หาเสียงหลอกเด็ก-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

ดุเดือดครับ…
ตามไปดูการหาเสียงเลือกตั้งช่วงวันสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลากรสหลายแบบ
เริ่มที่ “ลุงป้อม” สร้างสีสันด้วยลีลาใหม่ พาหลานๆไปนั่งกินข้าวย่านเสาชิงช้า
ต่อที่ร้าน มนต์ นมสด
ด้วยใจบันดาลแรง สวมกางเกงยีนส์ เดินแบบไม่ต้องมีใครจูง ลูกเด็กเล็กแดงแถวๆ นั้นเห็นแล้วพากันทึ่ง “ลุงป้อม” ยังไหว

เห็นว่าเสื้อลายตัวที่ใส่ ราคาเหยียบ ๒ หมื่น
ก็ตามสไตล์ “ลุงป้อม” ครับ…ใส่ให้เด็กมันดู

ใช่ครับ…การที่ “ลุงป้อม” ไปปรากฎตัว ย่านที่เด็กๆ ไปดื่มนมร้อนกันยามค่ำคืน แถมหอบหิ้วหลานๆ วัยรุ่นไปด้วย แบบนี้แปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
นอกจากไปหาเสียงกับเด็ก

จะได้กลับมากี่คะแนนไม่ทราบได้
แต่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า “ลุงป้อม” เป็นนักการเมืองเต็มตัวไปอีกคน
ณ เวลานี้ไม่มีเหนียมอายให้เห็นกันแล้ว

โหวตเตอร์รุ่นใหม่ กำลังเป็นที่จับตามอง เพราะกระแสในโซเชียล โหวตเตอร์กลุ่มนี้เป็นของพรรคก้าวไกล หลายพรรคจ้องตาเป็นมัน ต้องการเจาะเข้าไปเช่นกัน

แต่คงยาก เพราะพรรคก้าวไกลปูพื้น สร้างดรามา “กดทับ” มานาน

อีกอย่างเด็กวัยรุ่นทุกยุคสมัยล้วนมีความเป็นขบถอยู่ในตัว ก็ต้องปล่อยให้เขาลองตามที่เชื่อ
ก็จนกว่าจะได้รู้ว่าสิ่งที่ฟังมา กับสิ่งที่เป็นจริงนั้น มันคนละเรื่องกัน

ที่จริงหากจับทิศทางพรรคก้าวไกล เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มจะเห็นข้อเท็จจริงบางประการ ซึ่งโหวตเตอร์รุ่นใหม่ควรจะตั้งคำถามว่า…

ความเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดจากอะไร
ทำไมถึงเปลี่ยน

ยิ่งเป็นการเปลี่ยนแนวคิดที่ล้างสมองกันมาต่อเนื่องด้วยแล้ว ยิ่งต้องถามกันให้ชัด
ทำไมจากเดิมคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ยืนยันหกนักแน่นว่า ม.๑๒๒ ต้องยกเลิกสถานเดียว

ประเด็นนี้ปรากฎหลักฐานหลายกรรมหลายวาระว่า มีความประสงค์ยกเลิกม.๑๑๒ จริง
ไม่ต้องถอยไปไกล เมื่อเดือนมกราคมนี้เอง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า แสดงจุดยืนกรณี “ตะวัน-แบม” ด้วยการสนับสนุนข้อเสนอทั้งสามข้อ

สามข้อมีอะไรบ้าง

๑. ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ศาลต้องคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพในการแสดงออก ต้องเป็นอิสระ ปราศจากอำนาจนำ และผู้บริหารศาลต้องไม่แทรกแซงกระบวนการพิจารณาคดี

๒. ยุติการดำเนินคดีกับประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การชุมนุม และการแสดงออกทางการเมือง

๓. พรรคการเมืองทุกๆ พรรคต้องเสนอนโยบายเพื่อประกันสิทธิเสรีภาพ และการมีส่วนร่วมทางการเมือง โดยการยกเลิก ม.๑๑๒ และ ม.๑๑๖

อย่าลืมนะครับ “ตะวัน-แบม” ได้รับอิทธิพลทางความคิดจาก พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า
ล้ำหน้ากว่าตรงที่ “ติดคุก”

ละเมิดกฎหมาย แต่จะให้กระบวนการยุติธรรมทำตามความต้องการของตนเอง

วันนี้การอดข้าวนอกคุกบีบกระบวนการยุติธรรมจึงเริ่มไม่มีใครสนใจ เพราะวิธีการต่อสู้ที่ผิดเพี้ยนของ “ตะวัน-แบม” เป็นเรื่องยากที่จะได้รับการตอบสนอง

