“สุพันธ์ุ มงคลสุธี” ทสท ร่วมเวทีดีเบต “เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ” ประกาศแก้ PM2.5 ตั้งสถาบันบอนเครดิตร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2566 สุพันธ์ุ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย ร่วมดีเบตกับพรรคการเมืองต่างๆ เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่
ในประเด็นฝุ่นควัน PM 2.5

นายสุพันธุ์ กล่าวว่าทางพรรคไทยสร้างไทยเห็นด้วยอย่างยิ่งที่เมื่อไม่นานมานี้ทางภาคประชาชนได้ไปร่วมฟ้องศาลปกครองต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในกรณีที่ไม่ดูแลปัญหาเรื่องฝุ่น และในวันนั้น น.ต.ศิธา ทิวารี ก็ร่วมเดินทางไปยื่นกับภาคประชาชนด้วย

ในส่วนการแก้ปัญหาดังกล่าวนั้น ตนและคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้เดินทางไปเจรจากับรัฐมนตรีกระทรวงกสิกรรมของสปป.ลาว เพื่อเจรจาในเรื่องการลดฝุ่นแล้ว และพร้อมจะทำทันที เมื่อเป็นรัฐบาล โดยจะร่วมมือกันจัดตั้งสถาบันการซื้อขายคาร์บอนเครดิตขึ้น เพื่อช่วยลดการเผาไหม้และได้รายได้กลับไป

อีกส่วนหนึ่ง คือต้องมีมาตรการการป้องกันการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มาจากไร่ที่มีการเผา ในส่วนในประเทศนั้น ต้องมีการสร้างเศรษฐกิจอย่างอื่นขึ้นมา หารายได้โดยวิธีอื่น และต้องมีการกระจายอำนาจให้ระดับท้องถิ่นดูแล หากท้องถิ่นไหน หมู่บ้านใดไม่มีการเผาไหม้จะได้รับเงินชดเชย รวมทั้งต้องมีการลงโทษอย่างจริงจัง

ส่วนคำถามเรื่องนโยบายที่ใช้งบประมาณสูงและงบประมาณที่จะนำมาใช้จ่ายนั้น นายสุพันธุ์ ตอบว่าพรรคไทยสร้างไทยเน้นดูแลตั้งแต่เกิดจนแก่ พอเด็กเกิดมาจะอุดหนุนเงินจำนวน 3,000 บาทจนถึงอายุ 6 ขวบ เมื่อเข้าโรงเรียนก็จะมีนโยบายเรียนฟรี และลดเวลาเรียนลง 3 ปี เพื่อให้เข้าสู่ตลาดแรงงานได้เร็วขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลง

และเมื่อสูงอายุก็จะมีนโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท ที่จะให้กับผู้สูงอายุโดยต้องแลกกับการหมั่นดูแลสุขภาพ ทำกิจกกรมออกกำลังกายรร่วมกับอสม.ในชุมชน เพื่อให้สุขภาพดีขึ้นและลดงบประมาณในการรักษาพยาบาลลง

โดยคาดว่าทั้งหมดนี้ใน 4 ปี จะใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่มั่นใจว่าจะไม่เป็นภาระทางการคลังเพราะนโยบายที่ออกมาจะทำให้มีเงินหมุนกลับเข้ามาในระบบด้วยเช่นกัน

ในคำถามเรื่องที่ดิน สปก. นั้นนายสุพันธุ์ เสนอว่าที่ดิน สปก.ปัจจุบันตกไปอยู่ในมือนายทุนจำนวนมาก พรรคไทยสร้างไทยนั้นพร้อมที่จะออกเป็นโฉนดให้เป็นเครื่องมือหาทุนและทำกินหากไม่ได้อยู่ในมือของนายทุน

ในส่วนคำถามเรื่องการที่เป็นพรรคใหม่ มีความมั่นใจขนาดไหนในการเลือกตั้งครั้งนี้ นายสุพันธุ์กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยถึงจะเป็นพรรคใหม่ แต่บุคคลากรที่อยู่ในพรรคหลายคนมีประสบการณ์ และคาดหวังที่จะก้าวข้ามความขัดแย้งต่างๆ โดยมีอุดมการณ์ที่สำคัญคือผลักดันนโยบายเพื่อคนตัวเล็ก และนโยบายทุกนโยบายที่ออกมานั้นพิสูจน์ได้ว่าทำได้จริง

ในคำถามเกี่ยวกับปัญหาราคาลำไยนั้น นายสุพันธุ์กล่าวว่าปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาที่สะสมมาหลายปี และพรรคไทยสร้างไทยจะไม่แก้ปัญหาแค่เรื่องลำไย แต่พืชผลทางการเกษตรแทบทั้งหมดต้องแก้โดยเริ่มจากใช้ดาวเทียมเพื่อจัดโซนนิ่งการเพาะปลูกให้แม่นยำมากขึ้น

เพื่อลดปัญหาอุปทานส่วนเกิน และขั้นตอนต่อมาต้องมีการแปรรูปให้มากขึ้น ให้มีสินค้าหลากหลายมากกว่าเดิมเช่น สุรา หรือ สินค้าอื่นๆ ไม่ใช่แค่การอบแห้ง และที่สำคัญคือต้องขยายฐานการบริโภคออกไปยังต่างประเทศ ต้องมีการไปเจรจากับต่างประเทศหรือบินไปขายของให้มากขึ้น

ในประเด็นยาเสพติดนั้น นายสุพันธุ์ตอบว่า ปัญหายาเสพติด ส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจ คือคนเศรษฐกิจไม่ดีจึงไปทำธุรกิจยาเสพติด ทางแก้คือต้องเริ่มจากการการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก่อน จากนั้นต้องมีการประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจัง และต้องมีการขอความร่วมมือกับต่างประเทศที่เป็นประเทศต้นทาง หรือแม้แต่ในรัฐอิสระต่างๆ ก็ต้องไปเจรจาเช่นกันเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวด้วย

Written By
More from pp
โฆษกรัฐบาลหนุนฝ่ายค้าน กลับมาใช้กลไกสภาฯ ถ่วงดุลแทนผสมโรงม็อบบนถนน ลั่นรัฐบาลพร้อมชี้แจง อภิปราย เหน็บเห็นนโยบายรัฐบาลโดนใจประชาชนแล้วคงหวั่นใจรีบตีโพยตีพาย แจงใช้งบประมาณโดยนึกถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลัก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่า การเมืองปี...
Read More
0 replies on ““สุพันธ์ุ มงคลสุธี” ทสท ร่วมเวทีดีเบต “เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ” ประกาศแก้ PM2.5 ตั้งสถาบันบอนเครดิตร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน”