เปลว สีเงิน
ไม่ต้องเข้าเครื่อง “จับเท็จ”…….
แค่อาการ “ปากแข็ง-ขาสั่น” ของเพื่อไทย ก็เท่ากับรับสารภาพอยู่ในตัวแล้วว่า
ที่โม้ จะ “แลนด์สไลด์” นั้น
แค่ “ราคาคุย”!
ถ้ามั่นใจว่าคนไทย โดยเฉพาะในภาคอีสาน “หลอกได้” จะต้องไปท้าตี-ท้าต่อยกับพรรคภูมิใจไทยเขาทำไม?
ก็เพราะรู้จากโพลภายในพรรคแล้วละซีท่า …..
ว่าที่จะ “แลนด์สไลด์” เลือกตั้งครั้งหน้า นั้น ไทยเหมือนกัน
แต่ไม่ใช่ “เพื่อไทย”
กลับเป็น”ภูมิใจไทย”!
ก็เพราะชู “ชายกระโปรง” อุ๊งอิ้งเป็นธงชัย “รวยแล้วไม่โกง” นั่นแหละ ชายธงมันสะบัดเข้าลูกตา
เลยพากันเหยียบเปลือกกล้วย แทนที่จะแลนด์ไสลด์ หน้าเลยไถลจิ้มตูดควายไปทั้งคอก
ปล่อยให้ภูมิใจไทย ใช้พลังกัญชา “พูดแล้วเข้าไปทำ” ดึงศรัทธาได้มากกว่าพรรคที่ “โม้แล้วเข้าไปโกง”!
เพื่อไทยตอนนี้….
ด้วยความเป็นปลาน้ำตื้น แต่หลงว่าเป็นฉลามน้ำลึก จึงใช้สายตาปลากระดี่ แถกเหงือกมองว่า “พลังประชารัฐ” หมดน้ำยา ที่จะขึ้นมาเป็นคู่แข่งแล้ว
จึงเล็งไปที่ภูมิใจไทยพรรคเดียว และดูจะกลัวเอามากๆ ด้วย ไม่งั้น ไม่ผวาถึงขั้นหยิบประเด็นกัญชาไปหาเรื่องยื่นยุบพรรคเขาหรอก
เรื่องยุบพรรคนั่นน่ะ เอากันจริงๆ ตามพฤติกรรมที่เห็นพรรคเพื่อไทยกับก้าวไกลนั่นแหละ เข้าข่ายมาตราน่าจะถูกยุบมากกว่า
เพื่อไทย ก็ตามมาตรา ๒๘-๒๙ พรบ.พรรคการเมือง ที่ว่า….
มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทำการใดอันทำให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงำ
หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
มาตรา ๒๙ ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมือง ในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม
จากพฤติกรรมที่เห็นตำตาหน้า “คลับเฮาส์”
มีใครเชื่อว่า “ทักษิณ” ไม่ได้ครอบงำพรรคบ้าง
และมีใครเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้ยินยอมให้ทักษิณครอบงำบ้าง?
ส่วนก้าวไกล การมุ่ง “ยกเลิกมาตรา ๑๑๒” นั้น เมื่อดูตามมาตรา ๙๒ ของพรบ.พรรคการเมือง ก็น่าเข้าข่าย
มาตรา ๙๒ เมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(๑)กระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(๒) กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(๓) กระทำการฝาฝืนมาตรา ๒๐ วรรคสอง มาตรา ๒๘ มาตรา ๓๐ มาตรา ๓๖ มาตรา ๔๔ มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๗๒ หรือมาตรา ๗๔….ฯลฯ…..
มาตรา ๔๔ ระบุว่า….
“ห้ามมิให้พรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง และสมาชิกรับบริจาคจากผู้ใดเพื่อกระทำการหรือสนับสนุนการกระทำอันเป็นการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน”
ก็ลองคิดกันดูซิว่า…..
ที่พรรคก้าวไกล หมกมุ่นแต่เดินหน้าแก้ไข “ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒” นั้น
เข้าตาม(๒)ที่บอกว่า “กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” หรือไม่?
และเข้าตามมาตรา ๔๔ ว่าด้วยการบ่อนทำลายความมั่นคงของราชอาณาจักร ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน” หรือไม่?
ก็ฝากให้ชลน่านและทีมกฎหมายเพื่อไทย ซึ่งมีความสนใจเรื่องยุบพรรค ช่วยพิจารณาตามนี้ด้วย
เดี๋ยวชาวบ้านเขาจะนินทา…
ว่าเที่ยวเพ่งเล็งโทษแต่พรรคอื่นเขา แต่พรรคตัวเองกับพรรคพวก กลับละเลยที่จะตรวจสอบ ก็จะเข้าตำรา “หมาไม่กินเนื้อหมากันเอง”!
รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข “นายอนุทิน ชาญวีระกูล” นั้น จากปีแรกที่เป็นรัฐมนตรี ถึงปีนี้ เห็นชัดว่า ท่านเปลี่ยนแปลงในทางพัฒนาขึ้น ชนิดเป็นคนละคน
แรกๆ การพูดจาท่านออกไปทาง “ผลไม้ยังบ่มไม่สุก” คือกระเดียดทาง ห่าม ห้าว โอหัง และอวดตัว
แต่คงด้วยภาระรับผิดชอบในงานอย่างหนึ่ง ด้วยประสบการณ์สร้างเสริมวุฒิภาวะอีกอย่างหนึ่ง
และทำงานกับนายกฯ ที่มุ่งงาน มุ่งประโยชน์ชาติ และมุ่งประโยชน์ประชาชชน โดยไม่แบ่งแยกอีกอย่าง
เหล่านี้ บ่มให้คุณอนุทิน เป็นผลไม้สุก “ตามธรรมชาติ-ตามกาลเวลา” จึงหอมหวาน ได้รส ได้กลิ่น ได้คุณภาพ ตามธรรมชาติ
มิใช่สุกแบบ “แก๊ซบ่ม” แค่ผิวดูสวย แต่รสชาติ-เนื้อใน กินไปก็เสียลิ้น!