ปีที่แล้วเกิดข่าวฉาวโฉ่ พรรคก้าวไกลลักไก่ล้างสมองเยาวชนของชาติ ผ่านกรรมาธิกการพัฒนาการเมือง สภาผู้แทนราษฎร โดยใช้งบประมาณของสภาฯ ที่มาจากภาษีของประชาชน

มีเนื้อหาปลุกให้ต่อต้านม.๑๑๒
คนพูดคือผู้ต้องหาคดีม.๑๑๒

ส.ส.พรรคก้าวไกลหลายคนร่วมเวทีชุมนุม ๓ นิ้วช่วง ๒-๓ ปีที่ผ่านมา
ทุกคนยืนยันในที่ชุุมนุมว่า ต้องยกเลิก ม.๑๑๒ เท่านั้น ไม่มีทางเลือกอื่น

นั่นคือท่าที่ ตอนอยู่ห่างจากอำนาจ รับปากทุกเรื่อง พร้อมจะทำทุกอย่าง
ครั้นเมื่อเข้าใกล้อำนาจ ความคิดเริ่มเปลี่ยน

วันนี้พรรคก้าวไกลเริ่มเข้าใกล้ประตูสู่อำนาจ
อีกไม่เกิน ๔ เดือนนับจากนี้ อาจได้เป็นรัฐบาล

ท่าทีเกี่ยวกับม.๑๑๒ ถึงได้เปลี่ยนไป
“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เล่นคำ
“ขั้นต่ำที่สุดจะต้องมีการแก้ไขม.๑๑๒”

“แต่ถ้ามีฝ่ายอื่นที่จะแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ไปในทางที่เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อประเทศ เราก็พร้อมที่จะยื่นร่างประกบเข้าไป

หากพรรคการเมือง หรือสภาจะไม่ให้โอกาสในการสร้างฉันทามติ ถ้าของสังคมไทยกลัวว่าประเทศไทยจะหลุดมือ และไม่สามารถนำกลับมาได้ การที่พรรคก้าวไกลจะผลักดันจนถึงขั้นยกเลิกอาจจะเป็นไปได้”

น้ำเสียงที่เปลี่ยน ข้อเสนอที่ไม่แข็งขันแบบเดิม เกิดจากอะไร?

ครับ…นี่คือสิ่งที่โหวตเตอร์ควรตั้งคำถามว่า แล้วที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการชุมนุมของม็อบ ๓ นิ้ว หลายคนเชื่อในสิ่งที่ถูกล้างสมองกันมานั่นคือ ยกเลิก ม.๑๑๒

บางคนต่อสู้เลยเถิด ติดคุกไปหลายคน
ต้องลี้ภัยไปก็เยอะ

พรรคก้าวไกลกำลังจะทิ้งสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมาไว้ข้างหลัง เพียงเพราะวันนี้กำลังเดินเข้าใกล้สิ่งที่เรียกว่า “อำนาจ” ใช่หรือไม่

ผมกำลังจะบอกว่า สิ่งที่พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้าพูดและทำเมื่อเล่นการเมืองนอกสภา หลายเรื่องสุดโต่ง ไม่สามารถนำมาปฏิบัติได้นั้น บรรดาแกนนำพรรครู้หมด

แล้วทำไมไปปลุกระดมให้เด็กๆ ฝังหัวในความคิดที่สุดโต่งเหล่านั้น
อาจจะเห็นความรับผิดชอบบ้างก็เรื่องที่ไปเป็นนายประกันให้เด็กๆ ที่มีคดีติดตัว

“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็รับเป็นนายประกันอยู่หลายคดี
ผลที่ได้คือ เด็กๆ ก็ยังติดอยู่กับพรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า ในทางการเมืองถือว่าประสบความสำเร็จ

แต่ที่เด็กๆ ควรรู้คือ คำพูดที่บอกว่าต้องล้างระบบการเมือง ต้องปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงจะแก้ปัญหาประเทศไทยนั้น ไม่ปรากฎเป็นหัวข้อในการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลเลย

สิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอทุกเวทีเลือกตั้งในวันนี้คือ ที่ดินทำกิน ค่าแรงขั้นต่ำ สวัสดิการเด็กแรกเกิด
เบี้ยผู้สูงอายุ

ที่ล้วนเป็นนโยบายประชานิยมทั้งสิ้น

0 replies on “หาเสียงหลอกเด็ก-ผักกาดหอม”