วันที่ 28 ตุลาคม 2564 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เมื่อฝุ่นจาง เราจะเห็นสิ่งต่างๆ ชัดขึ้น วันนี้ สถานการณ์โควิดในประเทศไทยคลี่คลายลงมาก ผมขออ้างอิงข้อมูลของ นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ที่ระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อของไทยลดลงจากจุดพีค ที่ประมาณ 3 เท่า และยอดการสูญเสียน้อยลง 5 เท่า ตัวเลขไม่โกหกใครหรอกครับ
และผมเองก็เชื่อหมอ ขณะที่เรื่องวัคซีน เราฉีดไปได้แล้วกว่า 72 ล้านโดส และเราบรรลุสัญญาการจัดหาถึงปีหน้ามากกว่า 200 ล้านโดส เพียงพอให้บริการประชาชน ไปจนถึงเข็มบูสเตอร์อย่างแน่นอน เท่าที่ติดตามข่าว จะพบว่า เราสามารถจัดสรรวัคซีนลงพื้นที่ ซึ่งมีการระบาดได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการตั้งโรงพยาบาลสนาม และวางแผน เพื่อจำกัดการสูญเสีย ทางกระทรวงสาธารณสุขไทย ก็ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ยอดผู้ติดจะมีรายงานเข้ามา แต่ยอดการสูญเสียก็น้อยลงมากอย่างมีนัยยะสำคัญ
ส่วนสำคัญ ที่ผมระลึกอยู่เสมอคือ การทำงานหนักของกระทรวงสาธารณสุข ผมเห็นการทำงานของหัวหน้าพรรคผมในฐานะรัฐมนตรีของกระทรวงฯ นี้ ซึ่งมันหนักหนามาก และมันได้สะท้อนการทำงานของบุคลากรท่านอื่นๆ ด้วย เพราะเมื่อหัวคิดหนัก แขนขา ก็ต้องขยับมากเป็นธรรมดา แต่มันก็ทำให้ประเทศไทย สามารถก้าวผ่านวิกฤติโควิด 19 ไปได้
อันที่จริงแล้ว กระทรวงสาธารณสุข ทำมากกว่าเรื่องโควิด ผมได้คุยกับชาวบ้าน ทุกวันนี้ ชาวบ้านสามารถรักษามะเร็งในโรงพยาบาลใกล้บ้านได้แล้ว ประชาชนฝากขอบคุณท่านรัฐมนตรี และหมอพยาบาล ที่ช่วยทำให้คนป่วยได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ผมเอง ได้นำเรียนท่านแล้ว ท่านมีเพียงแต่รอยยิ้ม และฝากขอบคุณ ที่เห็นประโยชน์จากนโยบายของท่าน
ปัจจุบัน เรามีนโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ เรามีเครื่องฉายรังสีซึ่งท่านรัฐมนตรีจัดหาเข้ามาจำนวน 7 เครื่อง ติดตั้งอยู่ในโรงพยาบาลทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ สำหรับ ผู้ป่วยที่นิยมแพทย์ทางเลือก ประเทศไทยสนับสนุนให้มีคลินิกกัญชา ตามพื้นที่ต่างๆ ไปจนถึงสนับสนุน ให้นำกัญชามาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มมูลค่าด้วย เหล่านี้ เกิดขึ้นแล้วครับ
เห็นไหมครับ ว่า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร นำกัญชามาเป็นส่วนผสมแล้ว นี่คือ ความคืบหน้า ที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ และเรื่องกัญชา หลังจากเราสามารถคลายล็อกได้มามากจนถึงวันนี้ อีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ไม่นานเกินรอ ขณะที่ในเรื่องของสวัสดิการผู้ปฏิบัติงานในกระทรวงสาธารณสุข ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับน้องพยาบาลบรรจุใหม่ ซึ่งก็เพิ่งได้รับโอกาสจากนโยบายของรัฐมนตรีอนุทิน ในการบรรจุพนักงานข้าราชการให้เป็นข้าราชการเต็มตัวถึงกว่า 40,000 ตำแหน่ง
การได้เป็นข้าราชการ ถือเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับหลายคน เพราะนี่คือรางวัลจากการทำงานหนัก ความทุ่มเทพยายาม ความตั้งใจ บางคนรอเวลานี้มาเป็นทศวรรษ ในที่สุด ก็สมหวัง น้องที่ผมไปคุยด้วย น้ำเสียงเขาดีใจมาก ข้าราชการใหม่ที่เติมเข้ามาจะเป็นรากฐานให้ระบบสาธารณสุขไทย
เพราะอย่าลืมว่า นอกจากโควิดที่เรากำลังเผชิญ ประเทศไทย จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุด้วย ผมยินดี ที่ได้เห็นระบบสาธารณสุขของไทย สามารถเป็นหลักด้านสุขภาพให้กับประชาชน วันนี้ เมื่อฝุ่นจางไป มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เห็นอก เห็นใจ บุคลากรสาธารณสุขไทย และเราจะเห็นสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในระบบสุขภาพ ภายใต้การบริหารงานของรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ของพี่น้องบุคลากรสาธารณสุข หรือท่านหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยของพวกผม