อย่าให้คนโกงได้ใจ-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

น่าจะเข้าใจอะไรผิดไปเยอะครับ…

ช่วงนี้รัฐมนตรีสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ค่อยจะเป็นสุขเท่าไหร่

เพราะคนด่ากันเยอะ

ก็เรื่อง อภัยโทษให้นักโทษคดีคอร์รัปชัน ที่ยิ่งอธิบาย ลิ้นก็ยิ่งพัน

ประเด็นมันมีแค่ว่า คนโกงชาติโกงแผ่นดินไม่ควรได้รับการอภัยโทษ ต้องติดคุกตามคำพิพากษาของศาล เท่าไหร่ก็เท่านั้น

เหตุผลก็ไม่มีอะไรซับซ้อน เพื่อเป็นการปราม ไม่ให้มีคนโกงเพิ่มขึ้น

เพราะประเทศไทยต้องทนทุกข์ทรมานกับการโกงกินในทุกระดับอย่างยาวนานเกินไปแล้ว ฉะนั้นจะต้องไม่ทนกับเรื่องพวกนี้อีกต่อไป

ไม่เช่นนั้นแล้ว…คนโกงก็พร้อมที่จะโกงเพราะเห็นว่าทำแล้วคุ้ม ติดคุกไม่กี่ปี กลับออกมาเสวยสุขจากทรัพย์สมบัติที่ซุกไว้

แถมยังมีผู้คนนับหน้าถือตา ไม่แสดงความรังเกียจแม้สักนิด ซึ่งเราก็เห็นแล้วจากหลายวงการ แม้กระทั่งวงการสื่อสารมวลชน

โกง ติดคุก อภัยโทษ กลับมาเป็นบุคคลสาธารณะ กอบโกยต่อ  แฟนคลับไม่ว่าอะไร มีแต่ยกก้น คนเก่ง ชั้นเอก ที่หนึ่ง

ถ้าสังคมยังมีทัศนคติต่อการโกงแบบนี้ มันก็ยากที่ประเทศไทยจะปลอดจากการโกงได้

“สมศักดิ์ เทพสุทิน” นำเรื่องนักโทษคดีโกง ไปเปรียบกับนักโทษคดีชุมนุม คล้ายกับขายเหล้าพ่วงเบียร์ ถ้าลดโทษต้องลดหมด ถ้าไม่ให้ลด ก็ไม่มีใครได้ลด

พร้อมกับคำถาม จะเอาหรือเปล่า?

วันก่อน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ออกแถลงการณ์ตั้งข้อสังเกตว่า ในการพระราชทานอภัยโทษ เมื่อปี  พ.ศ.๒๕๕๙ ได้ยึดหลักว่า จะไม่พิจารณาลดหย่อนผ่อนโทษให้คดีคอร์รัปชัน คดีข่มขืน และคดียาเสพติด

ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ที่ได้ทำกันมาอยู่แล้ว ตามที่พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เคยกล่าวไว้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในสมัย “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ไม่ทราบว่าด้วยเหตุใดและโดยใคร ทำให้หลักเกณฑ์ที่เคยเป็นหลักความเชื่อมั่นของระบบยุติธรรมเปลี่ยนแปลงไป จนเอื้อประโยชน์ในการลดหย่อนผ่อนโทษให้นักโทษ

โดยเฉพาะคดีคอร์รัปชันที่ไม่น่าจะได้ลดหย่อนรวดเร็วขนาดนั้น….

ขณะที่การอธิบายของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ดูจะเป็นการจนมุมต่อปัญหาคดีอาญาร้ายแรง อย่างศิโรราบ

อ้างว่า…การปรับแก้ในแนวทางการอภัยโทษ จะมีผลกระทบต่อคนกลุ่มนี้ เช่น การฆ่า การทุจริต หรือโทษที่กระทำกับเจ้าหน้าที่ต่างๆ

…หากจะแก้ต้องแก้กันหมด…

ถ้า “สมศักดิ์ เทพสุทิน” ตระหนักถึงภัยคอร์รัปชันอย่างถ่องแท้ จะไม่พูดออกมาลักษณะนี้

เพราะในขณะที่ต้นทางการแก้ปัญหา ประเทศไทยสามารถแก้ไขให้คดีคอร์รัปชันโดยนักการเมือง เป็นคดีที่ไม่มีอายุความได้

แล้วทำไมปลายทางจะไม่สามารถแก้ไขให้สอดคล้องกันได้

ฟังดูก็ตลก!

ในทางหนึ่งเราไล่บี้คนโกง อย่างไรเสียต้องหนีตลอดชีวิตหากไม่ยอมมาขึ้นศาล

แต่พอมาขึ้นศาลแล้วบอกว่า ติดคุกไม่กี่ปีเดี๋ยวปล่อย

ตกลงแล้วเจตนารมณ์การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชันคืออะไรกันแน่

ก็ยังดีที่ “ลุงตู่” รับปากว่า วันนี้ต้องเอามาทบทวน

“…เดี๋ยวกำลังทบทวน ต้องศึกษาดูว่ามีอะไรที่ไม่เหมาะสมอยู่ตรงนี้ บางทีเรื่องเก่าที่กำหนดไว้ บางทีมันไม่ชัดเจน ความผิดความเสียหายมากน้อยอย่างไร เราต้องดูตรงนี้

มันคือเรื่องความทุจริต แล้วมันก็เข้าเกณฑ์ของเขาเมื่อเขาเสนอไปอย่างนั้น ก็ต้องไปดูว่าเกณฑ์ที่เขากำหนดไว้มันเหมาะสมหรือไม่

