เปิดปฏิบัติการช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

ตามที่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้รับรายงานจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ หลังชาวบ้านในพื้นที่พบลูกช้างป่าพลัดหลงจากฝูง ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 ในพื้นที่ ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี ชาวบ้านได้สร้างคอกไม้ไผ่ขนาดเล็ก เพื่อรอฝูงช้างป่าให้เข้ามารับลูกช้างป่าพลัดหลงตัวดังกล่าว แต่ยังไม่พบฝูงช้างป่ามารับแต่อย่างใด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่เข้าช่วยเหลือ

จากนั้นนายอนันต์ โพธิ์พันธ์ุ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 ได้ให้เจ้าหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกปฏิบัติการช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง ตามลำดับเหตุการณ์ ดังนี้

เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2565 นายไชยวุฒิ อารีย์ชน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ประสานงานขอสนับสนุนทีมสัตวแพทย์ ประจำ สบอ.3 (บ้านโป่ง) เข้าประเมินสุขภาพลูกช้างป่า

ต่อมานายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้ประชุมทีมสัตวแพทย์และเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสุขภาพสัตว์ป่า และสัตวแพทย์ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่า จัดเตรียมอุปกรณ์การรักษาในเบื้องต้นและเดินทางเข้าพื้นที่ภายในวันดังกล่าว ถึงพิกัดที่พบลูกช้างป่า ในช่วงค่ำจึงทำการประเมินอาการสุขภาพและเข้าทำการรักษา

เบื้องต้น พบว่าเป็นลูกช้างป่าพลัดหลง เพศเมีย จำนวน 1 ตัว อายุประมาณ 1 เดือนเศษ น้ำหนักโดยประมาณ 130-150 กิโลกรัม มีสภาพอ่อนแรงมาก ขาดน้ำรุนแรง ถ่ายเหลว มีเยื่อเมือกซีด พบแผลหลุมในช่องปาก พบแผลแมลงวันวางไข่บริเวณปลายริมฝีปากล่างและใบหู พบรอยขีดข่วนบริเวณลำตัว ได้การให้นมผงชนิดเอนฟาแลคผสมยาขับลมไกรวิเตอร์ ทุก 1 ชม. และให้สารน้ำเข้าหลอดเลือดดำ วันที่ 30 พ.ย. 2565 ทำการรักษาต่อเนื่อง ตามแผนการรักษาของทีมสัตวแพทย์

ขณะเดียวกัน ทีมสัตวแพทย์และคณะเจ้าหน้าที่ ได้ประชุมเพื่อประเมินแนวทางการรักษา พบปัญหา อุปสรรคด้านพื้นที่ เดินทางเส้นทางชัน (เดินขึ้นเขา) ป่ารกทึบ ไม่สามารถใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ได้ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ทีมสัตวแพทย์ ลงความเห็นว่า ควรนำลูกช้างป่าพลัดหลงตัวดังกล่าว มาดูแลรักษาเบื้องต้น ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก เนื่องจากมีทีมสัตวแพทย์จากสบอ.3 (บ้านโป่ง ) สัตวแพทย์จากส่วนกลางกรมอุทยานฯ รวมทั้งยารักษา และอุปกรณ์ที่มีความพร้อม สะดวกในการเดินทาง และระยะทางการเคลื่อนย้ายใกล้กว่าพื้นที่อื่นๆ จะทำให้การรักษามีผลดีต่อสุขภาพของลูกช้าง เพราะไม่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ภายในเร็ววัน โดยลงความเห็นว่า ควรใช้เฮลิคอปเตอร์เข้า ขนย้ายลูกช้างป่าดังกล่าว

โดยวันนี้ ( 3 ธันวาคม 2565) เวลา 8.00 น. เฮลิคอปเตอร์ทหาร ภายใต้การกำกับการของ พลตรี วุทธยา จันทมาศ ผบ.กกล.สุรสีห์ พ.อ.รณวรรณ พจน์สถิตย์ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า พ.อ.ธัชเดช อาบัวรัตน์ รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า และพันเอกธัชเดช อาบัวรัตน์ รองเสนาธิการกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ยกตัวเคลื่อนย้ายลูกช้างจาก พื้นที่ป่าในเขต ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี

โดยมีการควบคุมการเคลื่อนย้ายบนเฮลิคอปเตอร์ จากทีมสัตวแพทย์ จำนวน 3 ท่าน (สพ.ญ.ลักขณา ประสิทธิชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สพ.ญ.กนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการพิเศษ สอป.สบอ.3 (บ้านโป่ง) สพ.ญ.ณฐนน ปานเพ็ชรนายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก) ใช้เวลาการบินประมาณ 30 นาที มายังพิกัดจุดลง ฮ. ณ โรงเรียนวัดคอกช้าง ต.องค์พระ อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี

เวลา 10.00 น. เฮลิคอปเตอร์ถึงโรงเรียนวัดคอกช้างโดยปลอดภัย เวลา 10.30 น. เคลื่อนย้ายลูกช้างโดยรถบรรทุกขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นรถย้ายสัตว์ป่าโดยเฉาะซึ่งมีตู้ควบคุมอุณภูมิและอุปกรณ์กู้ชีพเบื้องต้น เดินทางโดยรถยนต์ ระยะ 120 กิโลเมตร (ประมาณ 2 ชั่วโมง) เพื่อนำลูกช้างไปทำการรักษา ณ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก และศูนย์ พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก จ.สุพรรณบุรี โดยจะได้นำลูกช้างส่งต่อเพื่อพักรักษาตัว ณ อาคารอเนกประสงค์ซึ่งเตรียมความพร้อมสถานที่โดยการฆ่าเชื้อโรคเรียบร้อย และมีความพร้อมด้านยารักษา อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ ทำการวางแผนการรักษาฟื้นฟูลูกช้างต่อไป

ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

Written By
More from pp
ถ่ายเป็นเลือด สัญญาณเตือนโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
หลายคนอาจเข้าใจว่าการถ่ายเป็นเลือด เป็นอาการของโรคริดสีดวงทวารเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ทันคิดว่านี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องหมั่นสังเกตอาการและมาปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
Read More
0 replies on “เปิดปฏิบัติการช่วยเหลือลูกช้างป่าพลัดหลง อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี”