ผสมโรง
สันต์ สะตอแมน
ต้องบันทึกไว้!
“โครงการคนละครึ่งผ่านมาแล้วสามเฟส และวันนี้เริ่มต้นเข้าสู่เฟสที่สี่ แต่รัฐก็ยังไม่เรียนรู้ว่าการใช้เงินที่หมดไปกับการแจกไม่ได้ผล ไม่ช่วยให้วิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
แต่ก็ยังหลับหูหลับตาทำ ไม่คิดจะทบทวน ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง
จะเป็นไปได้หรือไม่ หากเลิกแจกเงิน แล้วเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ ที่เน้นการจ้างงาน เน้นการทำให้คนตัวเล็กเข้าถึงแหล่งทุน
เพื่อให้ลุกขึ้นมาได้เร็วที่สุดแข็งแรงที่สุด นำไปสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนอีกครั้ง”
เพราะนี่เป็นคำกล่าวของนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่มีตำแหน่งเป็น “รองโฆษก”พรรคไทยสร้างไทย ของคุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์
ซึ่งแม้ภูมิหลังจะเป็นนักร้อง นักแสดง แต่เมื่อหันเข้าสู่เส้นทางการเมือง ก็คงจะได้ศึกษาหาความรู้ใส่ตัวจนท่วมหัวแล้ว ถึงได้กล้าออกมาพูด-วิพากษ์วิจารณ์เรื่องเศรษฐกิจ..
โดยเฉพาะ “โครงการคนละครึ่ง” ที่กรุงเทพโพลล์ ได้เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2021” พบว่าโครงการ-มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ชื่นชอบมากที่สุดแห่งปี
คือ “คนละครึ่งเฟส 3” ร้อยละ 49.6 สะท้อนถึงการช่วยเหลือเยียวยาตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนช่วยลดภาระค่าครองชีพประจำวันได้เห็นผล”
แต่..ในมุม-ความรู้ของนายรัฐภูมิ มองไม่ช่วยให้วิกฤตทางเศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น..อย่าหลับหูหลับตาแจกอยู่เลย!
ก็ไม่รู้ว่า ที่พูดนี้ได้ปรึกษาหารือกับคุณหญิงหน่อยแล้วรึยัง ถ้าคุยกันแล้วก็เห็นที เลือกตั้งครั้งหน้า พรรคไทยสร้างไทยจะเน้นจุดขาย-หาเสียงด้วยม็อตโต้..
“เลือกไทยสร้างไทย ไม่ได้คนละครึ่ง” แน่เลย!
นี่แหละ ที่ผมต้อง “ขอบันทึกไว้” เผื่อจับพลัดจับผลูพรรคไทยสร้างไทยได้จัดตั้งหรือร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย จะได้ไม่มีนโยบายลดแลกแจกแถมให้เห็น
และชาวบ้าน-ประชาชนก็จะได้ตัดสินใจ (เลือก) เอา-ไม่เอา “คนละครึ่ง” ด้วยคะแนนเสียงตามหลักประชาธิปไตย!
อ้อ..และที่นายรัฐภูมิว่า “ความพยายามในการแก้ปัญหาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังซ้ำซากวนเวียนอยู่ในอ่าง
ไร้วิสัยทัศน์ไร้แนวคิด ที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ” นั้น
ผมเองก็อยากเชื่อ แต่ด้วยภูมิหลังนายรัฐภูมิที่จบปริญญาตรีคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์สื่อดิจิตอล วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม และปริญญาโท คณะบริหารการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม..
จึงให้ลังเล ไม่รู้ว่าเชื่อแล้วจะทำให้มีปัญญา-ฉลาดขึ้น หรือว่าจะพลอยโง่ไปด้วย?
อย่างไรก็ตาม ถ้านายรัฐภูมิจะได้แสดงภูมิความรู้ พูดถึงการแก้ปัญหาเรื่อง “สื่อดิจิทัล” ผมก็อาจจะพอคล้อยตามได้บ้าง อย่างน้อยก็เชื่อที่คนพูด..
เคยศึกษา-เรียนตำรามา!