ผักกาดหอม
“ธรรมนัส” จะไปไหน?
ใครๆ ก็อยากรู้
จากถ้อยแถลง เคลียร์ประเด็นร้อน หลังพลังประชารัฐมีมติขับออกจากพรรคพร้อม ๒๐ ส.ส. “ธรรมนัส” พูดถึงพรรคใหม่ที่ต้องไปสังกัดใน ๓๐ วันว่า
“…เป็นพรรคที่เกิดมานานพอสมควร
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ในบ้านเมืองจะใช้เป็นพรรคหลัก
พรรคนี้เมื่อเปิดตัวมาแล้ว ทุกคนจะร้องอ๋อว่าเป็นพรรคของใคร
บ้านหลังใหม่เราเตรียมมานานแล้ว เดี๋ยวมีเซอร์ไพรส์
ห่วงบ้านเก่าว่าพี่น้องเราหลายคนที่เป็นนักการเมือง (ส.ส.ที่ยังอยู่พลังประชารัฐ) มีอุดมการณ์ เขาจะอยู่กันอย่างไร ถ้าไม่มีเราดูแลเขา
ช่วงที่ผ่านมาบ้านเมืองมีวิกฤตโควิด-๑๙ ส่วนใหญ่ที่ ส.ส.ไปลงพื้นที่ ได้รับการสนับสนุนจากพี่ทั้งนั้น ๘๐% จากพี่และหัวหน้าพรรค หลังจากไม่มีเรา ใครจะทำให้เขา ใครจะดูแลเขา…”
ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง
คือพรรคเศรษฐกิจไทย
ช่วงนี้ผู้เล่นหน้าใหม่ในขวดเก่าเยอะ ชื่อคล้ายๆ กัน ฉะนั้นอย่าจำสับสน
ถ้าชื่อพรรคเศรษฐกิจใหม่ ตอนนี้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล หลัง “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” ถูก ส.ส.พรรคยึดอำนาจ เลิกเป็นฝ่ายค้าน
พรรคสร้างอนาคตไทย ก็เป็นของกลุ่ม ๔ กุมาร ที่จะดัน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
พรรคไทยสร้างไทย เป็นพรรคของคุณหญิงหน่อยเขา ตอนนี้พยายามสลัดคราบพรรคสาขาเพื่อไทย ยืนยันว่าไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน
ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย วานนี้ (๒๑ มกราคม) ติ่งไว้หน่อยหนึ่งว่าเป็นบ้านอีกหลังในซอยเดียวกันที่ “ลุงป้อม” ซื้อไว้เพื่อให้ลูกๆ ไปอาศัยอยู่ จะได้ไม่ต้องทะเลาะกับลูกอีกบ้าน
เมื่อ “ธรรมนัส” เฉลย ถึงพรรคที่จะไปสังกัด ใครๆ ก็ฟันธงว่าใช่ พรรคเศรษฐกิจไทย แน่นอน เพราะเข้าองค์ประกอบทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นพรรคที่เกิดมาพักหนึ่งแล้ว ผู้ใหญ่จะใช้เป็นพรรคหลัก
พรรคเศรษฐกิจไทย ตกเป็นข่าวมาพักหนึ่งแล้ว
ตอนนั้นใครๆ ก็เรียก “พรรคปลัดฉิ่ง”
แต่ในสารบบของ กกต. พรรคเศรษฐกิจไทย ก่อตั้งเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๓
ที่ทำการพรรค และระบบสาขาพรรค มีข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ระบุไว้ว่า มีสมาชิกอยู่ ๘,๗๓๖ คน มีสาขาพรรค ๕ แห่ง
ที่ทำการใหญ่อยู่ที่ อาคารเอส จี ทาวเวอร์ ซอยมหาดเล็กหลวง ๓ ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
หัวหน้าพรรค คือ นายประสงค์ วรารัตนกุล เลขาธิการพรรคชื่อ เมธาวี เนตรไสว
แต่เนื่องด้วย นายประสงค์ ยื่นหนังสือลาออก เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ทำให้ นางรัชนี ศิวเวชช รองหัวหน้าพรรค ขึ้นทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคแทน
กรรมการบริหารพรรค ประกอบด้วย น.ส.ปุณิกา เศรษฐกุลดี รองเลขาธิการพรรค นายอนันต์ มั่งเกียรติสกุล นายทะเบียนสมาชิกพรรค ว่าที่ร้อยตรีหญิง นภารัตน์ นุชนิยม ผู้ช่วยนายทะเบียนสมาชิกพรรค
น.ส.บุษบา ถนิมลักษณ์ เหรัญญิกพรรค น.ส.น้ำฝน ดอกบัว ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค
นายธรรศ สุวัชรนนท์ โฆษกพรรค นายสิริพงษ์ เอี่ยมเกษมสิน รองโฆษกพรรค
นายจเด็จ วันทะนะ, ว่าที่ร้อยตรีหญิง สุวรพร ไทยงาม, นายพลธร ไทยสวัสดิ์ และนางวนิดา ศรีวรมย์ เป็นกรรมการบริหารพรรค
พรรคเศรษฐกิจไทย มีความสำคัญต่อ “ลุงป้อม” แค่ไหน?
วานนี้ (๒๑ มกราคม) มีข่าวเล็กๆ ดูแล้วไม่น่าเป็นที่สนใจเท่าไหร่
แต่กลับกลายเป็นข่าวที่มีนัยสำคัญทางการเมือง ช่วงความปั่นป่วนของพรรคพลังประชารัฐ
ข่าวบอกว่า
“…พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.เชียงราย ติดตามการบริหารจัดการน้ำภาคเหนือ และความก้าวหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เวียงหนองหล่ม ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติหนองมโนราห์ ต.จันจว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย
โดยมี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์กรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ซึ่งมีชื่อจะไปเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่กลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และ ส.ส.อีก ๒๐ คนจะไปสังกัดพรรคใหม่ลงพื้นที่ด้วย
รวมถึงยังมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหริญญิกพรรค พปชร.และอดีต รมช.แรงงานร่วมลงพื้นที่ด้วย…”
ก็หมายความว่า ทุกอย่างยังอยู่ในคอนโทรลของ “ลุงป้อม”
พรรคเศรษฐกิจไทย ผ่านการเขย่า แยกน้ำแยกกากมาพักหนึ่งแล้ว
“ผู้การสุชาติ” พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล อดีตประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ ปีที่แล้วเคยพูดถึงพรรคเศรษฐกิจไทยไว้ชัดเจน
“..เบื้องต้นประมาณ ๙ คน ที่จะไปร่วมงานด้วยกันกับพรรคใหม่ อาทิ นายทวี สุระบาล อดีต ส.ส.ตรัง อดีตนายก อบจ.พัทลุง ส่วนบางคนเป็น ส.ว.และมีตำแหน่งทางการเมือง ยังไม่ขอเปิดเผย โดยพรรคใหม่ที่จะไปสังกัดอยู่นั้นก็เป็นไปตามที่มีข่าวที่มี ปลัดฉิ่ง- ฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นผู้ดำเนินการด้านธุรการให้เกิดขึ้น
หากขั้นตอนต่างๆ แล้วเสร็จก็จะพูดคุยเพื่อเข้าไปร่วมงานด้วย และเชื่อว่าผู้ก่อตั้งพรรคใหม่จะรอบคอบในการบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนตุลาคม ส่วนชื่อพรรคใหม่นั้นเบื้องต้นคือ ‘พรรคเศรษฐกิจไทย’ แต่ยังไม่ทราบชัดเจนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่…”
แต่สุดท้าย “ผู้การสุชาติ” ถูก “กรณ์ จาติกวณิช” จีบไปอยู่พรรคกล้า เป็นแม่ทัพภาคใต้
นั่นเพราะรับรู้ในภายหลังว่า พรรคเศรษฐกิจไทย มีเป้าหมายไว้ทำอย่างอื่น!
และหลังเกษียณอายุราชการจากตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทย “ปลัดฉิ่ง” ก็ชิ่งไปเช่นกัน
เดิมทีจุดมุ่งหมายของการก่อตั้งพรรคเศรษฐกิจไทย จะเป็นพรรคสำรองของพรรคพลังประชารัฐ เพราะดูจากเส้นทางการก่อเกิดพรรค แทบจะแปลความเป็นอย่างอื่นไม่ได้
“ปลัดฉิ่ง” เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง มีเงา “บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ยืนค้ำอยู่ข้างหลัง
“บิ๊กป๊อก” คือหนึ่งใน “๓ ป.”
ฉะนั้น “๓ ป.” จึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคเศรษฐกิจไทยโดยตรง
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ “๓ ป.” แตกคอ แต่ถ้ามองลึกลงไป “๓ ป.” อาจกำลังบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลทางการเมือง โดยใช้ยุทธวิธีของทหารเข้ามาประยุกต์
ฉะนั้นสิ่งที่เห็นจึงไม่เป็นที่ชินตาทางการเมือง
ครับ…รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลวานนี้ บอกว่าในช่วงท้ายก่อนจบการประชุม ศบศ. “ลุงตู่” เปิดเพลง “อย่ายอมแพ้” ของ “อ้อม-สุนิสา สุขบุญสังข์” นักร้องชื่อดังในอดีตจากโทรศัพท์มือถือ
และบอกกับที่ประชุมว่า
“ผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว เพลงเป็นเรื่องการให้กำลังใจทุกคนที่ร่วมทำงาน ไม่แพ้ต่อปัญหาอุปสรรคเช่นเดียวกับนายกฯ ไม่เคยยอมแพ้ ทำงานเพื่อชาติและประชาชน”
ถ้า “ลุงตู่” อยู่ครบเทอมถือว่าไม่ธรรมดา
“๓ ป.” จะกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานไปทันที
แต่ขึ้นชื่อนักการเมือง ย่อมซ่อนมีดไว้ข้างหลังตลอดเวลา
“ลุงป้อม” จะปราบพยศเด็กๆ หรือเด็กๆ จะทรยศ “ลุงป้อม”
ภายในปีนี้ได้รู้กัน