ผักกาดหอม
น่าขำ…แต่ไม่ตลก
มีข่าวต่างประเทศชิ้นหนึ่งจากสำนักข่าว NBC News อ่านแล้ว ไม่รู้จะหัวเราะ หรือร้องไห้ดี เพราะมันคือความจริงที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียล
โลกคู่ขนานที่ไม่ค่อยจะสนใจความจริง นอกจาก “ธง” ที่วางอยู่ในใจ
เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ แปลข่าวชิ้นนี้มา ลองอ่านดูครับ
———–
“… NBC News รายงานว่ากลุ่มคนที่ต่อต้านการรับวัคซีน (Anti-vaxxer) หลายคนยอมเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-๑๙ แล้ว
แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็กำลังพยายามกำจัดวัคซีนออกจากร่างกายเช่นกัน
วิดีโอหนึ่งกลายเป็นไวรัลบน TikTok และมียอดชมนับแสนครั้งเมื่อ ดร.แคร์รี มาเด เผยถึงส่วนผสมในการอาบน้ำเพื่อ “ดีท็อกซ์” วัคซีนออกจากร่างกาย สำหรับผู้ที่ได้รับคำสั่งให้ต้องฉีดวัคซีนทั้งที่ไม่เต็มใจ
เธอแอบอ้างอย่างผิดๆ ว่าการใช้บอแรกซ์อาบน้ำจะสามารถนำนาโนเทคโนโลยีออกจากร่างกายได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมอื่นๆ อย่างเบกกิ้งโซดาและดีเกลือ ที่เธออ้างว่าจะสามารถดีท็อกซ์รังสีในร่างกายที่ถูกกระตุ้นโดยวัคซีน
รวมถึงดินเบนโทไนต์ซึ่งจะช่วยขับพิษร้ายแรง
ในความเป็นจริงแล้ว บอแรกซ์จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา
ซึ่งแพทย์ผิวหนังเตือนว่าไม่ควรนำมาอาบ เพราะอาจทำให้ผิวหนังเกิดแผลไหม้จากสารเคมีได้ ซึ่งนอกจากจะเป็นอันตรายแล้วยังไม่สามารถขับวัคซีนออกจากร่างกายได้ด้วย
คนส่วนใหญ่ใน TikTok ไม่ทราบว่าเธอเป็นใคร
แต่เมื่อเห็นคำว่า “ดร.” นำหน้าชื่อของเธอแล้วก็ไม่ลังเลที่จะอาบน้ำบอแรกซ์ แม้ว่าองค์การอาหารและยา (FDA) ห้ามใส่สารบอแรกซ์ลงในอาหาร
และหลายคนใช้มันเพื่อฆ่าแมลง
นี่เป็นหนึ่งในหลายวิธีการผิดๆ ที่ผู้มีอิทธิพลในกลุ่ม Anti-vaxxer ออกมาให้คำแนะนำบนโซเชียลมีเดียเพื่อขับวัคซีนออกจากร่างกาย หลังจากที่หลายคนถูกกดดันจากสังคมหรือที่ทำงานให้ต้องฉีดวัคซีนโดยไม่เต็มใจ…”
———
ไม่เฉพาะประเทศไทยครับ โลกโซเชียลทั่วโลกมีความคล้ายคลึงกัน
กลุ่มคนที่ปักใจเชื่อเรื่องหนึ่งเรื่องใด พร้อมรับเฉพาะชุดข้อมูลตามที่ตัวเองเชื่อเท่านั้น โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง
มันก็เหมือนประเทศไทยที่พยายามปลุกว่า ปัจจุบันอยู่ในระบอบการปกครอง “สมบูรณาญาสิทธิราชย์”
คนรับข้อมูลก็เชื่อเป็นตุเป็นตะ
พากันหาเหตุผลข้างๆ คูๆ ล้างสมองตัวเองให้เชื่อว่า อยู่ในยุค สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ให้ได้
ครับ…มีการปลุกกระแสสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในหมู่ปัญญาชนสามนิ้ว มีการแนะนำให้อ่านบทความ บูรณาญาสิทธิราชย์ ของนักเขียนฝ่ายซ้าย
ให้ดาวน์โหลดฟรี!