ถ้าไม่เหมาะสมก็ต้องแก้ใหม่…”

“…ต้องไปแก้ไขกฎระเบียบตรงนั้นในเรื่องของ พ.ร.บ. ต้องมีการแก้ไขบ้าง แต่ยืนยันว่าผมต้องแก้ปัญหาตรงนี้ให้ดีที่สุด อย่าเพิ่งให้เกิดปัญหา เกิดความวุ่นวายขึ้นเลยในตอนนี้

ทุกอย่างมันมีกฎระเบียบทั้งสิ้น ผมก็เอามาศึกษาหลายตัวด้วยกัน  มีทั้งนักโทษชั้นดี นักโทษชั้นเยี่ยม ลดเท่าไหร่ เท่านั้นเท่านี้ ปีนึงก็ไม่ได้กำหนดไว้ว่าถ้ามีนิรโทษแล้วจะให้กี่ครั้ง ไม่ได้เขียนตรงนี้ไว้เลย ก็ต้องมาทบทวนใหม่ทั้งหมด

สถานการณ์มันเปลี่ยนแล้วใช่ไหม กฎหมายคือสิ่งสำคัญ…”

จากคำพูดของ “ลุงตู่” ก็พอมีความหวังอยู่ครับ อย่างน้อยก็เข้าใจว่า ควรเข้มงวดกับคดีคอร์รัปชัน หากข้อกฎหมายเป็นอุปสรรคก็ต้องแก้ไข

เพียงแต่ไม่มีความชัดเจนว่า…แล้วเมื่อไหร่ล่ะ

อภัยโทษ รอบหน้าจะเกิดเรื่องพวกนี้อีกหรือไม่

นักโทษคดีทุจริตจำนำข้าว จะได้ลดโทษอีกหรือไม่

เพราะถ้าได้ บางคนอาจพ้นคุกทันที ทั้งที่ติดคุกไปแค่ไม่กี่ปี จากโทษจริงค่อนชีวิต

มีประเด็นที่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดกันซะหน่อย

นับแต่ข่าวอภัยโทษ โดยกลุ่มนักโทษคดีคอร์รัปชันได้ประโยชน์ไปเต็มๆ นั้น ไม่มีสุ้มเสียงจากฝั่งพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ

รวมถึงมวลชนสามนิ้ว ก็ไม่ได้ออกมาเทกแอกชันเลย

จนรู้สึกประหลาดใจ คนกลุ่มนี้ ตายด้านกับปัญหาคอร์รัปชันไปแล้วหรือไร

หรือเพราะนักโทษคดีโกงเป็นคนของพรรคตัวเอง ทำให้น้ำท่วมปาก พูดอะไรไม่ออก

ถึงพูดออก ก็จะเข้าตัว

เพราะยังมีนักโทษบางคนหนีคดีโกงไปต่างประเทศ

“ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ตัวเป้งเสียด้วย

ที่น่าอดสู คณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ไม่สนใจสิ่งนี้เลย

ไร้การแสดงท่าทีใดๆ ออกมาทั้งจากระดับแกนนำยันทหารเลวหน้าค่าย

ไม่มีการโพสต์ความเห็นผ่านโลกโซเชียล

ทั้งเพจของพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า พร้อมใจกันไม่รู้ ไม่เห็น การอภัยโทษให้คนโกงบ้านกินเมืองใดๆ ทั้งสิ้น

มุ่งไปที่การยกเลิก ม.๑๑๒

โจมตีศาลรัฐธรรมนูญ

และโหน “จะนะ”  เสียมากกว่า

ทำไมต้องให้ความสำคัญกับคดีคอร์รัปชัน

เอาเฉพาะคดีจำนำข้าว นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง พ่อค้า ร่วมกันโกง มูลค่าความเสียหายนับแสนล้าน

อีกทั้งการบริหารนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังส่งผลด้านงบประมาณมาถึงปัจจุบัน

ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) แจ้งตัวเลขมาแล้วว่า ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ สำนักงบประมาณได้ตั้งงบชำระหนี้ให้ ธ.ก.ส. จำนวน ๖.๙ หมื่นล้านบาท

ปัจจุบันรัฐบาลยังมีภาระหนี้จากโครงการดังกล่าวที่ต้องชำระคืนให้ ธ.ก.ส. จำนวน ๑ แสนล้านบาท

คาดว่าสำนักงบประมาณจะมีการตั้งงบประมาณเพื่อจ่ายหนี้ ปีละ  ๑๐-๒๐% ของงบประมาณรายจ่าย ซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ ๓-๕ ปีจึงจะชำระหนี้หมด

ขณะที่ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้เตรียมปิดบัญชีโครงการจำนำข้าว ซึ่งยังมีข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่ได้จากการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี และข้าวเปลือกนาปรัง ของรัฐบาลก่อน ที่รอการระบายอีกประมาณ ๒.๒ แสนตัน

ทั้งหมดเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพ

เบื้องต้นขาดทุนประมาณ ๕ แสนล้านบาท

นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมต้องห้ามอภัยโทษให้นักการเมืองโกง และปล่อยให้มีการโกงโดยเด็ดขาด


Written By
More from pp
“ทิพานัน” ชูผลงานทำอยู่ทำแล้วทำต่อ “พล.อ.ประยุทธ์” แก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ หลังสถิติแจ้งความออนไลน์ลดลงสัปดาห์ละ 700 ราย ย้ำโทษสูงซิมผี -บัญชีม้าคุก 5 ปี ปรับ 5 แสน
30 มีนาคม 2566 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
Read More
0 replies on “อย่าให้คนโกงได้ใจ-ผักกาดหอม”