คลิกฟังบทความ…?
เปลว สีเงิน
“รังสิมันต์ โรม”
ก็รู้หรอก…..
คุณมันลูกครึ่งอเมริกัน ไทยในตัวคุณ “แค่ครึ่ง”
ในเมื่อคุณไม่เคารพใน “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัติย์” ที่เป็นแกนหลักของความเป็น “ชาติไทย”
คุณน่าจะถือสัญชาติอเมริกันนะ แล้วไปอยู่กับพ่อคุณที่สหรัฐฯโน่น
บอกตรงๆ
พฤติกรรมคุณที่ทำกับสถาบันชาติ มันน่ารังเกียจและบัดซบมาก
คนไทย ทั้ง “ไทยแท้-ไทยผสม” ส่วนใหญ่ นอกจากไม่ปลื้มแล้ว ยังรังเกียจ-ขยะแขยง คนอย่างคุณด้วยซ้ำ!
“ข้าวและน้ำ” บนแผ่นดินไทย ไม่มียาง
หรือ คนอย่างคุณ “ไม่มียาง” ผมก็ไม่แน่ใจ?
คุณมันก็แค่ หมากตัวหนึ่งในกระดานของปิยบุตรหลอกใช้ล้มเจ้า ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาโน่นแล้ว
ปิยบุตรชื่นชมนัก บอกเพื่อนรักเขาคือธนาธร ส่วนน้องรัก คือ รังสิมันต์ โรม
แต่รังสิมันต์ ต้องสำนึกนะว่า จุดจบพรรค “ฌากอแบ็ง” ที่ล้มล้างสถาบันกษัตริย์ ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “พรรคก้าวไกล” นั้น
จุดจบเป็นยังไง?
ทั้งมักซีมีเลียง รอแบ็สปีแยร์, หลุยส์ อ็องตวน เดอ แซ็ง-ฌุสต์, กามีย์ เดมูแล็ง, ฌอร์ฌ ด็องตง เรียกว่าทั้งแก๊ง ๒๐ กว่าคน จบแบบไหน-อย่างไร?
ทั้งธนาธร,ปิยบุตร,พิธา,พรรณิการ์ รวมทั้งรังสิมันต์ โรม เอง ควรรีบศึกษาทบทวนไว้นะ
“สภากงว็องซียง” ไม่ได้แปลว่า “สัปปายสภาสถาน” ก็จริง
แต่”สัปปายสภาสถาน”
ทำให้พวกคิดคดกบฎชาติเป็น “เผด็จการทรราชย์” ถูกจับแขวนคออย่างที่ “ฌากอแบง” ถูกมาแล้วทั้งพรรคก็ได้นะ
รอยโคย่อมทับรอยเกวียน ฉันใด
เส้นทางชีวิตพวกอสัตย์ชาติ ก็ฉันนั้น
ก็ดูพวกที่อ้างเป็นคนรุ่นใหม่นำชาติซี การนำของเขา เอาอะไรมานำ?
โน่น…
กลับหลังหัน ไปปลุกผีอสัตย์ชาติ “๒๔ มิถุนา ๗๕”
นำแนวทาง “คณะราษฎร” ที่อ้างประชาชนไปปล้นอำนาจพระมหากษัตริย์มาแย่งกัน เป็นสารตั้งต้นไปสู่ “ศตวรรษหน้า”
แล้วจุดจบอสัตย์ชาติเป็นไง?
มีกระดูกใครได้ฝังอยู่ในแผ่นดินไทยซักคนมั้ยล่ะ?
นั่น คือสิ่งที่อยากให้พวกคุณตระหนัก
แต่บทบาทที่รังสิมันต์และพวกคุณแสดงออกต่อสังคมชาติ ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันขณะ
“เลวต่อชาติ, เลวต่อศาสนา, เลวต่อพระมหากษัตริย์” รู้มั้ย? แม้ขณะนี้เป็นสส.นอกจากเลวไม่ลดดีกรีแล้ว
ยังเหิมเกริมหนักข้อ เมื่อ “ก้าวไกล” ทำท่าจะได้เป็นรัฐบาล!
