เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566-ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล 111 ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม จังหวัดปทุมธานี ในฐานะนายกสมาคมอบต.แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนอบต.จากภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ประมาณ 50 คน ขอเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อมาติดตามความความคืบหน้าการขึ้นค่าตอบแทนให้กับอบต.ทั่วประเทศ โดยมี นายพีระพันธ์ สาลีรัฐภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการเร่งรัดการปฏิบัติงานราชการ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีมาพบกับกลุ่มตัวแทนสมาคมอบต.ฯพร้อมทั้งได้หารือร่วมกัน
นายพีระพันธ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้รับทราบปัญหาของ อบต.ตามรายละเอียดที่แจ้งมา ก็ได้หน่วยงานรับผิดชอบรายงานความคืบหน้าการทำงาน ทราบว่าในช่วงที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและกำลังจะเสร็จสิ้นเร็วๆ นี้ เป็นการดำเนินการไปตามขั้นตอนอย่างเงียบๆ เพราะโดยปกติการทำงานไม่ได้อยากให้เป็นข่าวอยู่แล้ว เพราะดูที่เนื้องานมากกว่า แต่มีการแสดงความคิดเห็นในทางการเมืองขึ้นมาตามที่ทราบกันจึงอาจจะทำให้การดำเนินการสะดุด เพราะอาจจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อให้ชัดเจนที่สุด แต่ขอให้ทุกคนใจเย็น เพราะเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปพอสมควรแล้ว เชื่อว่าไม่มีปัญหาแม้อาจจะต้องใช้เวลาล่าช้าออกไปสักหน่อย จากการที่ถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง
“อยากให้ทุกคนใจเย็นๆ ผมทำอะไรทำจริง การที่เข้ามาดำเนินการเรื่องนี้ไม่ได้หวังเป็นอย่างอื่น ผมทำงานไปตามหน้าที่ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียน ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบโดยไม่ได้แทรกแซงหน่วยงานใด จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ด้วยว่าเมื่อเกิดปัญหากับตัวเราเองทุกคนก็เดือดร้อนเช่นเดียวกับชาวบ้าน จึงอยากให้ทุกคนทำงาน โดยนึกถึงชาวบ้านเป็นที่ตั้ง ขอให้ทำงานอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนก็อยากให้ปัญหาของตนได้รับการแก้ไขไปได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน”นายพีระพันธ์กล่าว
ด้าน ผศ.(พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า มาวันนี้มาให้กำลังใจนายกฯและเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ช่วยดำเนินการในเรื่องนี้มาโดยตอลด อยากบอกว่าเรื่องนี้ได้เกี่ยวกับการเมืองเลย งบประมาณที่ขอเพิ่มมาเป็นค่าตอบแทบอบต.ก็งบประมาณของท้องถิ่นเองจึงไม่อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นการเมือง วันนี้จึงอยากมาให้กำลังใจและมอบดอกไม้ให้กับนายกฯและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ลงมาเร่งรัดให้เรื่องนี้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่ การเสนอปรับอัตราค่าตอบแทนมีต้นเรื่องมาจากสมาคม อบต.ฯ ไม่ได้มาจากการเสนอปรับโดยกลไกทางการเมืองอย่างที่เป็นข่าว การเสนอปรับอัตราคำตอบแทน ได้กระทำอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.2557 จนถึงปีปัจจุบัน โดยใช้หลักการและเหตุผลความเท่าเทียมในหน้าที่ ภารกิจ และฐานะทางการคลัง เพื่อให้อัตราค่าตอบแทนเทียบเท่ากับเทศบาล และที่เคยเสนอไปล่าสุดเสนอในห้วงเวลาหลังการเลือกตั้ง อบต.เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2564 ไม่ใช่เพิ่งมาเสนอ ซึ่งทาง อบต. มีงบประมาณเพียงพอ ในการปรับอัตราค่าตอบแทนเพิ่ม โดยไม่กระทบงบประมาณด้านบริการสาธารณะของท้องถิ่นแต่อย่างใด