โฆษกรัฐบาลออกโรงปกป้องสถาบัน ชี้คนไทยทนไม่ได้หากใครจาบจ้วง ย้ำอย่าลืมรากเหง้า พระมหากษัตริย์ทรงเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงและศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2565-นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าหลังจากเกิดกระแสข่าวการผลิตคอนเทนต์การตลาดก้าวล่วงสถาบัน ทำให้คนไทยที่เคารพรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์แสดงความไม่พอใจและออกมาเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวข้องรับผิดชอบ
ทั้งผู้ให้บริการแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ที่เป็นผู้ว่าจ้างจนเกิดแฮชแท็กแบนแพลตฟอร์มและอินฟลูเอนเซอร์ที่คิดนำเสนอเนื้อหาโฆษณาดังกล่าว รวมทั้งมีผู้ยื่นฟ้องว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายต่าง ๆ
ขณะที่กระทรวงดีอีเอสและ ปอท. อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลว่าเป็นความผิดหรือไม่ด้วย ส่วนตนเองรู้สึกไม่สบายใจและเศร้าใจมาก เพราะประเทศไทยมี 3 สถาบันหลักที่เป็นเสาค้ำยันและยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในชาติ คือ สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
โดยเฉพาะสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเป็นสถาบันที่ประชาชนสัมผัสได้มากที่สุดถึงพระมหากรุณาธิคุณและคุณูปการที่ทรงมีต่อบ้านเมืองและคนไทยทุกคนนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนไทยจึงมีความเคารพรัก เทิดทูน และผูกพันกับสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างมาก
“ผมเชื่อมั่นว่าประชาชนทราบมาโดยตลอดว่าสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นมีความสำคัญและทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างไร โดยเฉพาะพระราชปณิธานและพระราชดำริของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ ผ่านโครงการต่าง ๆ มากมาย
จึงอยากให้ทุกคนตระหนักเรื่องนี้ให้มาก ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใด จงอย่าลืมรากเหง้าของตัวเอง ประเทศไทยอยู่มาได้และพัฒนามาจนทุกวันนี้ก็เพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็นทั้งผู้นำแห่งความเปลี่ยนแปลงและศูนย์รวมจิตใจ ดังนั้นก่อนจะทำสิ่งใดขอให้ใคร่ครวญให้ดีว่าสิ่งนั้นถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ เป็นการละเมิดหรือสร้างความขัดแย้งหรือไม่ ดังตัวอย่างที่เกิดขึ้นก็ถูกมองว่าเป็นการจาบจ้วงที่คนไทยไม่สามารถทนได้แม้จะอ้างเหตุผลใดก็ตาม” นายธนกร กล่าว