พรรคพี่-พรรคน้อง-พรรคพวก – เปลว สีเงิน

คลิกฟังบทความ..?

เปลว สีเงิน

หลังจากแต่ละพรรค “โชว์ตัว” ว่าที่นายกฯ “นอกรอบ” ก่อนถึงวันเข้าจุดสตาร์ทในเดือนหน้า
ผมเห็นแววอยู่ ๓-๔ คน ที่จะชิงกันเข้าวิน
ก็มี พลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร และนายอนุทิน!
อ้าว…
แล้วอุ๊งอิ๊ง-เพื่อไทยไปไหน เป็นได้ไง ที่จะไม่ติดอันดับเข้าชิง ไม่อคติกันเกินไปหน่อยหรือ?

ต้องมีคนท้วงอย่างนี้แน่ๆ ซึ่งก็สมควรท้วง และผมก็มีเหตุผลที่จะตอบ คือ
ในภาพรวม พรรคเพื่อไทย ถึงไม่แลนด์สไลด์ แต่ยังงไงๆ ก็ต้องได้ สส.มากเป็นอันดับ ๑
ขี้หมู-ขี้หมา ก็ปริ่มๆ ๒๐๐ ที่นั่ง!

ตามตัวเลข พรรคอันดับ ๑ ต้องได้ตั้งรัฐบาล ๙๐%ขึ้นไปอยู่แล้ว นั่นคือ “อุ๊งอิ๊ง “มีเปอร์เซนต์สูงกว่าทุกพรรค ที่จะขึ้นเป็นนายกฯ
แล้วผมว่าไม่ติดกลุ่มตัวชิงเข้าวินได้อย่างไร?

ได้อย่างนี้ครับ….
คือผมไม่เชื่อว่า ถึงวันเสนอชื่อนายกบัญชีเลือกตั้ง “พรรคเพื่อไทย” จะเสนอชื่ออุ๊งอิ๊ง “เป็นตัวจริง”

ตอนนี้ แค่เชิด “ตัวหลอกเลียบค่าย” เท่านั้น

เพราะ “ตัวพ่อ” เขาอ่านเกมออก เมื่อยากจะแลนด์สไลด์ ถึงได้เสียงมากอันดับ ๑ จะรวมพวก “ตั้งรัฐบาล” ก็ยาก
ถึงรวมพวกตั้งได้ จำนวนสส.ก็ปริ่มๆ กับอีกฝ่าย

ซึ่งแบบนี้ เมื่อโหวตในรัฐสภา ก็มีความชอบธรรม ที่สว.จะใช้ดุลยพินิจ “โหวตเลือกนายกฯ” จากอีกฝ่ายที่เสนอแข่ง ซึ่งเป็นไปได้สูงมาก

เพราะอย่างนี้แหละ ……..
การสร้างทาง “หยั่งกระแส” เพื่อไทย จะจับมือ “พลังประชารัฐ” ชูพลเอกประวิตรเป็นนายกฯ จึงเกิดขึ้น

เพราะมีแต่ใช้พลเอกประวิตรเป็น “ใบเบิกทาง” เท่านั้น เพื่อไทยจึงจะสามารถ “ฝ่าด่านสว.” ขึ้นเป็นรัฐบาลได้
ถึงปี ๖๗ “สว.ครบ ๕ ปี” ก็สิ้นฤทธิ์ตามบทเฉพาะกาล ไม่มีสิทธิ์โหวตเลือกนายกฯแล้ว

รอถึงตรงนั้น………
“เพื่อไทย” ค่อยเขี่ยพลเอกประวิตรลงจากเก้าอี้ จากนั้น การเลือกนายกฯใหม่ ก็ใช้แค่เพียง “เสียงสส.” โหวต
เข้าล็อกทักษิณพอดี!

ขั้นตอนต่อจากนั้น ก็ทำอย่างที่ทำมาแล้วกับ “อดีตนายกฯสมัคร” จนอกหัก ช้ำใจตายในที่สุด อย่างที่เห็นกัน!

กิ้งกือ ๑,๐๐๐ ขา ยังเคลิ้มวาจาทักษิณ จนพลาดตกท่อได้ แล้วสำมะหาอันใด พลเอกประวิตรเมื่อเทียบชั้นการเมืองยังห่างสมัครเป็นร้อยโยชน์

ถ้าเจอทักษิณกล่อม ให้มาร่วมตั้งรัฐบาลกับเพื่อไทย โดย ประเคนเก้าอี้นายกฯ ให้ มีหรือที่พลเอกประวิตรจะลังเล

แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน……..
ผมยังให้เครดิตอดีตระดับขุนพลกองทัพ ถ้ายังอ่านหมากในกระดานกลของทักษิณไม่ออก ก็คงไม่สามารถเลี้ยงลูกน้องเป็นผบ.ทบ.ได้ถึง ๒ คนหรอก!

