เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ที่ โรงพยาบาลกระบี่ จ.กระบี่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เดินทางไปเยี่ยมชมจุดฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
นายอนุทิน กล่าวว่า วันนี้ตนมาเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนโรงพยาบาลกระบี่และจุดฉีดวัคซีน อบต.น้ำผุด จ.กระบี่ บรรยากาศในวันนี้มีผู้เข้ามารับวัคซีนจำนวนมาก โดยสถานที่ฉีดมีการจัดเว้นระยะห่าง อากาศถ่ายเทสะดวก และมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำขั้นตอนการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งช่วยลดระยะเวลารอคอย โดยใช้เวลาเพียง 45 นาที รวมเฝ้าสังเกตอาการอีก 30 นาที
นายอนุทิน กล่าวว่า จากการตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีน รพ.กระบี่ ที่เปิดรับการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์กระบี่ชนะ เฉพาะ อ.เมือง มีผู้ลงทะเบียน ราว 8 หมื่นคน และเปิดให้ประชาชนทั่วไปสามารถวอล์กอินได้ ขณะนี้ฉีดไปแล้วกว่า 5 หมื่นคน อัตราการฉีดเฉลี่ย 3,000 คนต่อวัน แบ่งเป็นบุคคลทั่วไป 1,500 คน วอล์กอิน 1,000 คน และฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้เด็กนักเรียนอายุ 12-17 ปี อีก 700 คน เพราะบางส่วนก็ได้รับการฉีดที่โรงเรียนด้วย
อย่างไรก็ตาม จากที่ตนได้เข้าไปสังเกตการณ์ขณะเจ้าที่ผสมวัคซีนไฟเซอร์ พบว่า เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความละเอียดอ่อนในการผสมอย่างมาก เพราะจะต้องผสมยากับน้ำเกลือและดึงให้ได้ขนาดโดส 0.3 มิลลิลิตร
ทั้งนี้ สำหรับ จ.กระบี่ เป็นพื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว รองมาจาก จ.ภูเก็ต ประชาชนในพื้นที่ทุกคน ที่เข้าเกณฑ์การได้รับวัคซีน ต้องได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วน เพื่อรองรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว โดยคนในพื้นที่จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ป้องกันการลักลอบเข้าจังหวัดอย่างผิดกฎหมาย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายโรค
“ต้องขอขอบคุณพี่น้องทุกคนรวมถึงเด็กนักเรียนที่ให้ความร่วมมือในการเข้ารับวัคซีนเป็นอย่างดี เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคน และขอเน้นย้ำว่าแมวฉีดวัคซีนแล้วแต่เราก็ยังต้องป้องกันตัวเองให้เสมือนว่าทุกคนที่อยู่รอบตัวเราอาจจะเป็นผู้ที่ติดเชื้อ และเราเองก็จะต้องไม่เป็นผู้แพร่เชื้อไปหาผู้อื่นด้วย ป้องกันตัวเองก็เท่ากับป้องกันคนที่เรารัก” นายอนุทิน กล่าว
