ใครตามข่าวก็จะรู้ว่าตอนนี้โลกมันปั่นป่วนไปใหญ่แล้ว
ไม่ใช่แค่เรื่องโควิด-19
แต่สงครามรัสเซีย กับยูเครนมันยิ่งพาลพัง…
แล้วคนที่มองว่าเป็นแค่เรื่องของชาวบ้านตีกัน ?
คิดผิดมหันต์ !
เพราะนี่ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นชาวบ้านที่มีสติปัญญา
พร้อมอาวุธครบมือ ! ที่พร้อมจะพาลใส่บ้านรอบข้าง
หรือแม้แต่คนละหมู่บ้านอย่างไทยให้ล่มไปพร้อม ๆ กันได้
หรือถ้ามองอีกมุมนี่คงเป็นการตีกันของ “เจ้าป่า”
ในขณะที่ประเทศไทยได้เป็นแค่สัตว์ตัวเล็กๆ ที่ต้องวิ่งหาทาง “เอาตัวรอด”
แบบนี้เองเลยทำให้โลกที่กำลังตกอยู่ท่ามกลางวิกฤตที่กำลังจะคลี่คลายอย่างโควิด-19
ต้องกลับมาปวดกบาลอีกรอบ !
เพราะนอกจากที่จะสร้างความสูญเสียต่อกันเองแล้วนั้น
ทั้งรัสเซียและยูเครนก็เป็นประเทศที่มีวัตถุดิบต้นน้ำหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือแม้แต่ด้าน “พลังงาน”
เพราะได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ส่งออกพลังงานอันดับต้นๆ ของโลก…
แน่นอนว่าแบบนี้มันจะไม่พาลให้เศรษฐกิจพังได้ยังไง
จากหลายภาคเอกชนก็ออกมายอมรับแล้วว่า ?
ต้องติดตามสถานการณ์สงครามอย่างใกล้ชิด เพราะหากยืดเยื้อ จะส่งผลกระทบไปยังอุตสาหกรรมนั้นๆ ยาวนานไปจนถึงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ !
ภาคพลังงานเองก็รับผลกรรมมาเต็มที่
ราคาพลังงานพุ่งพรวด แล้วประเทศไทยที่เป็นได้แค่เบอร์รองของโลก
ต้องมีภาระนำเข้าพลังงานเพื่อใช้งานด้านต่างๆ
ก็ต้องรับผลกระทบไปเต็มที่เช่นกัน !
เรื่องที่น่าจะเข้าใจง่ายที่สุดอย่าง “ไฟฟ้า” ที่มันจำเป็นจะต้องแพงขึ้นไม่ใช่ว่ารัฐไม่ได้ช่วย หรือภาคเอกชนไม่ได้อุดหนุน
แต่มันแพงมาตั้งแต่ต้นทุนการผลิตที่ต้องนำเข้าแล้ว
แม้กระทรวงพลังงานจะออกมาบอกว่าไทยนำเข้าพลังงานจากทั้ง 2 ประเทศเป็นสัดส่วนที่น้อย แต่ผลกระทบทางอ้อมมันก็วนมาโจมตีใส่อยู่ดี !
…ราคาน้ำมันก็พุ่งพรวดไม่แพ้กัน
เรื่องนี้น่าจะส่งสัญญาณมาสักระยะหนึ่งแล้ว…
จากที่รัฐบาลได้พยายามอุ้มราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรอยู่นี่ก็แทบจะ “หลังหัก” พอสมควร
มีเงินในกองทุนเท่าไหร่ควักออกมาใช้ให้หมด
มีวิธีการไหนจะช่วยลดได้ก็เอาออกมายื้อไว้จนเกือบจะสุดทาง…
เอกชนเองก็แบกรับต้นทุนกับการที่ต้องลดค่าการตลาดลงจนต่ำเป็นประวัติการณ์ไปแล้ว
“ต้องมีสติ”
คนไทยในช่วงนี้นอกจากจะต้องเข้าใจและเห็นใจกันแล้ว ก็ต้องมีสติด้วย !
ใช้ชีวิตท่ามกลางความผันผวนแบบนี้รู้เลยว่าต้องยากลำบากแค่ไหน
ไม่ใช่แค่ต้องป้องกันตัวจากการติดโรค
แต่ยังต้อง “ป้องกันเงิน” จากการจับจ่ายซื้อของด้วย
เห็นแบบนี้ก็เลยอยากจะแนะนำวิธีการหนึ่งในการบริการจัดการเงินจากราคาพลังงานที่สูงลิบลิ่วแบบนี้
โดย ปตท. บริษัทที่ “แบกรับต้นทุน” ไม่ต่างจากประชาชนเอง
แต่ก็ยังแสดงความเป็นห่วงเป็นใย…
ชวนทุกคนร่วมประหยัดพลังงานและใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า
เสนอวิธีการใช้รถอย่างไรให้ประหยัดน้ำมันมากที่สุด ?
โดยเราต้องรู้ก่อนว่าสาเหตุที่ส่งผลทำให้รถใช้น้ำมันมากขึ้นมาจากส่วนไหนบ้าง
อย่างเช่นพวกไส้กรองอากาศอุดตัน หัวเทียนเสื่อมสภาพ หรือลมยางอ่อนเกินไป
เรื่องที่คนคาดไม่ถึงก็อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้รถเรากินน้ำมันได้เหมือนกัน…
แต่ถ้าใครไม่รู้ไม่เข้าใจเรื่องรถยนต์ ปตท. เองก็พร้อมจัดให้มีการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์ โดยโออาร์….
จัดแคมเปญออกโปรโมชั่นต่าง ๆ
โดยสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่ “FIT Auto” สถานีบริการน้้ามัน PTT Station ที่ร่วมรายการทั่วประเทศ
จนถึงสิ้นเดือนเมษายนนี้ เพื่อให้เครื่องยนต์มีความสมบูรณ์ ช่วยลดการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างถูกจุด
“ใช้เครื่องมือและช่องทางให้ถูกต้อง”
นอกจากจะมีสติในการใช้พลังงานแล้ว
ก็ต้องอาศัยเครื่องมือหรือช่องทางที่ช่วยสนับสนุนแบบนี้ และเข้าไปใช้งานให้เหมาะสมกับสถานการณ์
มันคงทำให้เรารับมือกับวิกฤตที่กำลังถาโถมเข้ามาได้อย่างเข้าใจ…
ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากไปบ้าง แต่ก็ต้องไม่ย่อท้อแล้วผ่านมันไป