ในรอบสัปดาห์ จึงเห็นคุณอนุทิน ใช้วุฒิภาวะผู้ใหญ่ตอบรับ “วุฒิภาวะอันธพาล” จากพรรคเพื่อไทย ได้สมกับคำว่า “ภูมิใจไทย”
อย่างเมื่อวาน (๑๘ ตค.๖๕) นักข่าวถาม กรณี “ชลน่าน” หัวหน้าเพื่อไทย จะยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย
คุณอนุทิน ตอบแบบผู้ใหญ่อบรมมรรยาทเด็กให้รู้จักหน้าที่ ผมจะยกมาให้อ่าน ประมาณนี้นะ
นักข่าว:นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะยื่นยุบพรรคภูมิใจไทย?
อนุทิน:มีคนมาเล่าเรื่องดังกล่าวให้ผมฟัง นักการเมืองด้วยกันอย่ามาจ้องทำลายกันเลย
จะเข้ามาในสภาหรือแลนด์สไลด์ อยากให้เข้ามาด้วยการแข่งกันทำดีให้กับประชาชน นี่คือสิ่งที่ควรทำ
ไม่ควรมาคุ้ยหาเรื่องเล็กน้อย และมาทำลายกัน มันไม่มีประโยชน์อะไร ทั้งนี้ ภูมิใจไทยยืนยันว่า “ไม่ได้ทำผิดอะไร”
“โดยเฉพาะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างว่า…คงยังไม่มีภาวะผู้นำเท่าไหร่ ตอนนี้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ต้องทำตัวให้เป็นหัวหน้าพรรค”
นักข่าว:หัวหน้าพรรคไม่มีวุฒิภาวะ หมายถึงอยากให้เปลี่ยนตัวหัวหน้า ใช่หรือไม่?
นายอนุทิน:ไม่ใช่พรรคผม แต่คนเป็นผู้นำ ต้องมีวุฒิภาวะสูง อันนี้สำคัญมาก
นักข่าว:ล่าสุด นพ.ชลน่านบอก จะไม่ยุบพรรคแล้ว ภูมิใจไทยจะยังตอบโต้กลับอยู่หรือไม่?
อนุทิน:ไม่มีตอบโต้อะไรกลับแล้ว ใกล้จะเลือกตั้งอยู่แล้ว และนโยบายกัญชาก็ส่งให้กกต.ได้ตรวจสอบมาก่อนที่จะไปหาเสียงเลือกตั้งแล้ว ตั้งแต่ปี ๖๒
และบรรจุอยู่ในการแถลงนโยบายของรัฐบาล ตอนที่นายกฯเข้ามารับตำแหน่ง
ดังนั้น นโยบายทางการแพทย์อยู่ในวาระเร่งด่วนของรัฐบาลนี้ ซึ่งทุกอย่างมีความชัดเจนอยู่
อย่างที่กล่าว ถ้าเราจะชนะใคร ต้องชนะด้วยฝีมือ
การแข่งขันทำความดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้ประชาชน เพื่อให้พวกเขาเป็นผู้ตัดสินใจเลือกคนเข้ามาทำหน้าที่ เพื่อความสงบของบ้านเมือง
ไม่ใช่มาแต่ละดอก ท้าตีรันฟันแทง เราไม่สู้หรอก ภูมิใจไทยเล็กกว่าอยู่แล้ว
เอาฝีมือเทียบกันดีกว่า….
ว่าใครรับใช้ประชาชนมากกว่าใครทำงานให้ประชาชน ให้ประเทศชาติ และหากจะมายุบพรรคเรื่องนี้ ระหว่างภูมิใจไทยและเพื่อไทย ใครทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
ผมไม่สนใจเรื่องความขัดแย้ง เทิดทูนสถาบัน พรรคภูมิใจไทยอยู่ในครรลองครองธรรมนี้มาตลอด
นักข่าว:หากทะเลาะกับพรรคเพื่อไทยแบบนี้ จะไม่สามารถจับมือกันได้ใช่หรือไม่?
อนุทิน:ไม่ได้ทะเลาะ
นักข่าว:แต่พรรคเพื่อไทยเตรียมที่จะยื่นยุบถือเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ใช่หรือไม่?
อนุทิน:บอกแล้วว่าอย่ามาแกล้งพรรคภูมิใจไทยเพราะเราไม่เคยไปวุ่นวายกับใคร เราต้องการทำงานให้บ้านเมือง
นักข่าว:แสดงว่าจะไม่ปิดประตูในการร่วมงานกันใช่หรือไม่?
อนุทิน:ถือเป็นเรื่องไร้สาระ เราไม่ได้ทำผิดตามที่เขากล่าวร้ายแน่นอน ฉะนั้นอย่าไปเสียเวลาคิด
เอาเท่านี้พอ……..
ทำไมทักษิณจึงวางตำแหน่งชลน่านแค่ “ขนมจีน”
เพราะ “ไม่มีน้ำยา” นั่นเอง!
เปลว สีเงิน
๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๕