเดียว”
คือ หัว ของหัวหน้าครอบครัวใหญ่เพื่อไทย เผื่อพิธา “หัวขาด” จะได้มี “หัวอะไหล่” เทินขึ้นแท่น-แทนพิธา!
๒ พรรคนี่ เอตะทัคคะไปคนละแบบ
ก้าวไกล เอตะทัคคะทาง “สร้างวาทกรรม” ประดิษฐ์ประเด็นให้คนประเภท “จอกแหนการเมือง” ไหลตาม
แรกๆ บอก ๑๔ ล้านเสียง คือเสียงส่วนใหญ่ เป็นฉันทมติให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล
ก็มีเสียงสวนออกมาว่า…ฮ่วย อีกร่วม ๔๐ ล้านที่ไม่เลือกก้าวไกลตะหากคือเสียงส่วนใหญ่
ตรรกะควายอะไรของมึงวะ ทึกทัก ๑๔ ล้านเป็นฉันทมติ?
โจทย์นี้ตกไป ก้าวไกล ก็พลิกแพลงวาทกรรมใหม่
ประชาชนกว่า ๗๕% ต้องการให้ ๘ พรรคที่มีก้าวไกลเป็นแกนเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ให้พิธาเป็นนายกฯ
โธ่…ไอ้เหียกเอ้ย…..
ไถลไปอีกจนได้ เลือกตั้งน่ะ เขาเลือกสส.
เลือกพรรค ก็จริง ที่ว่าเขาต้องการให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้นๆ เป็นนายกฯ
แล้วจำนวนสส.๓๑๒ คน มันก้าวไกลพรรคเดียว หรือขยุ้มจาก ๘ พรรคมามัดรวม แล้วทึกทักเป็น ๗๕% ของประชาชนที่ต้องการให้พิธาเป็นนายกฯ นั่นน่ะ
มันใช่มั้ย (มึง) อย่ามั่ว!
ก้าวไกลก็แค่ ๑๕๑ สส. ในจำนวนเต็ม ๕๐๐ มัน ๗๕% ได้ไง?
ถ้าเพื่อไทยที่มี ๑๔๑ สส.เขาคุยมั่ง ว่าประชาชนเลือกเขาตั้ง ๖๐-๗๐% เป็นฉันทมติให้เขาตั้งรัฐบาล
ให้อุ๊งอิ๊ง, เศรษฐา, ชัยเกษม คนใด-คนหนึ่ง เป็นนายกฯ บ้างล่ะ แล้วก้าวไกลจะเอาตัวเลขไหนไปเบรกเขา?
๘ พรรคนั่นน่ะ….
มีเนื้อหนังก็แค่ก้าวไกลกับเพื่อไทยเท่านั้น ถ้าเพื่อไทยถอนไปพรรคเดียว ๗ พรรคที่เหลือรวมกัน มันก็แห้งตาย!
อย่าเข้าใจผิดนะว่า “เพื่อไทยพึ่งบารมีก้าวไกล”
ก้าวไกลนั่นแหละ
แค่เพื่อไทย “สลัดแข้ง” ๑๕๑ เสียงก็แเอ้งเแม้ง ศิริกัญญา ก็จะโศกา ไม่หน้าเป็นเหมือนตอนสาบานตนในสภาวันนั้นหรอก
เพราะเพื่อไทย เขาเอตะทัคคะทาง “รัตตัญญู-รู้งานตามกาลเวลา”
แค่แง่งๆ หน้ากล้องออกโทรทัศน์ตอนอภิปรายในสภาเท่านั้น พอ “นอกจอ-นอกสภา” เขาก็เฮฮาเป็นเพื่อนกับทุกพรรค
ก้าวไกลดูนะ ของคุณ ๘ พรรค ได้พวกแค่ ๓๑๒ คน
แล้วคอยดู ถึงคิวเพื่อไทยตั้งรัฐบาล แค่ ๓-๔ พรรค เขาก็สามารถรวมพวกได้เกินครึ่ง ตั้งรัฐบาลสบาย โดยไม่ต้องใช้เสียงก้าวไกลเลย
สมมติ เพื่อไทย ๑๔๑ + ภูมิใจไทย ๗๑ + พลังประชารัฐ ๔๐ + ชาติไทยพัฒนา ๑๐ แค่นี้ก็ได้ ๒๖๒ เสียง “เกินครึ่ง” แล้ว
ถ้าเอา ๖ พรรค รวม ๒๐ เสียง จาก ๘ พรรคเดิมมาร่วมด้วย ก็ตั้ง ๒๘๒ เสียง ตั้งรัฐบาลฉลุย แถม “ลดเสียว” ประเด็นสว.ไปตั้งครึ่งค่อน
ก้าวไกล ก็ให้ไปกระชับพื้นที่กับรวมไทยสร้างชาติในซีกฝ่ายค้าน ช่วยกันตรวจสอบรัฐบาลเพื่อไทย สนุกจะตายไป
เห็นมั้ย…ไอ้คำพูดที่ว่า ประชาชน ๗๕% ต้องการให้ก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก็ตอแหลทั้งเพ!