ล้วนเป็นบทความที่ใช้ความคิดคนปัจจุบันไปตัดสินอดีต แล้วบอกว่าอดีตคือสิ่งไม่ถูกต้อง ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
ล้างสมองจนเชื่อคล้อยตามกันไปหมด
จากข้อมูลเดิมที่บอกว่า สมบูรณาญาสิทธิราชย์ จบสิ้นไปตั้งแต่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕ วันนี้บิดเบือน สร้างชุดความเชื่อใหม่ ไทยยังปกครองด้วยระบอบ สมบูรณาญาสิทธิราชย์
ที่น่าตกใจคือ มีคนเชื่อครับ!
เหมือนที่เชื่อว่า อาบน้ำบอแรกซ์ดีท็อกซ์วัคซีนออกจากร่างกาย ไม่มีผิด
ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ หมายถึง ระบอบการปกครองที่พระมหากษัตริย์ มีพระราชอำนาจสมบูรณ์เด็ดขาด (Sovereign)
รวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง (Centralization)
และถือว่าพระมหากษัตริย์ได้รับมอบหมายอำนาจมาจากพระเจ้า ที่เรียกว่า เทวสิทธิ (Divine Right of King)
สมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นเรื่องของอดีต และนักทฤษฎีการเมืองสนับสนุนระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ก็มีเช่นกัน
Jean Bodin (๑๕๓๐-๑๕๙๖) เป็นนักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศส มีผลงานเขียนสำคัญ คือ “เรื่องสาธารณรัฐ (The Republic)” พิมพ์เมื่อ ค.ศ.๑๕๖๗
————-
“…ประเทศมีวิวัฒนาการมาจากครอบครัวใหญ่ ประมุขของประเทศมีอำนาจสูงสุดแต่ผู้เดียว โดยไม่แบ่งอำนาจไปยังรัฐสภาที่จะมาจำกัดสิทธิและอำนาจของกษัตริย์
กษัตริย์มีอำนาจเป็นผู้ออกกฎหมายที่สำคัญ ใช้กับผู้ใต้ปกครอง ซึ่งต้องยอมรับและเชื่อฟังโดยดุษฎีภาพ
ส่วนกษัตริย์ต้องเคารพกฎธรรมชาติ (The Law of Nature) หรือกฎของพระเจ้า (The Law of God) หากกษัตริย์ละเมิดกฎธรรมชาติ หรือกฎของพระเจ้า เป็นผู้ปกครองไม่ดี ไม่ใช่สิทธิหน้าที่ของประชาชนจะปฏิวัติหรือก่อการจลาจล เพราะจะนำความเสียหายทางเศรษฐกิจ และบั่นทอนความมั่นคงของประเทศ
อำนาจกษัตริย์ได้รับมอบหมายจากพระเจ้า อยู่ในฐานะเป็นศูนย์รวมของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และอยู่เหนือความแตกแยกทางการเมืองและศาสนาทั้งปวง
ทั้งนี้ เพื่อความสงบสุข และเสถียรภาพความมั่นคง ของประเทศ อันจะเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจให้ก้าวหน้า และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับ การพัฒนาประเทศ…”
————-
Thomas Hobbes (๑๕๘๘-๑๖๗๖) นักปราชญ์ชาวอังกฤษ ผู้สนับสนุนกษัตริย์ราชวงศ์สจวตแห่งอังกฤษ ต่อสู้กับรัฐสภา เขียนอธิบายถึง อำนาจอธิปไตยไว้อย่างกว้างขวางในหนังสือชื่อ Leviathan
เขาอธิบายว่า มนุษย์แต่ละคนได้ทำสัญญาระหว่างกัน สละอำนาจและสิทธิที่แต่ละคนมีอยู่โดยธรรมชาติให้แก่องค์อธิปัตย์
