ไทยน่าอยู่ที่สุดในโลก-ผักกาดหอม

ทุกพรรคครับ ไม่เฉพาะสองพรรคการเมืองนี้ การมีอำนาจบริหารประเทศ การอยู่ในเก้าอี้รัฐมนตรี อยู่ในคณะรัฐมนตรี มีคุณค่าทางการเมืองมากกว่าเก้าอี้ ส.ส. ๒ ตัว

กองเชียร์ กองแช่ง อย่าไปเสียเวลายุให้รัฐบาลแตกเลยครับ  เจ็บคอเปล่าๆ

ไม่มีใครยอมขี่ช้างไล่จับตั๊กแตนหรอก

พังรัฐบาลเพราะเก้าอี้ ส.ส. ๒ ที่นั่ง ใครทำถือว่าโง่เต็มทน

เอาไว้เลือกตั้งใหญ่โน้น ถึงใส่กันเต็มๆ

ถึงเวลานั้นไม่มีคำว่าพรรคร่วมรัฐบาล

ทุกพรรคล้วนอยากเป็นพรรคอันดับ ๑ ในการจัดตั้งรัฐบาลด้วยกันทั้งนั้น

เป็นไปได้ต้องกวาดเก้าอี้ ส.ส.ให้ได้มากที่สุด

ฉะนั้นเลือกตั้งซ่อม ชุมพร สงขลา นักการเมืองก็ปรับเข้าโหมดเลือกตั้ง หาเสียงกันดุเดือด เสร็จก็กลับเข้าสู่โหมดเดิม

กอดคอแต่พร้อมจะแทงหลังกันต่อไป!

ครับ…เรื่องเลือกตั้งซ่อมไม่มีนัยสำคัญอะไร

แต่ที่วิ่งพล่านกัน ดูจะเป็นเรื่องของพวกเด็กๆ ไม่อยากรับปริญญา

ที่จริงก็ไม่ยากอะไร ไม่อยากรับก็ไม่ต้องรับ

ในอดีตก็มีคนไม่รับปริญญา จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม แต่ไม่เคยนำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นให้เกิดความขัดแย้งในสังคม

เมื่อเด็กรุ่นใหม่ตัดสินใจที่จะใช้การ รับ หรือ ไม่รับ ปริญญามาสร้างความแตกแยก ก็ควรยอมรับผลที่จะตามมาด้วย

ผลที่ตามมาไม่ใช่ เรื่องการสมัครงาน แต่เป็นเรื่องที่เด็กรุ่นใหม่จะต้องอยู่ในสังคมที่ขัดแย้งด้วยน้ำมือของตัวเอง

ไม่ใช่ปีสองปี

แต่เป็นชั่วอายุคน

มันจะไม่ใช่เรื่องรับหรือไม่รับปริญญาเท่านั้น แต่จะเป็นความขัดแย้งในแทบจะทุกเรื่อง

ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ ทัศนคติทางการเมือง วัฒนธรรม  การใช้ชีวิต ฯลฯ ล้วนเป็นความขัดแย้งทั้งสิ้น

ดังนั้นจะโทษใครไม่ได้

ง่ายๆ ครับ…วันนี้คนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งคิดว่าเมืองไทยอยู่ยาก  เพราะการเมืองไม่ดี ข้าวของแพง ความเหลื่อมล้ำสูง อยากย้ายประเทศ

นาทีนี้ลองหันไปมองอเมริกา แล้วจะรู้ว่าประเทศไทยก็ไม่ได้เลวร้ายนัก

ซีเอ็นเอ็น รายงานเมื่อวันเสาร์ว่า แก๊งมิจฉาชีพในลอสแอนเจลิส ปล้นสินค้าบนรถไฟขนส่งสินค้าถี่ขึ้นอย่างน่าวิตก

กลายเป็นเหตุอาชญากรรมใหม่ที่เพิ่มมากขึ้น บนเส้นทางรถไฟที่ผ่านเขตลอสแอนเจลิส

ใครนึกภาพไม่ออก ให้ดูภาพเมืองรกร้าง ข้าวของหล่นเกลื่อนทางรถไฟ ในซีรีส์ THE WALKING DEAD ก็…ประมาณนั้นเลย

