‘ธนาธร’ ไม่ตรงปก – ผักกาดหอม

ขณะที่สาวกสามนิ้วของธนาธร ด่ารัฐบาลเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย เอาโอมิครอนเข้ามาด้วย

แต่ “ธนาธร” เอาโควิดจากต่างประเทศเข้ามาในไทยเช่นกัน กลับเงียบเป็นเป่าสาก

ประเด็นถัดมาถือว่าสำคัญมาก และวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างเผ็ดร้อนนั่นคือ “ธนาธร” ย่องเงียบฉีดวัคซีน

แล้วยังไง?

ฉีด AstraZeneca ทั้ง ๒ เข็ม

เข็มแรกวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔

เข็มที่ ๒ วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๔

ทั้ง ๒ วัน ไม่มีความเคลื่อนไหวเรื่องการฉีดวัคซีน ผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่อย่างใด

ปกตินักการเมือง ดารา นักร้อง เซเลบ คนดัง ส่วนใหญ่จะโพสต์ภาพ จุดเช็กอินฉีดวัคซีน ผ่านโซเชียล เป็นการเชิญชวนประชาชนฉีดวัคซีนไปในตัว

คำถามตัวโตๆ คือ ทำไม “ธนาธร” ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะว่าตัวเองฉีดวัคซีนแล้ว

แถมยังเป็นวัคซีนยี่ห้อที่ตัวเองโจมตีรัฐบาลว่า แทงม้าตัวเดียว

ช่วงวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุขเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยง ๒ กลุ่มก่อน เพราะมีความเสี่ยงสูง หากติดโควิดแล้วอาจถึงชีวิตได้ ประกอบด้วย

๑.กลุ่มผู้สูงอายุ ๖๐ ปีขึ้นไป

๒.กลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ๗ กลุ่มโรค โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคมะเร็ง, โรคอ้วน, โรคเบาหวาน, โรคหลอดเลือดสมอง

“ธนาธร” ได้ฉีดพร้อมกับกลุ่มเสี่ยง ก็แสดงว่าอาจมีเหตุผลบางประการ

เมื่อ “ธนาธร” ไม่ใช่ผู้สูงอายุ ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ๗ โรค  เพราะปลายเดือนสิงหาคม ๒๕๖๔ “ธนาธร” นำทีม  “Truesouth” จากประเทศไทย จบที่ ๑๒๑ กิโลเมตร วิ่งเทรลระดับโลก “Ultra Trail du Mont Blanc” ที่ประเทศฝรั่งเศส

ทนถึกยิ่งกว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” เสียอีก

ก็มีคำถามเพิ่มขึ้นมาอีก การเข้าฝรั่งเศส ผู้เดินทางจะต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนต่อเจ้าหน้าที่ก่อนขึ้นเครื่องบินและต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

เป็นหลักฐานการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์คือ หลังจากได้รับวัคซีนเข็มที่ ๒ ไปแล้วอย่างน้อย ๗ วัน

สำหรับวัคซีนที่ต้องฉีด ๒ เข็ม ได้แก่ Pfizer, Moderna  และ AstraZeneca

แสดงว่า “ธนาธร” ฉีดวัคซีนไปแล้ว ๓ เข็ม ไม่ใช่ ๒  เข็มตามที่เป็นข่าวใช่หรือไม่

นี่ยังไม่พูดเรื่องเข็ม ๑ เข็ม ๒ ต้องฉีดห่างกันกี่วันกี่เดือน

เป็นไงครับยิ่งดูไทม์ไลน์ก็ยิ่งเจอความผิดปกติ

กลับไปที่การฉีดวัคซีนเข็มแรก วันที่ ๑ กรกฎาคม  ๒๕๖๔ มีความเป็นไปได้ว่า การฉีดในเวลาพิเศษคือ ๑๙.๑๕  น. ที่โรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์ นั้นเป็นการฉีดกรณีพิเศษ

เพราะ “ธนาธร” เป็นผู้มีอุปการคุณ สร้างคุณประโยชน์ไว้ให้จังหวัดสมุทรปราการ อย่างมากมายเหลือคณานับ

จึงอยู่ในข่ายบุคคลพิเศษ ที่ต้องได้รับการดูแลก่อน

แต่ “ธนาธร” พูดเรื่องความเหลื่อมล้ำการฉีดวัคซีนมาตลอดไม่ใช่หรือ

แล้วทำไมถึงยอมรับให้ตัวเองเป็น “อภิสิทธิ์ชน”

