สัญญาน “แม้วกลัวหนู” – เปลว สีเงิน

www.plewseengern.com

ช่วงนี้ “สภาไม่ยุบ” ชัวร์ ๑๐๐%!
เพราะรัฐธรรมนูญเขาห้าม
เมื่อ “ฝ่ายค้าน” ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะยุบไม่ได้ จนกว่าจะเสร็จสิ้นขั้นตอนอภิปราย
การเมืองระบบสภามันก็ดีอย่าง เป็นฝ่ายค้าน เมื่อใช้วิชาเทพ-วิชามาร ล้มรัฐบาลไม่ได้
สิ้นท่า ไม่รู้จะทำยังไง….
ก็หลับตา นึกถึงการบริหารของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ตอนเป็นนายกฯ แล้วก็ลากไส้ความระยำเลวร้ายในวิสัยทัศน์และการทำงานทีละขด…ทีละขด ออกมาเขียนระบายเป็นญัตติยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ

เพียงแต่เปลี่ยนจากชื่อ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เป็นชื่อ “นายกฯประยุทธ์” เท่านั้น!

เพื่อไทย เป็นฝ่ายค้านตอนคสช.มา ๔ ปี ตอนลุงตู่เป็นนายกฯ ตามบัญชีระบบเลือกตั้ง อีก ๔ ปี

๔ ปีเลือกตั้ง ไม่เคยเว้นซักสมัยที่จะไม่เปิดอภิปปรายไล่นายกฯ ถ้าเอาข้อความในญัตติที่ยื่นแต่ละปีมาเทียบกัน ก็จะเห็นว่า

ญัตติหาเหตุจิกหัวด่านายกฯ ประยุทธ์นั้น เพื่อไทย แกะนิสัย-สันดาน “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” มาเขียนคงเดิม เพียงเปลี่ยนชื่อเป็นประยุทธ์เท่านั้น

ขอฟ้อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ไว้ตรงนี้เลย
พวกหมาในคอก มันฉวยโอกาส “ด่าหัวหน้าคอก” แบบเนียนๆ รู้ไว้ด้วย

แต่ละครั้ง คุยโขมงโฉงเฉง มีใบเสร็จเป็นม้วนยาวเหมือนกระดาษเช็ดก้น นายกฯ ตายแน่
แต่ลงท้าย กลายเป็น “ครอบครัวชิน” ถูกย้อนเกร็ดแหงแก๋ในแต่ละครั้ง ก็เพราะหมาในคอก ใช่ว่าภักดีทุกตัวไป จำใจอยู่ด้วยจนตรอกก็มี

เวลาอภิปรายจึงแกล้ง “ชงหวาน” ให้นายกฯ สวนกลับ จนสัมภเวสีสองพี่น้องต้องครางอี๋!

ครั้งนี้ การอภิปรายไล่นายกฯ ของฝ่ายค้าน ก็ไม่ต่าง “หมาไล่งับหางตัวเอง” เหมือนเดิม
ยื่นญัตติถึงประธานชวนแล้วก็จริง ก็อยู่ที่รัฐบาลจะบอกว่า “ว่างช่วงไหน” ที่จะกำหนดวันให้เปิดอภิปราย

จะพึ่งเสียงรัฐบาลเพื่อเอากฏหมายลูก “เลือกตั้ง” คลอดให้สำเร็จก่อน หรืออยากอภิปรายไล่รัฐบาล ที่ต้องเสี่ยง “อดเลือกตั้ง” ด้วยกติกาบัตร ๒ ใบก่อนดีล่ะ

ยังไงๆ ก็ต้องไปถึงเดือนกรกฎา.แล้วสิงหา.จะส่งตีความประเด็น “นายกฯ ๘ ปี” อีกมิใช่หรือ?
ทำไป-ทำมา ถึงกันยา. “หมดสมัยประชุม”

๘ ปี กัดรัฐบาลไม่เข้า ได้แต่เห่าไป กระชากโซ่ไป เลือกตั้งใหญ่ ที่หวังจะแลนด์สไลด์ สุดท้าย ก็คงจะต้อง “เห่าไป-กระชากโซ่” ต่อไปอีก ๔ ปี
จนต่อมลูกหมากสัมภเวสีตัวพี่แตกตายก่อนจนได้!