กล่องสินค้าจากบริษัท Amazon และ FedEx ถูกแกะวางเกลื่อนสุดลูกหูลูกตา ภาพแบบนั้นแทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นในประเทศไทยเลย

สาเหตุที่แก๊งมิจฉาชีพนับร้อยคนยึดรถไฟขนส่งสินค้าแล้วปล้น เป็นเพราะอเมริกาเผชิญกับวิกฤตโควิด-๑๙ คนตกงาน เศรษฐกิจย่ำแย่ ข้าวของแพง

เงินเฟ้อรุนแรงกว่า ๗%

ทางออกในดินแดนแห่งเสรีภาพคือการปล้นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์

สำหรับประเทศไทยอย่างมากก็ให้พร “ลุงตู่” สามเวลาหลังอาหาร

หรือถ้าอยากลงถนนประท้วง ก็ย่อมได้ แค่ระวัง โอมิครอน กันให้เยอะหน่อย

ที่สำคัญ ต้องยอมรับผลที่ตามมาด้วย โดยเฉพาะการทำผิดกฎหมาย

ไปดูที่ฮ่องกง

ศาลฮ่องกงมีคำพิพากษา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ให้จำเลย ๗ คน  อายุระหว่าง ๒๐-๒๙ ปี รับโทษจำคุกนานระหว่าง ๓๘-๔๐ เดือน

จำเลยอีก ๒ คนมีอายุยังไม่ถึง ๒๐ ปี ให้รับโทษในสถานกักกัน

ทั้งหมดนี้ถูกพิพากษา จากความผิดฐานร่วมก่อการจลาจล ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮ่องกงโพลีเทคนิค (โพลียู) เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒

ประโยคหนึ่งในคำพิพากษาน่าสนใจทีเดียว

ผู้พิพากษา ระบุว่า…

“ศาลมีความเข้าใจต่อการที่จำเลยซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ความรุนแรงเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง”

เหตุการณ์นี้ต้องย้อนไปช่วงคนรุ่นใหม่เผาเมืองปี ๒๕๖๒

นักศึกษายึด “โพลียู” เป็นสมรภูมิสุดท้ายในการต่อสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ

ตามข่าวที่รับรู้กันไปก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาต่อต้านคณะผู้บริหารฮ่องกงและรัฐบาลกลางในกรุงปักกิ่ง เรียกร้องให้ถอน ร่างรัฐบัญญัติกฎหมายผู้หนีคดีและความช่วยเหลือร่วมกันทางกฎหมายในคดีอาญา

ลุกลามกลายเป็นการต่อต้านจีน และเรียกร้องให้อเมริกา ยุโรป เข้าแทรกแซง

นำไปสู่การเผาเมือง ปะทะอย่างดุเดือดกับตำรวจปราบจลาจล

สถานการณ์ยุติด้วยการที่ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจยกกำลังเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย เพื่อจับกุมผู้ประท้วงชุดสุดท้าย

ตลอดระยะเวลาดังกล่าว มีผู้ประท้วงถูกจับกุมมากกว่า ๑,๑๐๐ คน

แกนนำบางคนขอลี้ภัย บางคนติดคุก

ก็คุ้นๆ นะครับ

ม็อบสามนิ้วก่อนหน้านี้ มีเผาเล็กๆ น้อยๆ เชื้อเชิญต่างชาติแทรกแซงไทยมีให้เห็นเป็นระยะๆ แต่ที่หนักๆ คือ การทำผิดกฎหมาย

ทั้ง พ.ร.บ.การชุมนุม

โดยเฉพาะการละเมิด ม.๑๑๒ ความผิดด้านความมั่นคง

อย่าคิดเพียงว่าตัวเองถูกเล่นงานจากฝ่ายเผด็จการ

ลองหันไปมอง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ติดคุกกันหลายคน บางคนออกมาแล้ว บางคนจ่อเข้าคุก เพราะยังมีคดีเป็นหางว่าว

คำกล่าวของศาลฮ่องกง ใช้เตือนผู้ที่จะก่อม็อบในไทยได้ครับ

“การเลือกใช้ความรุนแรงเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้อง”

ไม่เฉพาะที่ฮ่องกงไม่ถูกต้อง

การชุมนุมทุกที่ในโลกย่อมไม่ถูกต้อง หากใช้ความรุนแรง