นายกฯ เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม จ.นครปฐม

นายกฯ เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม จ.นครปฐม ครั้งที่ 19 เทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 6 เชิญชวนคนไทยเที่ยวชมงาน อุดหนุนสินค้า ส่งมอบความสุขเทศกาลปีใหม่ ด้วยผลิตภัณฑ์จากสินค้าชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ธ.ค. 65) เวลา 17.30 น. ณ บริเวณลานหน้าพระร่วงโรจนฤทธิ์ องค์พระปฐมเจดีย์ ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 19 ประจำปี 2566 โดยมีพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม ผู้บริหาร ข้าราชการ และประชาชน เข้าร่วมงาน ซึ่งจัดโดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในจังหวัดนครปฐม

เมื่อนายกรัฐมนตรีเดินทางมาถึงพระวิหารพระร่วงโรจนฤทธิ์ ได้วางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระร่วงโรจนฤทธิ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวจังหวัดนครปฐม จากนั้นวางพวงมาลัย และจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธรูปปางประสูติ พร้อมวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมราชสรีรางคาร รัชกาลที่ 6 พระสรีรางคารพระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี และพระสรีรางคารสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีเข้ากราบนมัสการพระเทพมหาเจติยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 รองเจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ เพื่อความเป็นสิริมงคล

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชมการแสดงชุด“ระบำภูษาปูรณะฎาศรีทวารวดี” โดยศูนย์วัฒนธรรมตำบลลำเหย การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ชุด “พระรามตามกวาง” โดยวิทยาลัยนาฏศิลป์ สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม พร้อมกล่าวยินดีที่ได้มาเปิดงาน เพื่อเทิดพระเกียรติและรำลึกถึงพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาณาประชาราษฎร์ ตลอดจนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวมาโดยตลอด

ทั้งการนำทุนทางวัฒนธรรมในพื้นที่มาพัฒนาต่อยอด สร้างสรรค์ ให้เกิดการท่องเที่ยวด้านศิลปวัฒนธรรม รวมถึงสืบสานมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นให้ดำรงอยู่ ให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออกถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรมไทย โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนคนไทยมาเที่ยวชมงานมหาธีรราชเจ้ารำลึกฯ และร่วมกันอุดหนุนสินค้าในงาน ส่งมอบความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ด้วยผลิตภัณฑ์จากสินค้าชุมชน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ ที่ทุกคนต้องเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แบ่งปันรายได้ อยู่ด้วยความรักและความสามัคคีกัน

ซึ่งทุกคนล้วนแล้วแต่อาศัยอยู่ในแผ่นดินของเรา ก็คือประเทศไทยขวานทองแห่งนี้ มีอารยธรรม ประวัติศาสตร์ และเราทุกคนต้องยึดมั่นในแกนหลักของคือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมทั้งสิ่งที่ทุกคนต้องสำนึก คือการสืบสานต่อยอด ร่วมกันสร้างจิตสำนึกให้แก่ลูกหลานของเรา เป็นผ้าที่ขาวสะอาดไม่เปรอะเปื้อน ต้องปลูกฝังเยาวชนให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ รักความเป็นไทย รักสถาบันพระมหากษัตริย์

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีฝากความหวังให้คนไทยร่วมกันเดินไปข้างหน้า รัฐบาลพร้อมดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทั้งเศรษฐกิจฐานรากและความเป็นอยู่ของประชาชน ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงใยในสุขภาพของประชาชนที่เดินทางมาเที่ยวในงาน โดยย้ำขอให้รักษามาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล หรือ Universal Prevention For COVID-19 ในช่วงสถานการณ์โควิด -19 ด้วย

จากนั้น นายกรัฐมนตรีลั่นฆ้องชัยเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเปิดงานและร่วมถ่ายภาพหมู่เพื่อเป็นที่ระลึก ก่อนเยี่ยมชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมพบปะประชาชน และผู้ประกอบการร้านค้าภายในงานอย่างใกล้ชิด

สำหรับงานมหาธีรราชเจ้ารำลึกมหกรรมวัฒนธรรมจังหวัดนครปฐม ครั้งที่ 19 ประจำปี 2566 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 ธันวาคม 2565 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2566 โดยมีกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงถวายราชสักการะ พิธีสงฆ์ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว การแสดงทางวัฒนธรรม

เช่น การแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้าน การแสดงดนตรีร่วมสมัย การเสวนาทางวิชาการ การจัดกิจกรรมสาธิตและนิทรรศการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมในจังหวัดนครปฐม การประกวดบทเพลงเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐม เป็นต้น

0 replies on “นายกฯ เปิดงานมหาธีรราชเจ้ารำลึก มหกรรมวัฒนธรรม จ.นครปฐม”