โกงไม่เป็นไรขอให้แบ่งกัน-ผักกาดหอม

ผักกาดหอม

๑๙ กันยายน เจี๊ยวจ๊าวกันใหญ่

            รัฐประหาร ทำประเทศถอยหลัง!

 ตั้งแต่หัวยันหางแถว ด่ายับ ทหารเผด็จการ พรากทุกอย่างไปจากประเทศไทย

            ครบรอบ ๑๕ ปี คมช.ยึดอำนาจ ใครพูดอะไรกันบ้าง

            “นักโทษทักษิณ” ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์

                “๑๕ ปีที่แล้วของวันนี้คือวันที่โอกาสประเทศไทยและคนไทยในสังคมโลกยุคใหม่สูญเสียไปอย่างมากและต่อเนื่อง เพราะการนำประเทศถอยหลังด้วยระบบเผด็จการที่โลกทัศน์คับแคบ ห่วงแต่สถานภาพตัวเอง แต่ซ่อนรูปอยู่ในคำว่ารักชาติและรักสถาบัน

                บัดนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าเผด็จการต้องยุติและคืนประชาธิปไตยให้กับประเทศชาติและประชาชนได้แล้ว การรัฐประหารโดยทหารและตุลาการคือหายนะของประเทศ”

            นี่คือนิสัยทักษิณ 

            นักเสี่ยงโชคมักวางเดิมพันในช่วงที่คิดว่าตัวเองกำลังจะได้เปรียบ  แต่จะหมอบเมื่อเห็นแล้วว่าสู้ไปก็ไม่มีทางชนะ

            และช่วงเวลานี้ ทักษิณ คิดว่า ตัวเองกำลังจะได้เปรียบ ประเมินว่ารัฐบาลเพลี่ยงพล้ำจากวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจ จนมีม็อบเกิดขึ้นรายวัน

            ๑๕ ปี ประเทศไทยสูญเสียโอกาสอะไรไปบ้าง?

            เมื่อมีโอกาสแล้วคว้าไว้หรือไม่

            ใช่ว่าหลัง ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ “ทักษิณ” จะไม่มีโอกาส

            “ทักษิณ”  พยายามสืบทอดอำนาจ ผ่านรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช  รัฐบาลน้องเขย และรัฐบาลน้องสาว มีโอกาสที่จะพัฒนาประเทศ แต่สิ่งที่ระบอบทักษิณทำเมื่อกลับมามีอำนาจอีกครั้งคืออะไร

            รัฐบาลที่ได้ชื่อว่ามาจากการเลือกตั้งกลับทำได้แค่เป็นหุ่นเชิดของนักโทษหนีคุก

            ทุกอย่างมาชัดเจนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์

            หลังพยายามนิรโทษกรรมความผิดของ “ทักษิณ” ตั้งแต่รัฐบาลสมัคร มาเกิดเป็นรูปเป็นร่างยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ นั่นคือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง

            แทนที่จะฉวยโอกาสจากความเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งในการพัฒนาประเทศ แต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์กลับพัฒนากระเป๋าตังค์พวกพ้อง  เงินโกงไหลมาเทมา

            พาประเทศเข้าสู่วิกฤตจำนำข้าว ชาวนาฆ่าตัวตาย ขณะที่นักการเมือง และนักธุรกิจในเครือข่ายระบอบทักษิณ ร่ำรวยขึ้นแค่ข้ามคืน

            หลักฐานที่ปรากฏ ณ วันนี้ ล้วนหลงเหลือให้เห็นอยู่ในคุก!

            ความสูญเสียที่เกิดจากรัฐบาลที่อ้างว่าตัวเองมาจากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องซ้ำซาก ไม่เคยมีการถอด และทบทวนเป็นบทเรียน

            หลายครั้งถูกนำไปเป็นสาเหตุของการทำรัฐประหาร

            รัฐประหาร ไม่ควรเกิด เช่นเดียวกับ รัฐบาลจากการเลือกตั้งต้องไม่คอร์รัปชัน

            สำหรับประเทศไทย รัฐประหารคือกระจกสะท้อนรัฐบาลจากการเลือกตั้งที่แหลกเหลว

            แต่ดูเหมือนว่านักการเมืองไทยไม่เข้าใจสิ่งนี้

            รัฐประหารไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องในระบอบประชาธิปไตย

            ขณะที่การคอร์รัปชัน คือตัวปัญหาของทุกระบอบการปกครอง

            ไม่ว่าจะเผด็จการ หรือประชาธิปไตย ล้วนหายนะเพราะคอร์รัปชันมานักต่อนักแล้ว

            ฉะนั้นหากจะแก้ปัญหากันจริงๆ ก็ต้องเริ่มที่ต้นตอ

            แต่วันนี้ คนโกง สมุนคนโกง ล้วนชี้หน้าด่าว่า คนทำรัฐประหารคือต้นตอทำให้ประเทศสูญเสียโอกาสในการพัฒนา

            รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทายาทการเมือง พรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย อยู่ในขบวนการคอร์รัปชันมาต่อเนื่องเกือบตลอด ๑๕ ปีที่ผ่านมา

            โกงซ้ำซาก

            ไม่สำนึกผิด

            รัฐบาลพี่ทุจริตเชิงนโยบาย มีผลประโยชน์ทับซ้อน

            รัฐบาลน้องทุจริตจำนำข้าว

            พฤติกรรมไม่ต่างฆาตกรต่อเนื่อง

            ไม่ใช่การฆ่าคน

            เป็นการสังหารประเทศ

            แต่วันนี้ความผิดทุกอย่างถูกโยนไปที่การรัฐประหาร

            นักการเมือง นักวิชาการ พากันโจมตีว่าประเทศล้าหลังเพราะ กองทัพ ทำรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า นับได้ก็ ๑๓ ครั้ง เป็นลำดับต้นๆ ของโลก