ตอนนี้ ไปเค้นคอ-ขยำเป้าสว.ว่าต้องโหวตให้พิธาเป็นนายกฯ นะ ไม่งั้นละมึง…ฮึ่มๆแฮ่ๆๆ
ก่อนๆ ด่าสว.เป็นหมู-เป็นหมา จะปิดสวิตช์เขา ตอนนี้ ทั้งขู่-ทั้งเค้น ให้เขาโหวตให้
อยากจะปิดปากฟันหลอ หัวร่อฮิๆๆๆๆยิ่งนัก!
จะไปเค้นคอ-เค้นไข่อะไรเขา ในเมื่อบอกสว.เป็นเนื้องอกในมดลูกประชาธิปไตย ก็ไม่ต้องไปง้อเขาให้เสียราศี
รัฐธรรมนูญบอก คนเป็นนายกฯ ต้องได้เสียงโหวตมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภา “เท่าที่มีอยู่”
นั่นคือ รัฐสภาประกอบด้วย สส.๕๐๐ สว.๒๕๐ รวม ๗๕๐ คน กึ่งหนึ่ง คือ ๓๗๕ มากกว่ากึ่งหนึ่ง คือต้อง ๓๗๖ เสียงขึ้นไป
เอ้า…ดูให้ดีนะ สส.มีตั้ง ๕๐๐ พิธาได้ไปแล้ว ๓๑๒ เสียง
นั่นคือ ยังมีสส.อีกตั้ง ๑๘๘ เสียง
ในความเป็นสส.ด้วยกัน “พิธา-ก้าวไกล” ไหนว่าเสน่ห์แรง? แต่ทำไมจึงไม่มีพวก ไม่มีเพื่อน ไม่มีพรรคไหน-ใครคบ ที่จะกราบตีน-กราบหว่างขาเขา ขออีกซัก ๖๔ เสียงได้เลยล่ะ?
เพราะอะไร เพราะคนอื่น-พรรคอื่นเลวหมด
มีแต่พรรคกู-ก้าวไกล ที่จะแยกแผ่นดิน ล้มสถาบันกษัติย์ พรรคเดียวนี่แหละ ดีที่สุด อย่างนั้นใช่มั้ย?
ก็ลองสำรวจตัวเองดู……
ขนาดสส.ที่คลอดจากหีบใบเดียวกันยังไม่คบ แล้วจะไปแค่นแคะ-เค้นคอสว.ว่าต้องโหวตให้
เอาส่วนใหญ่ของอวัยวะ ๓๒ คิด บอกกูทีติ๊?
ทั้งที่อยากได้เสียงโหวตจากเขา แต่กลับด่าเขา หยามเหยียดเขาสารพัด
“รัฐธรรมนูญมันไม่เป็นประชาธิปไตย เผด็จการมันใช้สมุนเขียนล็อกไว้ เอาสว.ลากตั้ง มาโหวตเลือกสส.เลือกตั้ง หวังสืบต่ออำนาจชัดๆ”
โน่น…พูดไปโน่น คนไม่รู้ก็เออออตาม!
ไม่มีมาตราไหน วรรคไหนบอกเลยว่า ในจำนวนมากกว่า กึ่งหนึ่งนั้น ต้องเป็นเสียงจากสว.ด้วย
ฉะนั้น แน่จริงในคำว่า “ฉันทมติ” จะต้องไปวอแวอะไรกับสว.เขา ในเมื่อพูดเองมิใช่หรือว่า “สว.” คือสวะส่วนเกิน!?
