เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 18.00 น. ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.ชลบุรี ถ.พระยาสัจจา ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้นำทีมผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรค รทสช. ทั้ง 10 เขต รวมถึง ‘น้องแยม’ นางสาวณภัสนันท์ อรินทคุณวงษ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรค รทสช.เบอร์ 9 ขึ้นเวทีปราศรัยเพื่อกล่าวถึงนโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติที่ทำเพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจของ สุชาติ ชมกลิ่น ด้วย
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีแฟนคลับของนายสุชาติและของพรรค รทสช.ชาวชลบุรีต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองมาจับจองพื้นที่รับฟังการปราศรัยอย่างเนืองแน่นหลายพันคนเต็มพื้นที่สนามที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ จ.ชลบุรี
ในช่วงแรก นายสุชาติได้กล่าวถึงผลงานในช่วงที่เกิดโควิด -19 ระบาดในปี 2563 ตนและทีมงานเฮ้งพึ่งได้ลงพื้นที่ร่วมฉีดพ่นยา สเปรย์ฆ่าเชื้อโควิดและมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนชาวชลบุรี ไม่เกรงกลัวว่าตัวเองจะติดเชื้อ
ช่วงนั้นคิดเพียงอย่างเดียวว่าถ้าตนไม่ลงไปช่วยพี่น้องประชาชนแล้วพี่น้องประชาชนจะพึ่งใคร ตนเข้ามาเป็นรัฐมนตรีแรงงานในช่วงที่โควิดกำลังระบาด สิ่งที่คิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำอย่างไรให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานไม่ต้องถูกเลิกจ้าง ทำอย่างไรไม่ให้คนตกงาน ซึ่งเป็นโจทย์ที่ท้าทายของรัฐมนตรีแรงงาน
แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีก็สามารถนำพาประเทศให้รอดพ้นจากโควิด-19 มาได้ โดยตนได้ขอวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อนำไปฉีดให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงานในสถานประกอบการ พี่น้องผู้ใช้แรงงานจะได้ออกไปทำงานได้ไม่นำเชื้อโควิดมาติดคนที่บ้าน จึงเกิดวัคซีนมาตรา 33 ขึ้นมา
ทั่วโลกไม่มีกระทรวงแรงงานใดนำวัคซีนมาฉีดในโรงงานมีเพียงประเทศไทยประเทศเดียวที่ได้ทำโครงการแฟคทอรี่แซนบ็อก ทำให้สร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ใช้แรงงาน เศรษฐกิจส่งออกเติบโตสูงสุดในรอบ 30 ปี สวนทางกับเศรษฐกิจโลก ช่วงโควิดยังได้เปิดจุดตรวจคัดกรองโควิดแบบ RT-PCR 100 เปอร์เซ็นต์ให้พี่น้องผู้ใช้แรงงาน เช่นที่สนามไทย – ญี่ปุ่น ดินแดง เมื่อตรวจพบเชื้อจะนำไปรักษาที่ Hospitel ที่สำนักงานประกันสังคมเช่าโรงแรมกว่า 50,000 ห้อง
นอกจากนี้ ยังได้เยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด เนื่องจากสถานประกอบกิจการปิดชั่วคราว เช่น ห้างสรรพสินค้า แคมป์คนงาน แต่ไม่ปิดโรงงานทำให้ภาคธุรกิจส่งออกสามารถรักษาการจ้างงานต่อไปได้ จนประเทศไทยสามารถชิงส่วนแบ่งการตลาดจากประเทศเพื่อนบ้านที่ซัพพลายเชนปิดได้
โดยบริษัทยานยนต์หลายแห่งได้จ่ายโบนัสให้พนักงานสูงสุดถึง 8.5 เท่า ซึ่งเป็นผลพวงจากโครงการแฟคทอรี่แซนบ็อก รวมทั้งยังลดเงินสมทบให้แก่ผู้ประกันตนเพื่อรักษาการจ้างงาน 12 ล้านคน รักษาธุรกิจให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ จ่ายเงินเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา 40 เฉพาะที่จังหวัดชลบุรี กว่า 7 แสนคน คนละ 10,000 บาท คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 7,000 ล้านบาท รัฐบาลให้เงิน SME หัวละ 3,000 บาท สามารถรักษาการจ้างงานไว้ 5.5 ล้านคน
“กรณีการเปิดประเทศฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียในรอบ 32 ปี ซึ่งไม่มีรัฐบาลใดทำสำเร็จมีเพียงในยุครัฐบาลที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น ซึ่งได้ไปเปิดประเทศเพื่อส่งออกแรงงานไปทำงานในซาอุ และในส่วนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น
โดยส่วนตัวซึ่งอยู่ในฝ่ายบริหารมองว่า ยังยึดมั่นในระบบไตรภาคี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของเศรษฐกิจภูมิภาค จีดีพีรายได้ต่อหัวแต่ละจังหวัดด้วย ” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ ยังกล่าวถึงสิ่งที่พรรค รทสช.จะทำเพื่อพี่น้องผู้ใช้แรงงานและพี่น้องประชาชนเมื่อกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อาทิเช่น บัตรสวัสดิการพลัส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า บัตรลุงตู่ จากเดิมที่เคยให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยวงเงิน 300 – 400 บาท จะเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน การผลักดัน พ.ร.บ.ประกันสังคม 3 ขอ ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้สามารถคืนเงินชราภาพผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 จำนวน 30 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งเงินในส่วนนี้ไม่ใช่เงินของรัฐบาล แต่เป็นเงินของกองทุนประกันสังคม ให้ผู้ประกันตนได้นำไปใช้ก่อนได้ เพิ่มเงินชราภาพ อายุ 55 ปี เป็น 10,000 บาท รวมทั้งปรับเพิ่มเงินเลี้ยงดูแลบุตร จากเด็กแรกเกิดจนถึง 6 ขวบ จากเดิม 800 ปรับเป็น 1,000 บาท ผู้ประกันตนมีประมาณ 12 ล้านคน ตนจะเสนอให้มีโรงพยาบาลประกันสังคมเพื่อรักษาดูแลผู้ประกันตนยามเจ็บป่วย เป็นความภาคภูมิใจของผู้ใช้แรงงาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นนโยบายที่คิดไว้ทั้งหมดแล้วเพื่อสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับพี่น้องผู้ใช้แรงงาน
นายสุชาติ ได้เน้นย้ำว่า ในวันที่ 22 เมษายนนี้ตนและทีมงานจะลงพื้นที่เดินสายไปพบปะกับพี่น้องชาวอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี และยืนยันว่าจะพรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ที่เป็นชาวจังหวัดชลบุรีด้วยกัน ใครจะมาเป็นรัฐบาลก็ขอให้ทำเพื่อประชาชน ขอให้เป็นผู้รับใช้ประชาชน ตนยินดีทุกคนที่จะมาร่วมอุดมการณ์เสียสละทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนด้วยกัน ขอให้มองประชาชนเป็นเจ้านาย
ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุชาติและทีมผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรค รทสช. ทั้ง 10 เขต ยังได้ยืนตรงร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนจะแยกย้ายจากเวทีการปราศรัยอีกด้วย