2 มีนาคม 2566-น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือน มกราคม 2566 ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลังว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน มกราคม 2566 พบว่าดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 และสูงสุดในรอบ 26 เดือน โดยอยู่ที่ 51.7 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่อยู่ระดับ 49.7 สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น
ขณะที่ความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจาก 92.6 ในเดือนก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 93.9 ตามยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ยอดขายโดยรวม ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ สอดคล้องกับการขยายตัวของการบริโภคสินค้าในหมวดสินค้าคงทนและสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงการท่องเที่ยวภายในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า รายงานยังระบุด้วย เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มกราคม 2566 อยู่ที่ 5.02% และเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 3.04% สัดส่วนหนี้สาธารณะ ล่าสุดสิ้นเดือน ธ.ค. 65 อยู่ที่ 60.7% ต่อจีดีพี
ซึ่งถือเป็นข่าวดีของเศรษฐกิจปีนี้ ท่ามกลางความท้าทายต่างๆ ในขณะที่รายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.8 ในปีที่ผ่านมา พร้อมกับคาดว่าการว่างงานของไทยจะอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิกที่ 1.0% โดยไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ IMF มองว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวได้ท่ามกลางการชะลอตัวของทั่วโลก
“รายงานดังกล่าวสะท้อนผลสำเร็จของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ที่มีส่วนร่วมในมาตรการต่างๆ จนผลิดอกออผลฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิดอย่างเป็นรูปธรรม ยอดเยี่ยม ที่มีศัภยภาพทัดเทียมอนารยประเทศ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าไม่มีใครเป็นพระเอกคนเดียว เก่งคนเดียว
แต่ทุกคนคือทีม ทีมไทยแลนด์ ที่จะพาประเทศไทยขับเคลื่อนไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ที่ไม่เพียงกลับไปดีเหมือนสถานการณ์ก่อนโควิด แต่จะดีขึ้นกว่าเดิม พาประเทศชาติเติบโตแบบก้าวกระโดดมั่นคง”น.ส.ทิพานัน กล่าว