การเมืองปีเสือ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

สวัสดีปีใหม่ครับ

ใครๆ ก็ว่าการเมืองปีเสือ จะดุ เดือดกว่าปีที่ผ่านมา

ย้อนกลับไปดูปีที่ผ่านมา การเมืองนอกในสภาดุเอาเรื่อง

ม็อบสามนิ้วชุมนุมเกือบทั้งปี

กะจะโค่นรัฐบาลลงให้ได้

สุดท้ายเหลว

ฝ่ายค้านเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หวังจะเปลี่ยนรัฐบาล เขียนญัตติด้วยถ้อยคำรุนแรง ถ้าจริงตามที่ฝ่ายค้านกล่าวว่า  ไม่ควรให้ “ลุงตู่” เป็นนายกฯ เลยแม้วินาทีเดียว

…เป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรมจริยธรรมและไร้ความสามารถที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผู้นำประเทศ

ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดความล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องเสียหายอย่างร้ายแรงทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤติ โดยเฉพาะในยามที่บ้านเมืองต้องประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ.๒๕๖๓ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รวมศูนย์อำนาจ รวบอำนาจและมีอำนาจตามกฎหมายแบบเบ็ดเสร็จทั้งในฐานะนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

เป็นผู้กำกับการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ประธานกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-๑๙ ผอ.ศบค. ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ (ศบศ.) และ ผอ.ศบค.กทม.

อีกทั้งยังได้รวบอำนาจตามกฎหมายต่างๆ ถึง ๔๐ ฉบับ ที่เป็นอำนาจของรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลมาไว้กับตนเอง ต้องไม่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ต้องมีความซื่อสัตย์สุจริต เสียสละ เปิดเผยข้อมูลความจริง และสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในการเตรียมมาตรการป้องกัน ควบคุม และแก้ไขการแพร่ระบาดของโรคอย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพสูงสุด และบริการประชาชนโดยทั่วถึง

แต่กลับปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและไม่สุจริต มีพฤติการณ์ฉ้อฉล ทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี และข้อสั่งการของตนในลักษณะ “กลืนน้ำลายตัวเอง” ปล่อยปละละเลยต่อมาตรการป้องกันควบคุม การระบาดของโรคในหลายเรื่องจนมีการแพร่ระบาดของโรคจากกลุ่มก้อนเล็กๆ กระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่างรวดเร็วจนยากที่จะควบคุม จากการกลายพันธุ์ของโรคติดเชื้อโควิด-๑๙ ที่เพิ่มสายพันธุ์ขึ้นจากเดิม

กระทั่งปัจจุบันการแพร่ระบาดดังกล่าวเข้าไปสู่ชุมชนและครัวเรือน ส่งผลให้เพียงระยะเวลา ๔ เดือนเศษ มีผู้ติดเชื้อเกือบเก้าแสนคน และเสียชีวิตกว่าเจ็ดพันคน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีหน้าที่และอำนาจในการจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดตามหลักจริยธรรมและหลักวิชาการเพื่อฉีดให้กับประชาชนโดยทั่วถึงและรวดเร็ว โปร่งใส และตรวจสอบได้ “ประชาชนทุกคนที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนต้องได้ฉีด”

รวมถึงวัคซีนทางเลือกอีกหลายประเภทที่ประชาชนต้องการ แต่ที่ปรากฏคือความล่าช้า เลื่อนลอย ไม่แน่นอนว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนทางเลือกหรือไม่

การตรวจหาเชื้อก็ทำได้ในปริมาณน้อย มีมาตรการไม่แน่นอน เครื่องมือในการตรวจหาเชื้อไม่เพียงพอ ไม่ทันกับการแพร่ระบาดของโรคที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกวัน การจัดหาเครื่องมือเป็นไปโดยทุจริต

ส่วนมาตรการควบคุมโรคก็ไร้ทิศทาง ผิดเป้าหมาย และแผนงาน และไร้ประสิทธิภาพ ประชาชน และภาคธุรกิจได้รับผลกระทบและความเสียหายจากมาตรการของรัฐ

อาทิ การล็อคดาวน์ การสั่งปิดสถานประกอบการ โดยขาดการศึกษาวิเคราะห์ที่ดีพอ อันนำมาสู่ความเสียหายจนทำให้ภาคธุรกิจ ต้องเลิกกิจการจำนวนมาก การดำรงชีวิตของประชาชนเป็นไปอย่างยากลำบาก เกิดภาวะตกงาน ต้องกลับไปต่อสู้ดิ้นรนยังภูมิลำเนาบ้านเกิด

มาตรการที่กำหนดขึ้นทั้งจากการปิดเมือง ปิดโรงงาน กำหนดข้อห้ามต่างๆ ออกข้อกำหนดครั้งแล้วครั้งเล่า กลับไม่สามารถหยุดยั้งหรือลดการแพร่ระบาด ของโรคได้จนส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน…..

