นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2566 ว่า ครม.อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ใช้จ่ายจากงบประมาณ ปี 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำ เป็นจำนวน 200.60 ล้านบาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการชดเชยการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในการชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและเฉพาะเจาะจงของกลุ่มธนาคารโลก ปี 2561 จำนวน 2 องค์กร ได้แก่
1)ธนาคารระหว่างประเทศเพื่อการบูรณะและวิวัฒนาการ (International Bank for Reconstruction and Development: IBRD) ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการและโครงการเงินกู้แก่กลุ่มประเทศรายได้ปานกลาง และ
2)บรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ ให้เงินลงทุน และสร้างตลาดเพื่อพัฒนาภาคเอกชนของประเทศสมาชิก
การชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 ที่เห็นชอบการซื้อหุ้นเพิ่มทุนแบบสามัญและแบบเฉพาะเจาะจงของ IBRD และ IFC วงเงินจำนวน 78 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,652 ล้านบาท) โดยกำหนดชำระภายในระยะเวลา 5 ปี คือ
ภายในปี 2566 ที่ผ่านมาปีงบประมาณ 2563 -2565 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนของ IBRD และ IFC ไปแล้ว 3 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 54.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมียอดคงเหลือที่ต้องชำระงวดสุดท้ายภายในปี 2566 จำนวน 23.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ด้วยสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่ากว่าที่ได้ประมาณการไว้ ทำให้ชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนได้น้อยกว่าแผนกำหนด
โดยปีงบประมาณ 2566 กระทรวงการคลังคาดว่า จะสามารถชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนได้ประมาณ 17.33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไม่เพียงพอ กระทรวงการคลังจึงจำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนงบกลาง ปี 2566 เพื่อชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนของ IBRD และ IFC ดังกล่าว ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องชำระเงินค่าหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้กับ IFC และ IBRD ในวันที่ 15 เมษายน 2566 และวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ตามลำดับ