“พริบพรี-ราชบุรี-แม่กลอง” – เปลว สีเงิน

เปลว สีเงิน

“ตรุษจีน” ปีนี้ มาเร็ว
“ไทยโพสต์” ก็เร็ว ย้ายสู่บ้านใหม่ รับสุข รับโชค
บริษัท/ห้างร้าน และท่านที่เคารพนับถือ หลายต่อหลายท่าน ก็เร็ว
นำ “ต้าจี๋” ส้มสิริมงคล แห่งโชคลาภ และความสุข สีทอง ฉ่ำน้ำ อร่ามเรือง มามอบให้

ธรรมเนียมจีนนี่ ทุกอย่างแฝงความหมาย เป็นคติ เป็นปรัชญาชีวิต ลึกซึ้งมาก ไม่มีการสักแต่ว่าทำ

อย่างการมอบส้มเป็นสัญลักษณ์ความเป็นสิริมงคลแก่กันในวันตรุษจีน เขาจะมอบกัน ๔ ผล
ผู้รับ จะรับไว้ ๒ ผล
ส่วนอีก ๒ ผล คืนให้เจ้าของ บ่งบอกถึงความโอบเอื้ออารี มีน้ำใจเผื่อแผ่ต่อกัน มีอะไรก็แบ่งปันกัน ไม่เห็นแก่ตัว ไม่โลภไว้คนเดียว

การคืน ๒ ผล ก็เช่นนั้น
เมื่อเขานำความเป็นสิริมงคลมามอบให้ เราก็รับไว้ส่วนหนึ่ง แบ่งความเป็นสิริมงคลกลับคืนไปส่วนหนึ่ง
เพื่อสุขด้วยกัน มีโชคลาภด้วยกัน สิริมงคลบังเกิดด้วยกัน

ผมก็ไม่โลภนะ แต่ติดจะ “งก” อยู่ซักนิด
รับแล้วไม่ได้แบ่งคืนใครซักที คือไม่รู้ธรรมเนียมมาก่อน เพิ่งมาค้นดูตอนนี้แหละ

ทั้งที่ปู่ผมก็จีน “หางเปียยาว” ค่าที่บรรพบุรุษตกอยู่ในดงคนไทยที่อัมพวา ดำเนินสะดวก เลยเป็นจีนถูกไทยกลืนทั้งตัว

ฉะนั้น ตรุษจีนปีนี้…….
ผมขอตั้งสัจจาธิษฐานถึงท่านทั้งหลาย บริษัท/ห้างร้านทั้งหลาย

“ขอทุกท่าน ทุกธุรกิจการค้า” สมบูรณ์ทรัพย์ สมบูรณ์สุข โชคลาภ เงินทอง ไหลมา-เทมา กิจการค้ารุ่งเรือง “ถ้วนทั่วกันทุกท่านและทุกกิจการ”

แต่ท่านนี้ ไม่ได้ประกอบกิจการค้า หลังเกษียณก็ทำแต่งานเพื่อสังคม คือ “พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์” อดีตปลัดสำนักนายกฯ และอดีตรองผบ.ตร.

เมื่อวาน (๑๙ มค.๖๖) ท่านมาในฐานะอดีตนักเขียนคอลัมน์ “คุยเอกอัง ฟังเอกเล่า” ในไทยโพสต์
นำหนังสือในชื่อเรื่อง “คุยเอกอัง ฟังเอกเล่า” ที่เคยเขียนลงในไทยโพสต์นั่นแหละ แต่นำไปพิมพ์รวมเล่ม มามอบให้ ๑ เล่ม

ตอนลงในไทยโพสต์ คนจัดหน้าทำดูขี้เหร่ แต่พอรวมเป็นเล่มแล้ว สวยแฮะ
ต้องชมฝ่ายศิลปกรรม คนจัดรูปเล่ม แยกบท แยกส่วน หาภาพประกอบ เห็นแล้ว น่าจับ น่าต้อง เปิดดูแล้ว ต้องอ่าน

ยิ่ง “สำนักพิมพ์มติชน” เป็นผู้พิมพ์ด้วยแล้ว ความเป็นมืออาชีพ ต้องยกให้เขาเลย
พล.ต.อ.เอก บอกว่า ขายดีจนตกใจ