สส.กันเอง มีตั้ง ๕๐๐….
ถ้าเป็นฉันทมติต้องการให้ “พิธา-ก้าวไกล” เป็นนายกฯ เขาก็เลือกก้าวไกล ๓๐๐-๔๐๐ สส.เหมือนทักษิณสมัยที่ ๒ โน่นไปแล้ว
ไม่ต้องไปง้อสว.ให้เมื่อยตุ้ม!
นี่ได้แค่ ๑๕๑ สส.ทำสะแอ๋งอวดอ้างเป็นฉันทมติ ไอ้พวกนักวิชาการ “ลิ้นตวัดถึงจมูก” ก็เอากันใหญ่
แล้วนี่…ถ้าเพื่อไทย เขารำคาญ แยกไปรวมเสียงได้ ๓๐๐ แล้วอ้างเป็นฉันทมติมั่ง ก้าวไกล-นักวิชาการสวะ จะว่าไง?
ก้อเข้าใจให้ชัดนะ คนอยากให้พิธาเป็นนายกฯ ผ่านสส.แค่ ๑๕๑ จากจำนวน ๕๐๐ จึงไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่
ที่ไปจับขั้วได้ ๓๑๒ เสียง นั่นแค่พวกคุณเอาปริมาณสส.แต่ละพรรคไปรวมกันซึ่งเป็นความ “อยากเป็น” ของแต่ละพรรค
ไม่ใช่ “ความต้องการ” หรือ “เจตนารมณ์” ของประชาชน
ฉะนั้น อย่าทะลึ่งทำให้คำว่า “ฉันทมติ” กลายเป็น “ความหมายวิบัติ” เข้าใจมั้ย!
ตอนนี้ เริ่มสร้างตรรกะใหม่
กรณีสว.ร่วมโหวตนายกฯ มันว่าเป็นประชาธิปไตยวิบัติ เผด็จการเขียนหวังสืบต่ออำนาจ
ถึงตอนโหวตวันที่ ๑๓ กค. พิธา-ในสภาพ “จับผีลุก-ปลุกผีนั่ง” พวกก้าวไกลรู้กะใจดีว่า…ยังไงๆ พ่อพระเอกลิเกก็ไม่ผ่านแน่
“หลวงประดิษฐ์วาทกรรม” ไม่รู้ญาติข้างไหนของ “หลวงประดิษฐมนูธรรม” สร้างปรัชญาประชาธิปไตยกะล่อนทันที
“โหวตใหม่กี่ครั้งก็ได้ เพราะรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ โหวตไปจนถึงพฤษภา.๖๗ สว.หมดวาระ ใช้แต่สส.โหวตกันเองก็ได้”
เห็นมั้ย….
นี่ถ้าเป็นพลเอกประยุทธ์หรือใครในซีกรัฐบาลเดิม ไม่ใช่ก้าวไกล ถ้าบอกไม่ผ่าน ก็โหวตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะผ่าน
พวกผีห่า-อวตารส้มทั้งหลาย มันต้องลงทั้งถนน ทั้งปั่นแฮชแท็ก ปั่นเฟซ ปั่นทวีต ปั่นติ๊กต๊อก
ถล่มแหลก รัฐธรรมนูญเฮงซวย เผด็จการล็อกไว้หวังสืบต่ออำนาจ!
แต่ตอนนี้ แทบจะขอปิดทองหว่างขาเผด็จการ เขียนรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยเปิดกว้างดีเหลือเกิน
“ตัวเดียว-อันเดียว” สลักชื่อ “พิธา-ก้าวไกล” ให้เสนอโหวตได้ชนิดอินฟินิตี้ เพราะนี่คือ “ประชาธิปไตยเต็มใบ”!
ปวดฟันก็หนักหนา….
ยังมาจะมาปวดกบาลกะเรื่องหมาไม่แดกพรรค์นี้อีก
คลุมโปงนอนดีก่า!
เปลว สีเงิน
๑๐ กรกฏาคม ๒๕๖๖
