บรรยากาศเวทีปราศรัย “พรรคชาติไทยพัฒนา” ณ ศาลาประชาคมจีนอำเภอสามชุก จ.สุพรรณบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา “วราวุธ ศิลปอาชา” อ้อนชาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี เลือกพรรคสีชมพู “ชาติไทยพัฒนา” ให้ชนะถล่มทลาย “ประภัตร” ชื่นใจเสียงเชียร์ เชื่อหัวหน้าพรรคสู้ ลุงตู่-ลุงป้อม-อุ๊งอิ๊งค์-อนุทิน ได้ ขณะที่ น.ส.กัญจนา ขอเสียงสนับสนุนทั้งประเทศ 4 ล้านคะแนนส่ง “วราวุธ” เป็นนายกฯ
24 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ ศาลาประชาคมจีน อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี นายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ดร.อุดม โปร่งฟ้า กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค เปิดเวทีปราศรัยหาเสียงให้กับนายประภัตร ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขตเลือกตั้ง อ.ศรีประจันต์ อ.ดอนเจดีย์ และอ.สามชุก โดยมีคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา ภรรยานายบรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 มาร่วมให้กำลังใจ
นายวราวุธ กล่าวปราศรัยขอบคุณประชาชน อ.สามชุก ที่ยังให้ความรัก ความศรัทธา กับพรรคชาติไทยพัฒนา โดยเฉพาะ นายประภัตร ที่อยู่กับพรรคมาอย่างยาวนาน เป็นขุนพลที่สำคัญของพรรค มากว่า 40 ปี จึงขอเสียงจากชาวอู่ทอง เลือกนายประภัตร และพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ชนะอย่างถล่มทลาย
นายวราวุธ ยังกล่าวด้วยว่า กว่า 3 ปี ที่ทำงานร่วมรัฐบาล ได้พิสูจน์แล้วว่าทุกคะแนนเสียง ไม่ได้ตกน้ำไปไหน และสิ่งที่ยืนยัน ก็คือการทำงานของตน กับนายประภัตร ในฐานะรัฐมนตรี ที่ไม่เคยถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจแม้แต่ครั้งเดียว ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ได้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาเข้าไปทำงาน และการเลือกตั้งที่จะถึง ก็จะเป็นบทพิสูจน์ความรักของชาวจังหวัดสุพรรณบุรี 8 แสนคน ว่าจะยังรักพรรคชาติไทยพัฒนา และศิลปอาชา อยู่หรือไม่
“มีพรรคนั้นพรรคนี้ จะมาขอคะแนน เวลาเดือดร้อน พรรคที่เสนอตัวหายไปไหนไม่รู้ พอจะเลือกตั้งแปะป้ายหาเสียง บอกจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ จะเลือกตั้งทีขยันทำงานกันใหญ่ ถ้าไม่มีเลือกตั้งก็คงจะไม่มาทำใช่หรือไม่ 4 ปีที่ผ่านมาไปไหนกันหมด ก็มีเพียง ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ยังทำงานอยู่กับพี่น้องชาวสุพรรณบุรีมาโดยตลอด นี่คือความจริงใจที่พวกเรา พรรคชาติไทยพัฒนาได้ทำงานตั้งแต่รุ่นพ่อ มาถึงรุ่นลูก และเราก็ขออาสาทำงานต่อ ด้วยความจริงใจ และตั้งใจ” นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ ยังนำเสนอนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มาจากการ “รับฟัง ทำจริง” จากการลงพื้นที่ทำงานทั่วประเทศไทย ว่า นโยบายถึงจะไม่ได้ลด แลก แจก แถม มากมายมโหฬาร แต่เป็นนโยบายที่ทำได้จริง และทำให้ประชาชนมีความยั่งยืน ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยเฉพาะการดูแลเกษตรกรชาวนา จากนี้จะต้องมีพันธุ์ข้าวที่ดี มาแจกให้ฟรี ๆ ทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ และมีเงินต้นทุนการเพาะปลูก 1,000 บาท/ไร่ มีเขตไฟฟ้าการเกษตร ราคาถูก หน่วยละ 2 บาท และต้องมีน้ำสะอาดทุกหมู่บ้าน และมีบาดาลขนาดใหญ่ทุกตำบล เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้ง เป็นต้น
