“นริศ” แจงโครงการสวนป่า “เบญจกิติ” จะเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญระดับนานาชาติในอนาคต ที่รัฐบาลชุดนี้ให้การสนับสนุนมาตลอด

เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่าในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 28 / 2566 โดยมีวาระที่สำคัญ คือ การรับทราบผลการดำเนินโครงการจัดสร้างสวนป่า สวนสาธารณะ เบญจกิตติ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถอพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559

ซึ่งสวนสาธารณะดังกล่าว คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2539 ให้จัดสร้างโดยพัฒนาพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม เนื้อที่ประมาณ 430 ไร่ (ย้ายโรงงานยาสูบไปอยู่ในภูมิภาค) และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชทาน ชื่อสวนสาธารณะดังกล่าวว่า ”เบญจกิติ” และกระทรวงการคลังได้ใช้เงินจากรายได้แผ่นดินที่โรงงานยาสูบต้องนำส่งคลังเพื่อเป็นค่าก่อสร้างสวนสาธารณดังกล่าว

โดยสวนทางสาธารณะดังกล่าวได้แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ 1 การจัดสร้างสวนน้ำ (แล้วเสร็จแล้ว) และส่วนที่ 2 การจัดสร้างสวนป่า โดยในส่วนของสวนป่า แบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะคือ ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ ระยะที่ 2 เนื้อที่ 131 ไร่และระยะที่ 3 เนื้อที่ 128 ไร่รวมเนื้อที่ 320 ไร่ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมดแล้วและได้มอบให้กรุงเทพมหานครเป็นผู้ดูแลพื้นที่สวนป่าดังกล่าว รวมทั้งอาคารราชพัสดุจำนวน 4 หลังประกอบด้วย อาคารพิพิธภัณฑ์ อาคารกีฬา

นายนริศกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากเพื่อเฉลิมพระเกียรติฯสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงแล้ว ยังเป็นที่ออกกำลังกาย ที่เรียนรู้ด้านทรัพยากรธรรมชาติ และเชื่อว่าเมื่อเวลาผ่านไปสักระยะหนึ่ง ธรรมชาติจะปรับตัวทำให้เกิดความหลากหลายทางชีวภาพขึ้น และเชื่อว่าในอนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นสวนสาธารณะที่มีความสำคัญระดับมรดกโลกแบบเดียวกับสวนพฤษศาสตร์ ในประเทศสิงคโปร์

Written By
More from pp
ก้าวไกลเสียอะไรไปแล้วบ้าง – ผักกาดหอม
ผักกาดหอม ก็ตามนั้นแหละครับ… กลัดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดถัดไปมันจะถูกได้อย่างไรกัน เป็นไปตามที่คาดครับว่า กรณี “รองอ๋อง หมู่กระทะ” มันจะลุกลาม แยกย่อยไปอีกหลายประเด็น สุดท้ายพรรคก้าวไกลเอาไม่อยู่
Read More
0 replies on ““นริศ” แจงโครงการสวนป่า “เบญจกิติ” จะเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญระดับนานาชาติในอนาคต ที่รัฐบาลชุดนี้ให้การสนับสนุนมาตลอด”