จะบอกให้นะ สส.ลูกครึ่งฝรั่ง
อย่าเที่ยวยกอ้าง ๑๔ ล้านเสียง แค่กระจุกหนึ่ง เป็น “ฉันทมติ” ว่ายกประเทศให้พวกกูแล้ว พวกกู-ก้าวไกลจะทำยังไงก็ได้
จะแยกแผ่นดินก็ได้, จะยกให้ฝรั่งพวกพ่อกูเข้ามาครองก็ได้, จะใช้ระบบ-ระบอบอะไรปกครองก็ได้
และที่นึกว่า เข้าสภาแล้ว ๑๕๑ เสียง “ครองประเทศได้”
แบบนั้นน่ะ……
เพื่อเห็นแก่ลูกในท้องภรรยาคุณ สส.รังสิมันต์ ใช้สติปัญญาฝรั่งครึ่ง-ไทยครึ่ง ใคร่คิดคิดทบทวนใหม่ได้
ยังไม่สายเกินจะปรับตัว-ปรับทัศนคติ!
คุณพูดได้ไง หรือคุณคิดว่า การได้เป็นรัฐบาลของก้าวไกล คือการได้เป็น “เจ้าของประเทศ” เบ็ดเสร็จ?
อย่างไปพูดที่งานอภิปราย “๙๑ ปี ประชาธิปไตยไทย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรัฐธรรมนูญ” ที่ธรรมศาสตร์ เมื่อ ๒๔ มิถุนา.ที่ผ่านมา
คุณพูดว่า……….
“ทุกครั้งที่เรามาเฉลิมฉลอง เราต้องการเปลี่ยนการเฉลิมฉลองให้เป็นวันที่จดจำ ให้เป็นวันที่สำคัญ
และเห็นคุณค่าจากการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย
แต่น่าเสียดายที่การเฉลิมฉลองดังกล่าว
ถูกบ่อนเซาะทำลายลงไปในหลายๆ ครั้ง ถึงแม้อาจจะมีการรื้อฟื้นเป็นครั้งคราว
แต่ก็ยังห่างไกลต่อการสร้างความจดจำ ที่จะทำให้เป็นวันที่มีความสำคัญและเป็น “วันชาติ” จริงๆ
ได้เห็นแล้วว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมันยากจริงๆ การต่อสู้ที่ยากแบบนี้ จะทำให้เรานึกอยู่ในหัวใจว่า ประชาธิปไตยมีความหมายสำหรับพวกเรามากขนาดไหน และคือความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการปกครอง คือ ๙๑ ปีที่เรายังไม่ถึงฝั่งฝัน
แต่มันทำให้เรารู้ว่าประชาธิปไตยนั้น มีความหมายต่อสิทธิในการพูด และการแสดงออกของตัวเรา ในฐานะที่เป็นผู้ทรงอำนาจสูงสุด
หวังว่า “๒๔ มิถุนายน” ของทุกปี หลังจากนี้ไป
จะเป็น “วันชาติ” ที่เราเฉลิมฉลอง
และเราจะสัญญาว่า เราจะไม่กลับถอยหลังไปสู่ยุคเผด็จการ ยุคที่ประชาชนไม่เป็นผู้ที่มีสูงสุดผู้อำนาจสูงสุดอีกต่อไป
…….ฯลฯ……..
รอบนี้ฟ้าใหม่ ประธานสภาคงไม่ใช่คนเดิม รวมถึงนายกฯ คนใหม่ ที่ผมเชื่อมั่นว่าจะ “ชื่อพิธา ลิ้มเจริญรัตน์”
“เราจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและเฉลิมฉลอง “วันที่ ๒๔ มิถุนายน” ในฐานะ “วันชาติ” ร่วมกัน”
……………………….
นี่คุณ เหิมเกริม บังอาจ ถึงขั้นจะเอาวันที่คนกลุ่มหนึ่งรวมหัวกับทหารบกฎกลุ่มหนึ่ง อ้างคำว่า “ราษฎร” บังหน้า เข้าปล้นอำนาจพระมหากษัตริย์
“ยึดวัง ยึดราชทรัพย์” ไปแบ่ง-แย่งกัน จับพระบรมวงศานุวงศ์ไปคุมขัง ตั้งศาล แล้วฟ้องร้องพระมหากษัตริย์เป็นจำเลยต่อศาล
แล้วสถาปนาระบอบประชาธิปไตย อ้างว่า เป็นระบอบเพื่อประชาชน ของประชาชน โดยประชาชน
แล้วนายรังสิมันต์ จะเอาวันนี้ ที่โจรปล้นพระมหากษัตริย์
เป็น “วันชาติ” แทนวันที่ ๕ ธันวาคม!?