นายวราวุธ กล่าวว่า นโยบายของพรรคถึงจะไม่ได้หวือหวา ได้แจกเหมือนพรรคการเมืองอื่น ๆ แต่ก็เป็นนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาปากท้อง และเพิ่มเงินในกระเป๋าให้กับคนทั้งประเทศได้อย่างยั่งยืน ดังนั้นการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น พรรคไหนจะมา ก็ขอให้เลือกพรรคสีชมพู พรรคชาติไทยพัฒนาไว้ก่อน พร้อมระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ สมาชิกพรรค เสนอให้ตนเป็น แคนดิเดตนายกฯ และไม่ว่าพรรคอื่นจะมีคนเก่งมากมายแค่ไหน ขอให้มั่นใจว่าตนเองไม่ทำให้ชาวสุพรรณบุรีขายหน้า และไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน
น.ส.กัญจนา กล่าวปราศรัยขอคะแนนเสียงให้กับ นายประภัตร ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตนี้ และขอให้เลือกบัญชีรายชื่อพรรค ให้ได้เกินกว่า 3.5 แสนคะแนน เพื่อให้นายวราวุธ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรค เข้าไปทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน “การเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้ง 5 เขต ขอให้พรรคชาติไทยพัฒนายกทั้งจังหวัด และขอคะแนนให้พรรค 4 แสนคะแนนขึ้นไป เพื่ออุ้มนายวราวุธ เข้าสภาฯ ได้หรือไม่”
น.ส.กัญจนา กล่าวว่า นายบรรหาร รักจังหวัดสุพรรณบุรีมาก ดังนั้นคนสุพรรณบุรีจะไม่รักพรรคชาติไทยพัฒนาได้อย่างไร จึงอยากขอให้ช่วยกันบอกต่อ ญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง ที่อยู่จังหวัดอื่น ๆ ให้ช่วยกันลงคะแนนให้กับพรรคชาติไทยพัฒนา ให้ถึง 4 ล้านคะแนน เพื่อให้ได้เข้าไปทำงานดูแลประชาชน พร้อมย้ำว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เสนอชื่อ นายวราวุธ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และจำเป็นต้องมีเสียง ส.ส. ในสภาฯ ไม่น้อยกว่า 25 ที่นั่ง ดังนั้นขอให้พี่น้องประชาชน ช่วยกันสนับสนุนให้นายวราวุธ เข้าไปเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 ของจังหวัดสุพรรณบุรี
ด้าน นายประภัตร กล่าวว่า อ.สามชุก เป็นอำเภอใหญ่ มีความสำคัญทางเศรษฐกิจรองจาก อ.เมืองสุพรรณบุรี จึงเป็นที่หมายปองของหลายพรรคการเมือง แต่ อ.สามชุก มีผู้แทนราษฎร มาจากพรรคชาติไทย ตั้งแต่ ปี 2518 และมีนายบรรหาร เข้ามาพัฒนาจังหวัดทั้งการคมนาคม การชลประทาน และการพัฒนาด้านอื่น ๆ ทำให้ อ.สามชุก ที่เป็นเมืองค้าขาย เมืองท่องเที่ยว เติบโตมีเศรษฐกิจดีขึ้น และนับจากนั้นมา จ.สุพรรณบุรี ก็มีผู้แทนราษฎร จากพรรคชาติไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา มาดูแล แก้ปัญหา น้ำท่วม ภัยแล้ง มาโดยตลอด จึงเป็นพรรคเดียว ที่อยู่ในใจ เคียงคู่ชาวสุพรรณบุรี และสามารถได้อย่างเต็มปากว่าเรามีความผูกพันกัน ดังนั้นจึงขอให้เลือกพรรคชาติไทยพัฒนาชนะอย่างถล่มทลายในจังหวัด
นายประภัตร ยังกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีผู้นำท้องถิ่นมาสอบถามว่าหลังเลือกตั้งครั้งนี้ ใครจะเป็นนายกฯ ตนตอบได้เลยว่า 3 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นแนวทาง แต่วันนี้ทุกคนได้ยอมรับความสามารถของนายวราวุธ ที่สามารถขึ้นเวทีระดับโลกได้อย่างภาคภูมิใจ
“เห็นแล้วว่าในแคนดิเดตนายกฯ 8 – 9 คน มีลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, อุ๊งอิ๊งค์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และวันนี้พรรคชาติไทยพัฒนา เรามี นายวราวุธ ศิลปอาชา ชาวสุพรรณฯ จะเอาหรือไม่ ถ้าเอา พวกเราจะต้องชนะอย่างถล่มทลายให้ได้”