ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
“สนามบินเบตง” เปิดใช้บริการแล้วนะ!
ก็..บอกไว้ให้รู้ เผื่อใครที่คิด-ตั้งใจจะไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ ทานอาหารอร่อยตามเสียงร่ำลือ จะได้สมใจ สมหวังเสียที
เพราะเมื่อมี “สนามบิน” การเดินทางก็จะสะดวกสบายขึ้น และไม่ต้องกังวลใจกับเรื่องความปลอดภัย ฉะนั้นคนที่ไม่เคยย่างกรายไปอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ขอบอก..
ชีวิตนี้ควรหาโอกาส-เวลา แวะไปสัมผัสสักครั้ง..รับรองไม่ผิดหวัง ทั้งธรรมชาติ และอาหารการกิน!
และนี่ ให้รู้ไว้เช่นกัน..น.ส.รสนา โตสิตระกูล ผู้ที่ประกาศตัวจะสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความเสนอต่อรัฐบาล..ให้กำหนดนโยบายและกลไกในการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 เชิงรุกอย่างมีเป้าหมายและวัดผลสัมฤทธิ์ได้ โดยวางแนวทางตั้งแต่บัดนี้ ว่า
1)รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายในการเปลี่ยนรถเมล์สาธารณะของ ขสมก.เป็นรถไฟฟ้าทั้งหมดภายใน 3 ปี
2)ในช่วงเปลี่ยนผ่านที่รถเมล์เก่ายังต้องใช้อยู่ ควรเปลี่ยนน้ำมันดีเซลที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ มาเป็นไบโอดีเซลอย่างน้อย บี 50 จึงจะมีผลในการลด PM2.5 อย่างมีนัยสำคัญ โดยรัฐบาลควรลดภาษีน้ำมันสำหรับรถเมล์สาธารณะเพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของรถ ขสมก.
3)รัฐบาลควรกำหนดเป้าหมายและขั้นตอนในการเปลี่ยนยานพาหนะทั้งหมดที่ใช้ในราชการเป็นยานพาหนะระบบไฟฟ้า
4)รัฐบาลควรมีนโยบายสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ไฟฟ้า ด้วยมาตรการทางภาษี เพื่อให้มีรถไฟฟ้าและแบตเตอรี่มีราคาถูกลง
5)รัฐบาลควรสนับสนุนการติดตั้งที่ชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความสะดวกจะเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
6)รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรจัดทำผังเมืองให้มีพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองไม่น้อยกว่า 10 % เช่น มีนโยบายการปลูกต้นไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองให้มากขึ้นโดยมีเป้าหมายให้บรรลุเกณฑ์มาตรฐานสากลขั้นต่ำคือ ประชากร 1 คนต่อพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 9 ตารางเมตร เป็นต้น
ครับ..ก็รู้ไว้ โดยเฉพาะรัฐบาลไม่เพียงแค่รู้ แต่ควรจะได้วางแนวทางเสียแต่บัดเดี๋ยวนี้ตามข้อเสนอของน.ส.รสนา
ว่าแต่ 6 ข้อเสนอ เท่าที่อ่านดูก็ไม่ได้พิเศษ-พิสดารอะไร น่าที่คนในรัฐบาล-รัฐมนตรีจะคิดเป็น-คิดได้
เพียงแต่ความคิดที่สวยหรูนั้น บางครั้ง-บางเรื่องก็ไม่อาจนำมาปฏิบัติจริงได้..ก็เห็นต้องรอให้น.ส.รสนาเป็นผู้ว่าฯนั่นแหละ..
จะได้เข้าใจ-รู้ซึ้งแก่ตัว!