สันต์ สะตอแมน
“…ถ้าประยุทธ์ต้องลี้ภัย ก็มาเช่าบ้านผมอยู่ได้ แล้วผมจะกลับไปเมืองไทยแทน…”
ลองถ้าเพ้อถึงขั้นนี้ ผมว่าหมอชลน่านช่วยกรุณากระซิบนายเหนือหัวเถอะ.. “พอได้แล้วครับนาย”!
นี่ไง.. “พูดจาปากไม่เชื่อมสมอง” ของแท้ล่ะ ถ้าขี้ข้า-หมาในคอกไม่บอก-ไม่ช่วยกันปรามหรือร้องขอให้ “พอได้แล้ว” ก็เกรงโทนี่ จา เอ๊ย โทนี่ วู้ดซัม จะยิ่งพูดจาเลอะเทอะเลื่อนเปื้อนไปกว่านี้
และสมน้ำหน้า ที่ “แรมโบ้” คุณเสกสกล อัตถาวงศ์ จะได้สวนเอาจนจุก-เจ็บ.. “เก็บบ้านเช่าไว้ให้คนตระกูลชินวัตรจะดีกว่า เผื่อลูกสาวอุ๊งอิ๊งอาจจำเป็นต้องใช้ ตามไปอยู่ด้วย”
ก็..เข้าใจล่ะนะ อยู่กับความเหงา ความเครียดมาจะร่วม 20 ปี เป็นใครก็ต้องมี “วิปลาส” ไปบ้าง ซึ่งหนทางที่จะช่วยได้ไม่ใช่หมา 50 ตัวในคอก หากแต่คนรอบข้างที่คอยยกยอปอปั้นนั่นแหละ..
แค่หยุด “เห่าคลับ” เลิกยกยอปอปั้นลงชั่วครู่-ชั่วยาม บางทีอาจจะพอทำให้นายเหนือหัว “พูดจาปากเชื่อมสมอง” ขึ้นมาได้บ้างนะ?
ครับ..เรื่องพูดเป็นงานเป็นการและควรรับฟังต้องท่านนี้ รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต
วานนี้..ท่านว่า “ในช่วง 3 เดือนนี้ คือ เดือนกันยายน , ตุลาคม และพฤศจิกายน ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนตกหนักมากขึ้น และระยะเวลายาวขึ้น ซึ่งไม่รู้ว่าพายุจะเข้าช่วงไหน
จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าพายุปีนี้อาจเข้าไทย 2-3 ลูก อาจจะมีโอกาสเป็นฝนในรอบ100 ปี เพราะดูจากสถานการณ์ฝนที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เป็นฝนรอบ 80 ปี
ซึ่งกรุงเทพฯสมัย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เป็นผู้ว่าฯ กทม. เคยมีฝนตกรอบ 100 ปี และปัจจุบันโอกาสจะเกิดฝนตกหนักเช่นนั้นก็มีมาก ดูจากสถานการณ์ฝนปีนี้ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศ
ดังนั้นสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เหมือนปี 2554 มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะปริมาณน้ำฝนเท่ากัน
องค์กรนานาชาติด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ได้ทำแผนที่พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่า จะจมหายไปจากแผนที่โลกในปี ค.ศ.2100 แบบ 100% เพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน
ขณะนี้ได้ขึ้นรหัสโค้ชเรด เตือนประเทศไทยแล้ว ถ้ารัฐบาลยังไม่ตัดสินใจทำอะไรป้องกันก็ต้องเตรียมย้ายเมืองหลวงได้เลย เพราะหากตัดสินใจวันนี้จะใช้เวลาอีก 30 ปีกว่าจะแก้ไขได้..
สำหรับนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. จะต้องชี้แจงข้อมูล เปิดเผยแผนการรับมือต่างๆให้คนกรุงเทพฯรับทราบและเกิดความเข้าใจถึงสถานการณ์ฝนที่จะตกหนักมากขึ้นต่อเนื่องจากนี้
เพื่อจะได้เตรียมป้องกันตนเองก่อน รัฐบาลด้วยอย่ารอใช้แต่มาตรการเยียวยาช่วยเหลือเพราะการป้องกันย่อมดีกว่าปล่อยให้ประชาชนทะเลาะกันเอง อย่ากลัวว่าจะตื่นตระหนก
ซึ่งคนที่ตื่นตระหนกคือคนที่รอดเพราะทุกคนล้วนเคยมีประสบการณ์จากปี 54มาแล้ว”
เป็นไง..ฟังแล้วยังจะมีอารมณ์ “ไล่ประยุทธ์” อยู่อีกก็เอาตามที่พี่สบายใจเถิด ส่วนพล.อ.ประยุทธ์น่ะ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม..
ป่านนี้คงจะได้รับคำบัญชาจากรักษาการนายกรัฐมนตรี ให้มีคำสั่งทหารเตรียมพร้อม เพื่อรับมือกับน้ำท่วมใหญ่ในห้วง 3 เดือนจากนี้แล้ว
คุณชัชชาติ ก็อย่าว่าโง้น-งี้เลย ควรพักงานพีอาร์ (ตัวเอง) ไว้สักประเดี๋ยว ทำตามที่ดร.เสรีแนะ..รีบชี้แจงข้อมูล เปิดเผยแผนการรับมือต่างๆให้คนกรุงเทพฯรับทราบเสียแต่บัดเดี๋ยวนี้!
ผม..ไม่รู้เป็นไง ได้ยินดร.เสรี ศุภราทิตย์ พูดเรื่องน้ำท่าทีไร รู้สึกใจคอห่อเหี่ยวไปเสียทุกครั้ง ยิ่งพูดถึงกรุงเทพจะจมหายไปจากแผนที่โลกในปี ค.ศ.2100 แบบ 100% ด้วยแล้ว
บอกตามตรง..แทบหมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากคิด-หวังอะไรอีกต่อไป แต่มานั่งคิดอีกที อีกตั้ง 78 ปีแน่ะ ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่ผมหรือท่านผู้อ่านเลย..
เด็กรุ่น 3 กีบก็แทบไม่มีหลงเหลือให้ยืนถือป้าย.. “ปล่อยเพื่อนกู”อยู่หน้าศาลแล้ว แล้วจะมานั่งทุกข์-กลุ้มไปทำไม?
อยู่กับปัจจุบัน..สุขแท้แน่นอน!