ทั้งซื้อเป็นเล่มไปอ่าน ซื้อหลายๆ เล่มไปแจก เช็คยอดแล้ว ขายได้กว่า ๑ ล้านบาท!
และท่านนำ “ทุกบาท-ทุกสตางค์” โดยไม่หักค่าใช้จ่าย มอบให้ “มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ” ทั้งหมด เรียบร้อยแล้ว

ผมมีส่วนร่วมอยู่นิด ในฐานะคนเขียนคำนำ ฟังแล้วปลื้ม ยุให้ท่านเขียนต่อ….
จะได้รวมเล่ม ขายเอาเงินมอบให้โรงพยาบาลอีก

ท่านก็รับปาก ว่าจะเขียนให้อีก
แต่จะมาแนวใหม่ ส่วนเป็นแนวไหน เมื่อไหร่ ผมมิกล้าคาดคั้น กลัวท่านจะเปลี่ยนใจ!

นอกจากหนังสือ….
ท่านมอบ “พระนิรโรคันตราย” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ ๖ และเป็นพระพุทธรูปประจำสี่มุมเมือง มอบอีก ๑ องค์

“พระนิรโรคันตราย” นี้ มีประวัติความเป็นมา “คู่บ้าน-คู่เมือง” น่าสนใจ คุยแล้วจะยาว เอาไว้โอกาสเหมาะๆ ค่อยว่ากัน

อีกท่าน ที่ต้องขอบคุณ “ผู้ช่วยศาสตราจารย์กิตติพงศ์ กมลธรรมวงศ์” ท่านนำส้มลูกดกมามอบให้ทั้งต้น เป็นความหมายว่า งอกงาม ร่ำรวย มั่งมีศรีสุข

ที่สำคัญ อาจารย์มอบหนังสือที่ท่านเขียน “การคุ้มครองสถาบันพระมหากษัตริย์ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและมาตรา ๑๑๒ ของประมวลกฎหมายอาญา” ให้อีก ๑ เล่ม

ผมจึงเรียนท่านล่วงหน้า ว่า…
“ขออนุญาตลอกงานเขียนของท่านมาใช้บ้างเป็นบางครั้ง-บางคราวนะครับ” ซึ่งท่านก็อนุญาต ต้องกราบขอบพระคุณไว้ตรงนี้ด้วย

หมดจากเรื่องผม มาถึงเรื่องเจ้าของหนวดทรง “คลาร์ก เกเบิล” คือคุณชูวิทย์บ้าง
ด้วยผลงานคุณชูวิทย์ ทำให้ตู้ห่าวกับพวก ได้รับอั่งเปาเป็น “ฎีกาคุก” ซองใหญ่ เรียบร้อยแล้ว

คือหลังจากอัยการสูงสุด “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” มีคำสั่งฟ้องตู้ห่าวกับพวกรวม ๔๑ ราย วันก่อน

เมื่อวาน (๑๙ มค.) อัยการฝ่ายคดียาเสพติด ๔ ได้นำคำฟ้องพร้อม ๒๓ จำเลย ไปยื่นฟ้องต่อ “ศาลอาญากรุงเทพใต้”
ในความผิดฐาน….

-สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท ๑
วัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ และประเภท ๔ โดยกระทำการในลักษณะเป็นการกระทำขององค์กรอาชญากรรม

-ร่วมกันจำหน่าย โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและโดยมีอาวุธปืน ทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

-ร่วมกันจำหน่าย โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท ๒ และประเภท ๔ โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และโดยมีอาวุธปืนทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชน

-สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน

-เป็นอั้งยี่ มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเป็นสมาชิกหรือเครือข่ายดำเนินงาน ขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

-ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

-ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

-ร่วมกันรับคนต่างด้าวทำงานโดยคนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตให้ทำงาน โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย

-ร่วมกันให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆให้คนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม

ครับ….
เป็นอันว่า เรื่อง “ฟ้องไม่ทัน” จบกันไป รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด “นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง” บอกว่า
โทษตามข้อหาเหล่านั้น สูงสุด “ประหารชีวิต”!

ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ตำรวจต้องตามจับมาให้ทันภายใน ๓๐ ปี เพราะอายุความของคดี มี ๓๐ ปี

ส่งฟ้องแล้ว “ตำรวจ-อัยการ” ใช่ว่าจบภารกิจในคดีนี้แค่นี้ หากแต่ท่านอสส.มีคำสั่ง” ตั้งคณะทำงาน” ในการดำเนินคดีตามติดต่อไปอีกด้วย!

เห็นอัยการสูงสุด “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” ทำงานจริงจัง ไม่เว้นเสาร์-อาทิตย์ โดดลงมาคุมด้วยตัวเอง จี้กัน “รายตัว-รายแผ่น” สำนวนสอบสวน เช่นนี้

ผม-ในฐานะประชาชน ปลื้มและอบอุ่นใจครับ
ไม่เคยมีทัศนคติดีๆ เกิดกับอัยการในภาพรวมมาก่อน

เพิ่งยุคนี้แหละ ยุคที่ “น.ส.นารี ตัณฑเสถียร” เป็นอัยการสูงสุด
โชคดีของสำนักงานอัยการ….
ที่ได้อสส.ท่านนี้มาผดุงและดึงดูดความเชื่อถือจากประชาชนกลับคืนมาบ้าง

และประชาชนก็หวังว่า….
จะไม่ได้ยินคำว่า “ยกฟ้อง” ซ้ำรอยคดีศูนย์เหรียญ, คดีหลงจู๊สมชาย เพราะสำนวนอ่อน หลักฐานไปไม่ถึง ต้อง “ยกประโยชน์ให้จำเลย” นะครับ!

ผมก็เรื่อยละรายทางจนไม่ได้คุยเป็นเนื้อ-เป็นหนัง งั้นก็เอาซะหน่อย

เรื่อง “น้องตู่” กับ “พี่ป้อม” ที่สื่อ และเกจิหน้าจอ “โปรโมท” ให้เป็น “ศัตรู-คู่แข่ง” ที่ต้องตายกันไปข้างในสงครามพรรคนั่นแหละ

พี่ป้อมไปราชบุรีก่อนหน้าวัน-สองวัน เมื่อวาน น้องตู่ก็ไปเปิดงานตรุษจีนที่ราชบุรี
ราชบุรี มีสส.๔-๕ คนมั้ง ผมจำไม่ได้

ก็คงแย่งกัน ๓-๔ พรรค ทั้งพลังประชารัฐ, ภูมิใจไทย, ประชาธิปัตย์ และรวมไทยสร้างชาติ ของคุณพีระพันธุ์ ที่นายกฯเป็นสมาชิกพรรค

สรุปแล้ว พรรคไหน จะได้ใครเป็นตัวลงสมัครบ้าง ผมไม่ทราบ เพียงทราบตามสายเลือดคนลำน้ำแม่กลอง ลำน้ำเพชร ว่า

คนเพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม นักเลงหรือเปล่าไม่รู้รู้แต่เป็นคนพูดจาโผงผาง ปากกับใจตรงกัน
รักก็บอกรัก เกลียดก็บอกเกลียด เสแสร้งไม่เป็น

เหมือน “นายกฯประยุทธ์” เป๊ะ!
ฉะนั้น เพชรบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม มีความรู้สึกกับลุงตู่อย่างไร ผมไม่ต้องบอก

อยากบอกแต่ว่า ไปราชรีทั้งที
ทำไมนายกฯ ไม่แฉลบเข้าสมุทรสงครามบ้านผมซักหน่อย “คนแม่กลอง” น้อยใจแล้วนะ!

เปลว สีเงิน
๒๐ มกราคม ๒๕๖๖

Written By
More from plew
“เลือกตั้ง” ไม่เท่า “สติตั้ง” – เปลว สีเงิน
คลิกฟังบทความ…? เปลว สีเงิน มี “พระราชกฤษฎีกา”………. ประกาศ “ยุบสภาผู้แทนราษฎร” แล้ว ตั้งแต่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๖๖...
Read More
0 replies on ““พริบพรี-ราชบุรี-แม่กลอง” – เปลว สีเงิน”