ครับนั่นคือเหตุการณ์เมื่อเดือน สิงหาคม ๒๕๖๔

การเมืองในสภาทำอะไรรัฐบาลลุงตู่ไม่ได้

หลายข้อหาที่นำมาซักฟอก ถูกตั้งคำถามว่าฝ่ายค้านควรตั้งกระทู้ถาม หรือยืนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจกันแน่

พรรคเพื่อไทยแทบไม่มีเครดิตเรื่องการปราบคอร์รัปชั่น เพราะยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทยหนีคุกดคีโกงไปต่างประเทศ

ทั้งๆ ที่การทุจริตในรัฐบาลลุงตู่อาจมีอยู่จริง แต่คนตรวจสอบมีชนักติดหลัง หนำซ้ำทำการบ้านมาปราบโกงไม่ดีพอ

เรื่องสำคัญจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาไป

ยืนอยู่ ณ ปัจจุบันแล้วมองย้อนกลับไปจะเห็นว่า เฉพาะกรณี โควิด-๑๙ ที่่ฝ่ายค้านนำมาโจมตีรัฐบาลนั้น ล้วนจับแพะชนแกะ

ใช้ความรู้สึกมากกว่าข้อเท็จจริง

ไม่เฉพาะฝ่ายค้านที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ที่ไม่แสวงหาข้อเท็จจริง

“ทักษิณ ชินวัตร” ร่วมผสมโรงด้อยค่ารัฐบาล เหยียดหยามการทำงานของรัฐบาลว่าไร้ราคา

“ทักษณ” พูดในนาม “โทนี่ วู้ดซั่ม” วันที่ ๑ มิถุนายน

 “…วันนี้เลยไม่รู้ว่าตกลงจะสั่งอะไรที่ไหน ก็มีแต่พูดแต่ชื่อมา แต่ข้อเท็จจริงแล้วเรารู้ว่ายังไม่ได้เซ็นอะไรมาเลย แอสตร้าฯ ก็ยังมีปัญหาว่าตกลงผ่านแล้วหรือยัง แล้วมันจะมาใช้ได้จริงหรือเปล่า

ถ้าจริงคงสาธุ ขอบคุณแทนประชาชนจริงๆ

แต่ว่าวันนี้คือท่านอย่าไปรับรายงานอย่างเดียวว่าเรียบร้อย โอ้โห วันนี้ท่านมั่นใจว่าร้อยล้านโดสมาแน่นอนสิ้นปีนี้

ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว สิ้นปีนี้ไม่มีร้อยล้านโดสฉีดให้ประชาชน…”

วันที่ ๑๙ ธันวาคมที่ผ่านมาประเทศไทยฉีดวัคซีนครบ ๑๐๐ ล้านโดส

ขี้หมากองเดียวยังมีค่ามากกว่า “ทักษิณ”

ครับ…โดยสรุปการเมืองในสภาฯ ม็อบบนถนน ในปี ๒๕๖๔ ทำอะไรรัฐบาลลุงตู่ ไม่ได้

ฉะนั้นปี ๒๕๖๕ นี้จะเป็นนัดล้างตา

การเมืองปีเสือเข้มข้นกว่าปีวัวแน่นอน

ม็อบสามนิ้วประกาศ ชุมนุมหลังปีใหม่ ไล่รัฐบาลลุงตู่ จาบจ้วงสถาบันต่อ

เลือกตั้งผู้ว่ากทม. จะเป็นสงครามตัวแทน วัดคะแนนนิยมระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาล

ที่แน่ๆ พรรคเพื่อไทยจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ ๘ ปี ของลุงตู่ อย่างแน่นอน

ถ้าวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ “ลุงตู่” ยังเป็นนายกฯอยู่ ก็เจอกัน

นอกจากนี้ฝ่ายค้านยังสามารถเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อีก

ขณะที่ “ลุงตู่” มีงานใหญ่รออยู่

คือ “โอมิครอน”

องศาการเมืองปีวัวกับปีเสือแทบไม่มีอะไรแตกต่างมากนัก

ถ้าลุงตู่ผ่านด่านศาลรัฐธรรมนูญ ก็อยู่ยาว

ต้นปี ๒๕๖๖ ไปเลือกตั้ง


Written By
More from pp
ฝน – สำนักงานราชบัณฑิตยสภา
ฝน เป็นคำเรียกน้ำที่ตกลงมาจากฟากฟ้า มองเห็นเป็นสาย น้ำฝนที่ตกลงมามีลักษณะต่างกันแล้วแต่ปริมาณของน้ำ  ถ้าตกน้อย ๆ เห็นเป็นละอองฝอย เรียกว่า ฝนตกเป็นเยี่ยวจักจั่น เรียกละอองฝอยนั้นว่า ละอองฝน ถ้าตกมากขึ้นเป็นฝนโปรย...
Read More
0 replies on “การเมืองปีเสือ-ผักกาดหอม”

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
'); }); var ratingTotalIndicator = function() { var indicator = document.querySelectorAll('.rating-total-indicator'); if (typeof indicator === 'undefined' || indicator === null) { return; } for ( var i = 0, len = indicator.length; i 0 || bottom > 0) && top