ดูแล้วมันบ่มิไก๊จริงๆ……….
เอาลูกสาวมาเป็นหัวหน้าครอบครัวใหญ่ “ครอบหัว” หน้าพรรคอีกที แล้วไปขุดผีไพร่มาเป็นผอ.ครอบครัว แสดงว่า แม้วหมดหมุก-หมดตัวเล่นแล้ว

นี่ถ้า “จตุพร” ที่หันหัวขึ้นฝั่งแล้ว ยอมให้ทักษิณดึงกลับลงนรกไปเป็น “ตู่-เต้น” องครักษ์ซ้ายขวาอีกละก็
“หนังชีวิต” เรื่องนี้ จบเลยนะ!

คุยเป็นสถาบันการเมือง ว่าส่งหมา-แมว แล้วพะยี่ห้อทักษิณลงเลือกตั้ง ชาวบ้านก็เลือก
แล้วนี่ เห็นโฆษณาเป็นหนังแผ่น เปิดรายการไป “ไล่หนูตีงูเห่า” ที่ศรีสะเกษ เสาร์ ๑๘ มิย.นี้

มันแสดงถึงอะไร ……
ถ้าไม่ใช่สันดานแห่งความคับแคบเยี่ยงอันธพาล ไร้ซึ่งสปิริต ตามที่อ้างเป็นฝ่ายประชาธิปไตย

สส.ศรีสะเกษ เขาเปิดตัว จากเพื่อไทย เลือกตั้งครั้งหน้าจะไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
ภูมิใจไทย หัวหน้าพรรคคือ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และรัฐมนตรีสาธารณสุข ที่ชื่อเล่นว่า “หนู”

เพื่อไทย นำโดยอุ๊งอิ๊ง หน.ครอบครัว และไพร่ณัฐวุฒิ ผอ.ครอบครัว ประกาศจะยกพวกไป “ตีหนู” และ “งูเห่า” หมายถึงสส.ที่จะย้ายไปอยู่กับเสี่ยหนู ที่ศรีสะเกษ

การเมืองเรื่อง “ย้ายขั้ว-ย้ายพรรค” ถึงขั้นต้องแสดงอาการเกลียดชัง อาฆาตแค้นถึงขนาดระบุชื่อ-ระบุตัว เพื่อไล่ตีกันเชียวหรือ?

ทำยังกะว่า ทักษิณ-เพื่อไทย ไม่เคยไปดึง-ไปบังคับสส.พรรคไหนให้มาเข้าคอกพรรคตัวเองมาก่อนงั้นแหละ

ถ้ายี่ห้อทักษิณยังขายในอีสานได้ มั่นใจว่าแลนด์สไลด์ จะต้องไปแคร์อะไรกับสส.ศรีสะเกษแค่ ๒-๓ คนในพรรค จะไปอยู่ที่อื่น จริงมั้ย
ส่งเสาไฟฟ้า คนศรีสะเกษก็เลือก มิใช่หรือ?

แต่นี่ออกอาการแค้น ถึงขั้นยกพวกไปตี แสดงว่า บารมีรัฐมนตรีอนุทินและพรรคภูมิใจไทยในอีสาน เบ่งบาน กดทับเพื่อไทย จนหมาใหญ่ หมาน่อยธรรมดา หวั่นไหว ใช่มั้ย?

ดอกกัญชาก็บาน อสม.ก็มีเป็นล้าน ล้วนเป็นผลงานเสี่ยหนู-ภูมิใจไทย “พูดแล้วทำได้” เพื่อไทยอิจฉา จนอกจะแตกตาย ถึงขั้นหมายหัว “เสี่ยหนู”
รูปการณ์มันเป็นอย่างนั้น!

ยิ่งเดินเกมอันธพาลคืนยุค “เผาบ้าน-เผาเมือง” แบบนี้ ที่ว่าจะไป “ตีหนูไล่งูเห่า” ที่ศรีสะเกษ
มันจะกลายเป็น “ทุบหม้อข้าว” ที่ศรีสะเกษของพรรคตัวเองซะมากกว่า

เพราะคนอีสาน-คนศรีสะเกษวันนี้ ………
เขาเห็นพัฒนาการในอีสานทุกด้านจากรัฐบาลประยุทธ์เป็นเนื้อ-เป็นหนังจับต้องได้มากกว่าสมัยทักษิณ ที่อยู่ดี-กินดีเฉพาะหัวคะแนน ส่วนชาวบ้าน เหมือนไก่ ได้จิกแค่เศษข้าวหก

นี่ถ้าผมเป็น “ชลน่าน” ไปโดดสะพานพระราม ๘ ตายนานแล้ว!

