โดยมีจุดเริ่มต้นฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอย่างเป็นรูปธรรมภายหลังการหารือ 3 ฝ่าย ระหว่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เจ้าชายเคาะลีฟะฮ์ บิน ซัลมาน อัลเคาะลีฟะฮ์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรนในขณะนั้น และนายอาดิล บิน อะหมัด อัลณูบีร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในขณะนั้น ในช่วงการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue: ACD) ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 9 – 10 ตุลาคม 2559 ที่กรุงเทพฯน.ส.ทิพานัน กล่าวว่า จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าฯเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในช่วงการประชุมผู้นำ G20 ที่นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2562 นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของทั้งสองฝ่ายยังมีการพบหารือกันเป็นระยะ ๆ เพื่อหารือรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน โดยมีการเยือนที่สำคัญ คือ การเดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศ (ตำแหน่งในขณะนั้น) ตามคำเชิญของเจ้าชายฟัยศ็อล บิน ฟัรฮาน อัลซะอูด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เมื่อเดือนมกราคม 2563
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า กระทั่ง ล่าสุด นายกรัฐมนตรีได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่ง ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ระหว่างวันที่ 25 -26 มกราคม 2565 จนมีผลการเยือนที่สำาคัญ คือ การประกาศการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ และพัฒนาความสัมพันธ์ด้านต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และแรงงาน
“การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจของซาอุดีอาระเบีย (Saudi Vision 2030 ) ถือเป็นโอกาสดีของนักลงทุนไทย รวมถึงแรงงานไทยด้วย แต่ก่อนที่จะเข้าไปมีโอกาสได้ ก็ต้องมีรากฐานความสัมพันธ์ที่ต้องประสานร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อฟื้นความสัมพันธ์อันดีต่อกันก่อน ไม่ใช่ปุบปับทำได้เลย เบื้องหลังความสำเร็จในวันนี้ จึงมีพล.อ.ประยุทธ์เป็นคีย์แมนสำคัญ มาโดยตลอดและต้องละเอียดรอบคอบ เอาใจใส่ ติดตามทุกมิติทางการทูต ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่จะมาด้อยค่า หรือพยายามบิดเบือนกันได้ เพียงเพื่อหวังผลในทางการเมืองเท่านั้น” น.ส.ทิพานัน กล่าว
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า บางพรรคการเมืองอาจหวั่นไหวเป็นพิเศษ แต่วันนี้นายกรัฐมนตรีมองข้ามเรื่องการเมือง แต่เร่งแก้ไขปัญหาของประเทศ แก้ไขปัญหาเศรษกิจ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชน เปิดประตูโอกาสให้กับผู้ประกอบการธุรกิจ นักลงทุนและแรงงานไทย ฝ่ายการเมืองจึงไม่ควรปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ เพราะพยายามปิดอย่างไรก็ปิดไม่ปิด