นายรังสิมันต์ แน่นะ…ว่าคุณกล้าและบังอาจเช่นนี้?
นายรังสิมันต์ตอบซิ ๙๑ ปี ที่ผ่านไป……..
มีประชาชนคนไหนได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินมั้ย มีอะไรเป็นของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนมั้ย?
เห็นมีแต่สส.ในสังคม “คนตาบอดไม่กลัวเสือ” ผูกขาดความเป็นใหญ่ในแผjนดินตลอดมา
พอหลอกชาวบ้านผ่านประตูเข้าไปได้ มันก็แย่ง-แบ่งตำแหน่ง-แบ่งอำนาจ เข้าไปโกงบ้าน-กินเมือง แบ่งกัน
เปิดบัญชีทรัพย์สินนักการเมืองแต่ละคน รวยเป็นร้อยล้าน-พันล้าน เงินเดือนเท่าไหร่ ถึงรวยขนาดนั้น?
ในขณะที่ชาวบ้าน ๙๑ ปี ตั้งแต่ต้นโคตร นับจาก ๒๔ มิถุนา.๗๕ ทำนาไร่-ทำนา หาเช้า-กินค่ำ รุ่นสู่รุ่น
ถึงวันนี้ ๒๗ มิถุนา.๖๖
ชาวบ้านก็ยังหน้าง้ำ จนจ่อ “หาเช้า-กินค่ำ” เหมือนเดิม!
ตกลง ระหว่าง “นักการเมืองชาติชั่ว” กับ “ประชาชนสุจริต” ฝ่ายไหนล่ะ ที่เป็นใหญ่ในแผ่นดิน?
ก้าวไกล วางตำแหน่งเป็น “คนรุ่นใหม่” ที่จะนำชาติไปสู่ศตวรรษใหม่ หยามคนรุ่นเก่า ตกยุค-คร่ำครึ ทำประเทศล้าหลัง
แต่บนเวทีสัมนาที่ธรรมศาสตร์ ปลุกระดมล้มชาติ มีแต่ไอ้นักวิชาการล้านปี เช่นไอ้ศาสตราจารย์เฒ่าแอบจิต เป็นต้น
รุ่นใหม่เห็นมีอยู่คน “เพนกวิน” ขึ้นไปนั่งหน้าเหลือ ๒ นิ้วในฐานะผู้เสวนา
ในขณะที่รุ่นใหม่ปลุกผีคณะราษฎร ๒๔๗๕ เมื่อ ๙๑ ปีที่พาสังคมล้มเหลวขึ้นมาเป็นอนาคต
แล้วดูคนรุ่นเก่าบ้างซิ…….
วานซืน “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลง
“Sustainable Development Report” ของยูเอ็น
การรายงานประเมินความก้าวหน้าในการขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของประเทศสมาชิกยูเอ็นทั้ง ๑๙๓ ประเทศ
ปรากฏว่า ในปี ๒๕๖๖…….
การพัฒนาของประเทศไทยดีขึ้น โดย SDG Index ของไทยขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ ๔๓
จากประเทศที่ได้รับการจัดอันดับทั้งหมด ๑๖๖ ประเทศ ซึ่งไทยปรับตัวดีขึ้น จากอันดับที่ ๔๔ ปีที่แล้ว
เป็นไงรังสิมันต์….
๙๑ ปี ผีคณะราษฎร “โมเดล” ก้าวไกล?
เจอ ๘ ปี ของพี่ตู่ ยูเอ็นยกนิ้วให้ พัฒนาก้าวหน้า-ก้าวไกล ถึง ๑๗ ด้าน
รังสิมันต์ ยังจะหน้าด้านว่า “เผด็จการล้มเหลว” อยู่มั้ย?
สรุป….
๙๑ ปี วิญญานผี “คณะราษฎร” เข้าสิงพวกล่มชาติ
๘ ปี รัฐบาลประยุทธ์ ทำบุญ “ล้างป่าช้าให้ชาติ”!
เปลว สีเงิน
๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๖