ฉะนั้น ในเมื่อ ทักษิณ-เพื่อไทย ยังไม่หงาย “ไพ่ไต๋” ให้เห็นหน้าว่า “ใคร…คือตัวจริง?”
ผมจึงตัดตัวแข่งจากคอกเพื่อไทยในตำแหน่งชิงเข้าวินไว้ก่อน!

แล้วใน ๓ ตัวชิง พลเอกประยุทธ์ พลเอกประวิตร และนายอนุทิน ใครเต็ง ในฐานะจะได้เสียงสส.มากอันดับ ๑ ของกลุ่ม?

ฟันธงได้เลย…..
“นายอนุทิน ชาญวีระกูล” คอกภูมิใจไทย เต็ง ๑ ที่จะเข้าวิน ด้วยจำนนวน สส.ถึง ๑๐๐ หรือไม่ก็ปริ่มร้อยเอามากๆ!

ดูตามนี้ “ภูมิใจไทย” โดยนายอนุทิน ….
จะเป็น “Don Corleone” ผู้เสนอเงื่อนไขให้ทุกพรรค ทั้งรวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ เพื่อไทย ด้วยประโยคว่า
“I’ll make you an offer you can’t refuse”

เพราะ ใครจะเป็นรัฐบาล ต้องได้ภูมิใจไทยไปร่วม เมื่อต้องได้ภูมิใจไทย ก็ต้องยอมรับเงื่อนไขที่ “ดอน-อนุทิน” เสนอ!

ฉะนั้น “ตามตัวเลข”
“รัฐบาลผสม” หลังเลือกตั้ง ๗ พฤษภา.คนที่มีโอกาสเป็นนายกฯ มากที่สุด คือ “นายอนุทิน”

ขอเน้น….พูดตามตัวเลขนะ
แต่ตามกลไกสังคมเฉพาะกาลและสถานการณ์ “ตัวเลขดิบๆ” ไม่ใช่คำตอบ

การนำตัวเลขเข้าสมการถอดรูทแล้วนั่นตะหาก คือ คำตอบ ของตัวนายกฯ และคณะรัฐบาล!

เพราะ “มาแรง-แสงเจิดจ้า” อย่างนี้แหละ การสะกัดดาวรุ่งจึงเกิดขึ้น นายอนุทินไม่เป็นนายกฯ พรรษานี้ ถึงพรรษาเลือกตั้งอีกสมัย

ดูตามหน้าเสื่อ นับจากพลเอกประยุทธ์ไปแล้ว
หน้าใหม่ที่ฝีมือ-ผลงานถึงระดับนายกฯ ได้ ก็มีนายอนุทิน นายวราวุธ ศิลปอาชา นี่แหละ ในคนรุ่นกลางๆ

จึงอย่าได้แปลกใจ ที่เห็นระยะนี้ นายอนุทินจะถูก “รุมกินโต๊ะ” ทั้งในสภา-นอกสภาและในถนน หนักและถี่มาก

ฉะนั้น ก็อยากบอก “นายวราวุธ ศิลปาอาชา” ผู้นำพรรคชาติไทยพัฒนา ว่า…คิวต่อไปคือคุณ จงเตรียมตัว

ยังไม่ต้องเตรียมตัวเป็นนายกฯ ผมหมายถึง เตรียมถูกสอยเหมือนที่นายอนุทินถูกในอีกซัก ๒ พรรษาข้างหน้าเถอะ

เพราะตอนนี้ ประชาชนเริ่มโฟกัสไปที่ตัวนายวราวุธแล้ว ว่าเป็นหนุ่มใหญ่ มีประสบการณ์และวิสัยทัศน์เทศผสมไทยลงตัว ทั้งเฉียบแหลม มุ่งมั่น บทบาทในงานเป็นหน้า-เป็นตาประเทศในระดับอินเตอร์
เป็น “รัฐมนตรีต่างประเทศ” ได้สบายๆ

ผ่านด่านนั้น ขยายพรรค-ขยายบารมี จากพรรคตระกูลเป็นพรรคประชาชนทุกชนชั้น
แล้วสังคมไทยรุ่นต่อๆไป ก็จะไม่ต้องถามอย่างที่ถามกันตลอดว่า “แล้วจะเอาใครมาเป็นนายกฯ”

“นายวราวุธ” เป็นตัว “ตอบโจทย์” ผู้นำบริหารในอนาคตรออยู่แล้ว เว้นแต่นายวราวุธจะพอใจการเมืองแค่สุพรรณฯเท่านั้น

“พรรครวมไทยสร้างชาติ” ตั้งแต่นายกฯ ประยุทธ์ประกาศเป็นผู้นำพรรค เท่าที่ติดตามดู
คะแนนนิยม “ดีวัน-ดีคืน”!

