กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ห่วงประชาชนในพื้นที่น้ำท่วม ขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมทางน้ำ อาทิ ห้ามออกหาปลาช่วงน้ำไหลหลาก ขับรถหรือเดินฝ่าบริเวณน้ำท่วม ห้ามปล่อยเด็กเล่นน้ำ เสี่ยงต่อการถูกกระแสน้ำพัดพาหรืออาจจมน้ำเสียชีวิตได้
22 ตุลาคม 2564 นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีฝนตกฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฝนที่ตกสะสม ส่งผลให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ที่น่าห่วงคือการจมน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่พบมากที่สุดเมื่อเกิดน้ำท่วม
จากการเฝ้าระวังการจมน้ำในช่วงน้ำท่วมของกรมควบคุมโรค ระหว่างวันที่ 23 กันยายน – 19 ตุลาคม 2564 พบผู้เสียชีวิตสะสมรวม 67 ราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 45 ปีขึ้นไป เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิงถึง 4 เท่า สาเหตุหลักคือ พลัดตกน้ำ ออกหาปลาขณะน้ำไหลเชี่ยว
ส่วนในกลุ่มเด็ก คือ การเล่นน้ำในพื้นที่น้ำท่วม เดินลุยน้ำและถูกน้ำพัด เป็นต้น โดยในทุกกลุ่มอายุพบว่ามีประวัติการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนเกิดเหตุการณ์ถึงร้อยละ 14 และจุดเกิดเหตุเป็นบริเวณทุ่งนามากที่สุด รองลงมาเป็นบริเวณรอบบ้าน ส่วนจังหวัดที่มีพบการจมน้ำเสียชีวิตมากที่สุด คือ ลพบุรี และนครราชสีมา (จังหวัดละ 10 ราย)
กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนำประชาชนที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม หรืออยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมฉับพลัน ขอให้ระมัดระวังและเพิ่มความปลอดภัยจากการจมน้ำ ดังนี้
1.อพยพไปยังพื้นที่สูง รีบออกจากพื้นที่ในกรณีเกิดน้ำท่วมฉับพลัน
2.เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทาง ไม่ควรขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วม โดยเฉพาะรถจักรยายนต์ เพราะความสูงของน้ำเพียง 6 นิ้ว สามารถทำให้เสียหลักล้มได้ และให้สวมเสื้อชูชีพ หรือนำอุปกรณ์ที่ลอยน้ำได้ ติดตัวไปด้วยเสมอ เช่น ถังแกลลอนพลาสติกเปล่าปิดฝา เพื่อใช้สำหรับยึดเกาะพยุงตัว
3.หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมทางน้ำ เช่น หาปลา เก็บผัก ระหว่างที่มีน้ำเชี่ยว เพราะอาจเสี่ยงต่อการถูกกระแสน้ำพัดพา หรือตกลงไปในบ่อน้ำลึกได้
4.ไม่ควรให้เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้มีโรคประจำตัว อยู่ตามลำพัง
5.งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด และ
6.ให้ติดตามข้อมูลข่าวสาร สภาพอากาศตามประกาศเตือนของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422