            ดูเหมือนว่า เราละเลยสถิติการโกงของรัฐบาล

            และทุกรัฐบาลที่ผ่านมาล้วนหนีไม่พ้นการคอร์รัปชัน

            ไม่เคยมีรัฐบาลไหนประกาศ และลงมือปราบคอร์รัปชันอย่างจริงจัง

            จนหลายครั้งน่าสมเพช แต่ละรัฐบาลพยายามคุยข่มว่าดัชนีภาพลักษณ์การคอร์รัปชันในรัฐบาลตัวเองดีกว่ารัฐบาลก่อน

            ทั้งที่ในความจริง มันเลวร้ายพอๆ กัน แม้แต่ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ก็เถอะ

            เราไม่กระเตื้องขึ้นเลย

            เห็นทีมโฆษกพรรคเพื่อไทยแถลงข่าวบอกว่า…

            …ประเทศไทยกำลังจะกลายเป็นเสือตัวที่ ๕ ของเอเชีย แต่วันนี้กลับกลายเป็นประเทศที่ต่างชาติเมินหันหลังให้ เพราะรัฐประหารบ่อยครั้งจนเคยชิน จากประเทศ “กำลังพัฒนา” มาสู่ประเทศ “ห้ามพัฒนา”  เพราะมีผู้นำประเทศคนเดียวกับคนที่ลงมือทำรัฐประหาร ประชาคมโลกไม่ยอมรับ เมื่อทหารปกครองประเทศ ทำให้ประเทศสูญเสียทุกด้าน….

            ประทานโทษเถอะครับ  นี่คือสันดานนักการเมือง ไม่เคยโทษตัวเอง

            ถุย!

            รู้มั้ย “ทักษิณ” สร้างความฉิบหายอะไรเอาไว้บ้าง

            ก่อนรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙  “ทักษิณ” พูดถึง ธุรกิจครอบครัวคือ “แอร์เอเชีย”

            “การเดินทางทางอากาศ ทั่วโลกมีสายการบินราคาถูก ประเทศไทยก็ต้องการให้ประเทศไทยมีสายการบินราคาถูก จากเดิมเคยด่าวันนี้ไม่เห็นด่ากันเลย เขาแฮปปี้กันหมด เพราะราคาถูก ทำให้คนรายได้น้อยใช้บริการได้ การบินไทยก็มีนกแอร์ มีภูเก็ตแอร์ ฯลฯ ดังนั้นแอร์เอเชียก็เหมือนกับทุกการบิน ไม่มีเส้น สามารถเอาข้อมูลมากางดูกันเลย ส่วนสายการบินอื่นๆ จะปรับก็ถือเป็นเทคนิคกลยุทธ์ของเขาเอง”

            ย้อนกลับไปดูซิครับว่า มติ ครม.รัฐบาลทักษิณ เอื้อประโยชน์อะไรให้สายการบินต้นทุนต่ำบ้าง

            แค่มติ ครม.ลดราคาค่าหลุมจอดในยุคนั้น “แอร์เอเชีย” ลดต้นทุนไปเท่าไหร่

            “ทักษิณ” อ้างได้ว่า ก็ลดให้ทุกสายการบิน

            แต่นี่คือผลประโยชน์ทับซ้อนที่เห็นชัดๆ และเป็นแค่หนึ่งในหลายๆ สิบกรณีที่เกิดขึ้น

            หรือกรณีการทูตไปเช้าเย็นกลับ จบด้วยการตามปิดดีลของธุรกิจตระกูลชินวัตร

            สุดท้ายประโยคเดียว สร้างความพินาศย่อยยับยากจะกลับไปเหมือนเดิมได้นั่นคือ

            “โกงไม่เป็นไรขอให้แบ่งกัน”

            หลังรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ได้ไม่นาน “ไชยันต์ ไชยพร” เขียนถึงงานวิจัยอยู่ชิ้นหนึ่ง เป็นงานวิจัยของ Luigi Manzetti and  Carlole J. Wilson, (2007), “Why Do Corrupt Governments Maintain  Public Support?”

            เพราะเหตุใดรัฐบาลที่คอร์รัปชันจึงรักษาการสนับสนุนจากสาธารณะไว้ได้?

            มีข้อสรุปว่า หลักฐานทางสถิติสอดคล้องกับสมมติฐานการศึกษาตั้งไว้ นั่นคือ

            “ประชาชนในประเทศที่สถาบันการเมืองและระบบราชการอ่อนแอไร้ประสิทธิภาพ แต่มีความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ (patron-clients relationships) ที่เข้มแข็ง มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนผู้นำที่ฉ้อฉลที่ประชาชนคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์ที่จับต้องได้จากผู้นำแบบนี้”

            แม้งานวิจัยชิ้นนี้ศึกษาจาก ๑๔ ประเทศทั่วโลก โดยไม่มีประเทศไทย

            แต่มันคือมรดกของระบอบทักษิณ ที่ฝากให้ลูกหลานไทยมาถึงทุกวันนี้.

Written By
More from pp
โรงพยาบาลโพธาราม รับมอบเงินบริจาค 500,000 บาท จาก สมาคมสโมสรนักลงทุน เพิ่อซื้อเครื่องมือแพทย์
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 วิบูลย์ คูหิรัญ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลโพธาราม พร้อมคณะกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลโพธาราม โดย นพ.สิริ สิริจงวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธาราม...
Read More
0 replies on “โกงไม่เป็นไรขอให้แบ่งกัน-ผักกาดหอม”