ร้อยละเกือบทั้งร้อย คนรู้จักลุงตู่ แต่รู้จัก “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ไม่ทั้งร้อย
ได้ยินเพื่อไทยปรามาสว่าได้สส.ถึง ๒๕ คน ก็เก่งแล้ว

ถ้าลุงตู่ไม่ออกนำ น่าจะจริง!
เพราะลำพัง “นายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค” คนเป็นหัวหน้าพรรค รู้จักดีในคนระดับบน แต่ละดับกลาง-ล่างลงไป ยังไม่ค่อยคุ้น

แต่ดูตัวระดับใหญ่ ที่ศรัทธาในนายกฯ แล้วมาร่วมทำงานพรรค แต่ละคนมีศักยภาพและจุดเด่นคนละด้าน-สองด้านน่าสนใจมาก

อย่างอาจารย์ไตรรงค์ นายชัชวาลย์ คงอุดม นายสุชาติ ชมกลิ่น นายอนุชา นาคาสัย นายปรีชา เร่งสมบูรณ์ นายธนะธร วังบุญคงชนะ และอีกมาก

ระดับนี้ เรียกว่า ล้วนมากประสบการณ์ เชี่ยวชาญด้านบู๊
ส่วนนายพีระพันธ์ เรียกว่า มากประสบการณ์ เชี่ยวชาญด้านบุ๋น

แต่น่าเสียดาย ดูเหมือนนายกฯ ไม่มีเวลา นำฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊มาพร้อมหน้า แล้วดึงศักยภาพแต่ละฝ่ายออกมาหลอมรวมกัน

แล้วจัดทัพ คัดแต่ละคน ที่ “เหมาะสมงาน” ให้ลงไปแต่ละพื้นที่ ชนิดมีอำนาจตัดสินใจ ซึ่งจะทำให้มีความชัดเจนในยุทธการแต่ละแนวรบมากขึ้น

ตอนนี้ ดูเหมือน “รวมหม้อ” แต่ “แยกเนื้อ-แยกน้ำ” แต่ละคนยังมีปัญหาคาใจ และไม่รู้ใครจะแก้ และแก้กับใคร ต่างฝ่าย-ต่าง “กล้ำกลืน-ฝืนทน”

ถ้านายกฯไม่ลงมาเป็นตัวกลาง……
คนที่เขาศรัทธา อุตส่าห์เสียสละ “แอ่งอยู่-อู่นอน” ตัวเอง ออกมานอนฟาง เพียงหวังอยากช่วยงานนายกฯ เขาจะเสียกำลังใจ

“รบ” แต่ลูกทัพ “ระท้อ” เพราะนายทัพ “ทอดทิ้ง” ถึงตีเมืองได้ ที่จะรักษาให้ยาว คราวเดียวก็คงจบแล้ว!

เมื่อนายกฯ เป็น “แกนศรัทธา” ในความเป็นรวมไทยสร้างชาติ จะยั่งยืน “แกนคือแก่น” ต้องเป็นศูนย์กลางให้ทั้งองคพายพเข้าถึง

นายกฯ จะต่างกับพลเอกประวิตรตรงนี้

ถึงจะกีดกันให้เข้าถึงตัวยาก แต่พลเอกประวิตรเข้าถึงคำว่า “เพื่อสู่เป้าหมาย…ไม่เกี่ยงวิธีการ”

ดังนั้น เข้าไม่ถึงลุงป้อม แต่กับคนที่ลุงป้อมต้องการ ลุงป้อมลงไปเข้าถึงเขาเอง แบบ “ใจถึง”!

เพราะอย่างนี้ ด้วยใจบันดาลแรง ทำดูถูกพลังประชารัฐไปเถอะ ด้วยประชาธิปไตยเลือกตั้ง ซึ่งระบบออกแบบให้เน้นปริมาณ ไม่ต้องการเน้นคุณภาพคน

เผลอๆ พรรค “พี่ป้อม-น้องตู่” จะได้สส.สูสี ถึงน้องตู่จะบี้พรรคพี่ได้ ก็คงไม่กี่คน
หลงจ๊ง “พรรคพี่-พรรคน้อง” เลือกตั้งเสร็จเป็นพรรค “ท้องติดกัน”

คุยเท่านี้ เดี๋ยวเขาจะว่า มึงเก่งนัก มาเป็นหัวหน้าพรรคเองซี ผมก็จะซวย!

เปลว สีเงิน
๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

 

Written By
More from plew
โควิดกับ “ไทยในโอกาสโลก”
เปลว สีเงิน “ขออวยพรให้หายเร็วๆ ก็เพื่อนกัน ไม่ว่าอย่างไรก็เพื่อนกัน คำว่าเพื่อนก็คือเพื่อน เราต้องให้กำลังใจกัน” -พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ๒ ตุลาคม ๒๕๖๓
Read More
0 replies on “พรรคพี่-พรรคน้อง-พรรคพวก – เปลว สีเงิน”