องค์อธิปัตย์มีอำนาจเด็ดขาดในการปกครองเพียงผู้เดียว ประชาชนทุกคนยอมอยู่ภายใต้อำนาจนั้น โดยที่ประชาชนไม่มีสิทธิเรียกร้องใดๆ ต่อองค์อธิปัตย์ อำนาจองค์อธิปัตย์เป็นอำนาจที่เด็ดขาดและสูงสุด
สัญญาสังคมที่ประชาชนทำต่อกันนั้น เป็นสัญญาระหว่างประชาชนต่อประชาชน ไม่ใช่สัญญาระหว่างประชาชนกับองค์อธิปัตย์
องค์อธิปัตย์จึงไม่เป็นคู่สัญญากับประชาชน
ดังนั้นองค์อธิปัตย์จึงไม่มีทางที่จะทำผิดสัญญาได้
ประชาชนเป็นผู้ก่อตั้งและมอบอำนาจให้องค์อธิปัตย์ เพราะเห็นความจำเป็นและมีประโยชน์ ฉะนั้นประชาชนจะไม่พอใจการกระทำใดๆ ขององค์อธิปัตย์ไม่ได้
นั่นคือความคิดของคนเมื่อกว่า ๔๕๐ ปีที่แล้ว เพราะบริบทของโลกขณะนั้นเป็นเช่นนั้น
แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่
แม้จะมีประเทศที่ยังปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อาทิ บรูไน ซาอุดีอาระเบีย อยู่ก็ตาม แต่สำหรับไทย หวนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว
ฉะนั้นการปลุกกระแสต่อต้าน สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ขึ้นมา ก็เพียงเพื่อสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เพื่อล้มล้างนั่นเอง
ที่บอกว่า ปฏิรูป ไม่ใช่การล้มล้าง เป็นแค่ลมปาก
เพราะแต่ละพฤติกรรมล้วนนำไปสู่การล้มล้างทั้งสิ้น
หากสามารถ “แก้ไข” หรือ “ยกเลิก” ม.๑๑๒ ได้สำเร็จ เบื้องหลังของขบวนการล้มล้างก็จะเผยตัวตนต่อสาธารณะ
ถึงวันนั้น สิ่งที่ขบวนการนี้ต้องการในขั้นตอนสุดท้ายคือ เลือดนองแผ่นดิน เฉกเช่นการปฏิวัติของยุโรปในอดีต จะเกิดขึ้น
แต่ก็ไม่ง่ายที่จะเกิด
คนที่ถูกล้างสมองจนเชื่อว่าปัจจุบันไทยปกครองโดย ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ยังเป็นเฉพาะกลุ่ม
เช่นนักศึกษาที่เคลื่อนไหวตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่ลงทุนลงแรงล้างสมองตัวเอง เสพข้อมูลเท็จจากโซเชียลจนเกิดอุปาทานหมู่
หยอดข้อมูลเท็จกันจนเชื่อจริงๆ ว่า กำลังอยู่ในยุค พระมหากษัตริย์ มีพระราชอำนาจสมบูรณ์เด็ดขาด เพียงผู้เดียว
ทั้งๆ ที่คนพวกนี้มีพรรคการเมืองที่ชื่นชอบอยู่ในสภาฯ และขยันใช้อำนาจนิติบัญญัติตรวจสอบสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างผิดๆ
ครับ…การเรียกร้องใดๆ ก็ตามที่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง สำเร็จได้ยาก หากสำเร็จจะสร้างปัญหาใหม่ตามมา หาความสงบสุขไม่ได้
อย่าใช้วิธีคิดแบบคนอินเดีย ฆ่าโควิดด้วยการกินแอลกอฮอล์ หรือแบบฝรั่งอาบน้ำบอแรกซ์ขับวัคซีน
ต่อต้านระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ที่ไม่มีอยู่จริง คือบ่อเกิดการหลอกลวง หลอกกระทั่งตัวเอง
สุดท้าย “ตัวตน” ไม่มีอะไรจริงเหลืออยู่เลย
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า