10 มกราคม 2565-นางสาวชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดตัวสมัครเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 ที่ผ่านมาว่า ไม่ปัง พรรคใหม่ของพลเอกประยุทธ์มีนักการเมืองหลายคนที่เคยเป็น กปปส. เป่านกหวีดเรียกร้องการรัฐประหาร
วันนี้ผู้เคยเรียกร้องการรัฐประหารกับหัวหน้าคณะรัฐประหารมาทำงานร่วมกันอีก การเปิดตัวของพลเอกประยุทธ์เมื่อวานนี้ พรรคเพื่อไทยไม่หวั่นไหว ส่วนตัวไม่ให้ราคา ขอให้มาสู้กันในสนามเลือกตั้งให้พี่น้องประชาชนตัดสิน ทั้งนี้ตนมีข้อสังเกตดังนี้
1.พลเอกประยุทธ์ ได้กระทำผิดมารยาททางการเมืองอย่างร้ายแรง เพราะขณะนี้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แต่ไปประกาศเปิดตัวอย่างเอิกเกริกสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งถือเป็นเรื่องแปลกประหลาดทางการเมือง
ไม่มีใครทำเหมือนพลเอกประยุทธ์มาก่อน แต่จะคาดหวังจากคนที่เคยยึดอำนาจ ฉีกรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการกระทำที่เป็นกบฏ ก็คงเป็นความคาดหมายที่สูงเกินไป พลเอกประยุทธ์ที่เป็นแคนดิเดทนายกฯ พปชร. มีความสำนึกต่อพี่น้องประชาชนที่เลือก พปชร.หรือไม่ว่าจะรู้สึกอย่างไร นโยบายที่ พปชร.หาเสียงไว้แต่ทำไม่สำเร็จ จะรับผิดชอบอย่างไร
2.พลเอกประยุทธ์มีพฤติกรรมย้อนแย้งจนหยดสุดท้าย เคยบอกว่าตนเองไม่ใช่นักการเมือง แต่คนไทยรู้แล้วว่าเป็นนักการเมืองเต็มตัว เมื่อวานประกาศว่าไม่ต้องการอำนาจ แต่กลับมีพฤติกรรมเสพติดอำนาจ อยู่มา 8 ปี และยังกระเสือกกระสนจะอยู่ต่ออีก 2 ปี
อ้างว่าเคารพกระบวนการประชาธิปไตย แต่จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่อำนาจของพลเอกประยุทธ์ คือในฐานะหัวหน้าคณะรัฐประหาร ที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน บอกความสงบจบที่ลุงตู่ ตอนนี้เป็นอย่างไร
พลเอกประยุทธ์ ประเมินตนเองสูง แต่ประเมินความอดทนของประชาชนตำ่เกินไป ไม่ประเมินความเสียหายที่ตัวเองได้ก่อขึ้น มาตลอด 8 ปี เช่น ล้มเหลวในการปราบปรามทุจริต ล้มเหลวในการจัดการทุนจีนสีเทา ปากบอกว่าตนเองสุจริต แต่คนแวดล้อมมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริตใช่หรือไม่
ล่าสุดแต่งตั้งนายเสกสกล อัตถาวงศ์ เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐนตรี ทั้งที่มีกรณีคลิปเสียงนายแรมโบ้ขอยืมเงินสมาชิกพลังประชารัฐเพื่อนำไปจับกุมลอตเตอรี่รายหนึ่งที่ยังไม่กระจ่างในข้อเท็จจริงจนต้องลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ทั้งเมื่อวานยังตั้งคนในพรรค รทสช. หลายคนมาเป็นที่ปรึกษาตัวเอง
ถือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบและมีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมืองใช่หรือไม่ หรือแม้กระทั่งเรื่องหลานชายของพลเอกประยุทธ์ ที่ถูกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดโปงว่ามีความเกี่ยวพันกับนายตู้ห่าว ก็ยังไม่ชัดเจน
พลเอกประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ทุจริตเฟื่องฟู ยาเสพติดระบาดเกลื่อนเมืองอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน คนไทยตกทุกข์ได้ยาก เพราะวิกฤตเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนท่วม ก่อหนี้ประเทศสูงสุดในประวัติศาสตร์ คนยากจนพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เกิดการเมืองแจกกล้วยย้อนยุคไปก่อนปี 2540 อย่างนี้หรือที่พลเอกประยุทธ์ยังอยากจะไปต่อ
“ความฝันของพลเอกประยุทธ์อยากเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี แต่สวนทางความฝันของคนจำนวนมากที่ไม่อยากเห็นพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯอีกต่อไป ดูจากผลโพลของนิด้าล่าสุดที่พลเอกประยุทธ์ได้คะแนนความนิยมแค่ 14% แต่แคนดิเดทเพื่อไทยอยู่ที่ 34% ดีที่พลเอกประยุทธ์จะเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
ประชาชนรอวันพิพากษาอนาคตทางการเมือง อย่าถอดใจยุบสภาหนีการอภิปรายตามมารา 152 ไปเสียก่อน พรรคเพื่อไทยพร้อมเปลือยตัวตนของพลเอกประยุทธ์ก่อนเข้าสู่สนามเลือกตั้ง” นางสาวชญาภา กล่าว