เป็นหัวหน้า แล้วศักดิ์ศรีแตกต่างจากหมาในคอกซักเท่าไหร่ ว่าที่นายกฯ ของพรรค ก็ไม่ได้เป็น
เป็นหัวหน้าพรรค ก็มี “หัวหน้าครอบครัวพรรค” มาครอบอีกที

แม้มีหัวหน้าครอบครัวพรรคครอบแล้ว วันนี้ ยังมีผอ.ครอบครัวพรรคมาครอบซ้ำอีก

หัวอกไอ้ขวัญว่าช้ำเพราะอีเรียมแล้วนะ แต่หัวอกชลน่านตอนนี้ น่าจะระกำกว่า เพราะถูกครอบซ้ำแล้วซ้ำอีก!

ได้ยินเขาคุยกันในตลาดข่าว…….
ว่าการที่ไพร่เต้น คัมแบ็ก ในตำแหน่ง ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ไหล่รองลงมาจาก “อุ๊งอิ๊ง” ผู้เป็นหน.ครอบครัวเพื่อไทย

มันเป็นสัญญานเสียวไส้ กลัวกันว่า ถ้าไม่แลนด์สไลด์บรรยากาศ “เผาบ้าน-เผาเมือง” เหมือนปี ๕๓ จะซ้ำรอยสอง
เพราะ “ผอ.” ของไพร่เต้น นอกจากแปลว่า “ผู้อำนวยการ” แล้ว
มันยังแปลว่า “เผาอีก” ก็ได้!

หัวหน้าครอบใหญ่ ตำแหน่งใหม่ในพรรคเพื่อไทย นั่นก็เหมือนกัน
คำว่า “หัวหน้า” ถ้าเรียกย่อก็คือ “หน.”
แต่ถ้าเติมสระ อี ไปที่ตัวน.หนู จากหัวหน้า มันจะกลายเป็น “หนี” ไปทันที

ก็กลัวอุ๊งอิ๊งจะต้อง “เจริญตามรอย” ยิ่งลักษณ์!

วันนี้ คุยเท่านี้ เพราะเสียใจนิดหน่อย ที่สาวน้อยมหัศจรรย์ทั้ง ๗ ของเรา แพ้โปแลนด์ไป ๒-๓

ถึงแพ้ก็ยังรัก-ยังเชียร์ วันนี้ ต้องลงสู้กับญี่ปุ่น เป็นนัดหยุดโลก ต้องส่งทั้งแรงใจ ทั้งบริกรรมส่งกุมารทองไปช่วย เพราะสาวๆ ของเรากรำศึกจนกรอบแทบทุกคน

น่าเห็นใจ…….
ของเราอย่างเก่งสูงเมตรครึ่ง แต่ของเขา ๒-๓ เมตร เขายืนรับ-ยืนตบ ของเราต้องกระโดดรับ-กระโดดตบ
ได้ขนาดนี้ ก็ประกาศนาม “สาวสยาม” ตบล้างน้ำได้ทุกทีมในโลกอยู่แล้ว

วันนี้ ตบแหลกนะ สาวๆ
คว่ำญี่ปุ่นได้ กลับจะเลี้ยงบุปเฟ่หมูกะทะ หัวละ ๙๙ บาท ไม่อั้นนะ สปอร์ตขนาดไหน ไม่อยากคุย!

-เปลว สีเงิน
๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๕

Written By
More from plew
จาก “ตะรางคน” ถึง “ตารางบิน”
วันนี้ “ไม่คุย” แต่จะนำ “ข่าวสารที่รอคอย” มาบอก ๒-๓ เรื่อง เรื่องที่ ๑ วันนี้ ๖ ก.พ.เวลา...
Read More
0 replies on “สัญญาน “แม้วกลัวหนู” – เปลว สีเงิน”