16 มีนาคม 2566 นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นว่าการประชุม ครม. ที่ผ่านมาเร่งอนุมัติวาระมากเกินไป โดยเกรงว่าอาจไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วนและอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชนได้ในภายหลัง โดยประชุมรอบนี้ถือเป็นการประชุม ครม. ครั้งสุดท้ายก่อนจะประกาศยุบสภา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในต้นสัปดาห์หน้า โดยมีวาระให้ที่ประชุมอนุมัติกว่า 88 วาระ
ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ต่างประเทศ กฎหมาย และการแต่งตั้งบุคคลสำคัญ ใช้เวลาในการประชุมประมาณ 7 ชั่วโมง และมีวงเงินรวมกันมากถึง 1.93 แสนล้านบาท ซึ่งรวมไปถึงการอนุมัติร่างกฎหมาย 5 ฉบับ การแต่งตั้ง 15 เรื่อง และยังมีโครงการเกี่ยวกับสินเชื่อวงเงินรวม 6,000 ล้านบาทด้วย
นางสาวธิดารัตน์ให้ข้อสังเกตว่าการประชุมนัดนี้มีการอนุมัติโครงการสำคัญหลายโครงการ ทั้งโครงการโทรศัพท์มือถือ 4G/5G โครงการทางด่วนฉลองรัช (ช่วงจตุโชติ-ถนนลำลูกกา) การเพิ่มเงินตอบแทนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล และ อบต.
การประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การออกหวยใหม่ (L6-N3) โครงการโคล้านครอบครัว การลดราคาน้ำมันดีเซลต่อ 2 เดือน การเพิ่มส่วนลดก๊าซหุงต้ม “บัตรคนจน” คนละ 20 บาท 3 เดือน และการเว้นภาษีลงทุนตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโครงการที่หวังจะได้รับคะแนนนิยมจากประชาชน และหวังผลต่อยอดไปยังการเลือกตั้งสมัยหน้า
อีกทั้ง บางโครงการเป็นโครงการที่เอาใจประชาชนในระยะสั้น อย่างการขยายระยะเวลาลดราคาน้ำมันดีเซลออกไป โดยคาดว่ารัฐจะสูญเสียรายได้ประมาณ 20,000 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนดังกล่าว หรือการช่วยลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เป็น 100 บาทต่อคน ซึ่งช่วงเวลาดำเนินการอยู่ในช่วงเดียวกันกับการหาเสียง
ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่ารัฐบาลกำลังหาทางเรียกคะแนนนิยมในช่วงสุดท้าย เพื่อประโยชน์ของตนเอง ทั้งๆ ที่ยังมีเรื่องเร่งด่วนอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง แต่กลับยังไม่ได้รับการพิจารณา และหากมีการยุบสภา จะยิ่งล่าช้าออกไป เพราะต้องรอเสนอ ครม. ชุดใหม่พิจารณาแทน
เช่น ร่าง พ.ร.บ. การขนส่งทางรางฯ ที่หวังช่วยการควบคุมราคาค่าโดยสาร ช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน หรือการแก้ปัญหาการใช้งบฯ ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรคที่ยังไม่ครอบคลุมทุกสิทธิ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านสุขภาพของประชาชนที่อยู่นอกสิทธิ์บัตรทอง เป็นต้น
“ที่ผ่านมา รัฐบาลมีเวลาพิจารณาโครงการต่างๆ มากมาย แต่กลับมาใช้การประชุมครั้งนี้ที่เป็นรอบสุดท้ายในการเร่งทิ้งทวนอนุมัติโครงการต่างๆ ซึ่งบางโครงการเอื้อประโยชน์ทำให้บางพรรคได้เปรียบในการเลือกตั้งครั้งต่อไป อย่างไรก็ดี ทุกโครงการที่ ครม. อนุมัติไปแล้ว ต้องมีการดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุด เน้นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าที่สุด” นางสาวธิดารัตน์กล่าว