การโจมตีว่ารัฐบาลแทงม้าตัวเดียว กระทบไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ของ “ธนาธร” สร้างผลกระทบในวงกว้างพอควร

นอกจากทำให้สาวกต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว ยังต่อต้านวัคซีน AstraZeneca อีกด้วย

ลามไปถึงการด้อยค่าวัคซีนในช่วงต้น

ว่าทั้ง AstraZeneca และ Sinovac คือน้ำเปล่า

สาวก “ธนาธร” ต้องการวัคซีน mRNA เช่น Pfizer,  Moderna ที่ถูกยกย่องเป็นวัคซีนเทพ

เที่ยวนี้มีคนชำแหละความไม่ตรงไปตรงมาของ “ธนาธร” มาเยอะแล้ว

ฉะนั้นผมมีคำถามถึง “ธนาธร” คำถามเดียว

คำถามอยู่ในโพสต์ที่ “ธนาธร” โพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit – ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ  ที่ได้แพร่ภาพสด เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๔ หัวข้อ  “บริหารวัคซีนโปร่งใสด้วยการเปิดเผยดาต้า: คิดไปข้างหน้ากับธนาธร EP. 3” มีรายละเอียดดังนี้ครับ

“…วันนี้เป็นวันดีเดย์ที่คนไทยเริ่มรับวัคซีนขนานใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศ ท่ามกลางความสับสนอลหม่านของข้อมูลข่าวสารและนโยบายที่กลับไปกลับมาตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประชาชนต้องเสียเวลามากมายไปกับการติดตามข่าวสารและการลงทะเบียนรับวัคซีน

จนถึงวันนี้ เราแทบมองไม่เห็นความโปร่งใสในการบริหารจัดการวัคซีน

ไม่มีใครรู้ว่าแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ ได้วัคซีนอะไรเป็นจำนวนเท่าไหร่

แม้แต่ตัวเลขวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตและส่งมอบให้ไทยในเดือนมิถุนายน ก็ยังกลายเป็นความลับที่เปิดเผยไม่ได้

โดยคุณอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุข อ้างว่าเพราะวัคซีนเป็น ‘เวชภัณฑ์เกี่ยวกับความมั่นคง’ 

ผมจะพาไปดูตัวอย่างว่าในต่างประเทศ มีการบริหารจัดการเรื่องการรับวัคซีนโควิด และการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโควิดอย่างโปร่งใส สร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชนมากขนาดไหน เมื่อเทียบกับประเทศไทย

ที่การหาข้อมูลศูนย์ฉีดวัคซีน โรงพยาบาล และจำนวนผู้ฉีดวัคซีน จำนวนการกระจายวัคซีนแต่ละยี่ห้อรายพื้นที่ ว่าใครได้ซิโนแวคเท่าไหร่ ได้แอสตร้าเท่าไหร่ เป็นเรื่องยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร

การเปิดเผยข้อมูล ไม่เพียงแต่ทำให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้สะดวก ง่ายดายขึ้น แต่ยังทำให้ให้ประชาชนเชื่อมั่นในการบริหารงานของรัฐบาลมากขึ้น อยากไปฉีดวัคซีนมากขึ้น

นั่นคือสิ่งที่ผมหวังจะให้เกิดกับประเทศไทย เพื่อที่เราจะได้ออกจากวิกฤตโควิด กลับคืนสู่ชีวิตปกติโดยเร็วที่สุด…”

ครับ…”ธนาธร” โจมตีรัฐบาลบริหารวัคซีนไม่โปร่งใส

ไม่มีใครรู้ว่าแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ ได้วัคซีนอะไรเป็นจำนวนเท่าไหร่

ประชาชนเข้าถึงวัคซีนยาก

ให้หลังไม่ถึงเดือน “ธนาธร” ใช้สิทธิพิเศษอะไรบางอย่าง ไปฉีดวัคซีนที่มาจากรัฐบาลแทงม้าตัวเดียวโดยไม่มีใครทราบ

ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน หากเป็นฝีมือรัฐบาล ก็ต้องด่ารัฐบาลให้หลาบจำ

ทีหลังอย่าทำอีก

แต่เมื่อ “ธนาธร” เป็นส่วนหนึ่งของความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงวัคซีนอย่างเต็มใจ

เข้ารับบริการฉีดวัคซีน ช่วงการรณรงค์ให้กลุ่มผู้สูงอายุ  ๖๐ ปีขึ้นไป และกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ๗ กลุ่มโรค ได้ฉีดวัคซีนก่อน

เราจะทำไงกับ “ธนาธร” ดี